วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ฝาก 8 ข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลใหม่ ขอประชาชนให้กำลังใจให้จัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้

 


ธิดา ถาวรเศรษฐ : ฝาก 8 ข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลใหม่ ขอประชาชนให้กำลังใจให้จัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้


สวัสดีค่ะ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ครั้งสุดท้ายเรามาจัดรำลึกเหตุการณ์ปราบปรามประชาชนในปี 2556  10 ปีมาแล้วที่เราไม่ได้มาจัดที่นี่ เรามองแล้วว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้มารื้อฟื้นในสิ่งที่มันเกิดขึ้น ทั้งหมดเวลามันล่วงเลยมาจากปี 2553 จนถึงปี 2566  13 ปีมาแล้ว เหลืออายุความในการเอาคนผิดเข้าสู่การลงโทษอีก 7 ปี


ดังนั้น การถูกปราบปรามประชาชนน่าจะเป็นรุ่นสุดท้าย เราไม่ต้องการให้พี่น้องเยาวชน ประชาชนต่อไป จะต้องถูกปราบปรามแบบภาพที่พวกเราเพิ่งเห็นเมื่อกี้นี้ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย มีการรัฐประหารปราบปรามประชาชนตั้งแต่รุ่น 2516 การฆ่าประชาชนกลางถนนเริ่มมีตั้งแต่ 2516, 2519, 2535 แล้วก็ 2552, 2553 ที่เป็นช่วงเวลาที่มีการยกระดับของการปราบปรามประชาชน เราต้องการให้การปราบปรามประชาชนแบบที่เราเห็นนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่เกิดอีกต่อไป ดังนั้นจึงเป็นภารกิจของพวกเราที่จำเป็นจะต้องสืบทอดเจตนารมณ์ที่เรายังทำไม่สำเร็จก็คือทวงความยุติธรรมปี 2553 เพื่อเยาวชนและประชาชนปัจจุบันและอนาคต ไม่ให้ตายกลางถนนแบบนี้อีกต่อไป


แม้นว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน เราไม่อยากให้เป็นแต่เพียงว่า ถึงเวลาก็มีพิธีสงฆ์ แล้วก็มากล่าวรำลึก ดังนั้น เมื่อเหตุการณ์มันผ่านมาพอสมควร เรารู้แล้วว่าเริ่มจะมีการเลือกตั้ง แม้นว่าการขับเคลื่อนโดยนปช.ไม่ได้ดำรงอยู่ก็ตาม แต่คนเสื้อแดงยังอยู่ และต้องการทวงความยุติธรรม และยังต้องการต่อสู้เช่นเดิม เมื่อเป็นเช่นนี้เราก็จำเป็นที่จะต้องมีหน่วยทำงาน เราได้ทำงานมาตั้งแต่ปี 2565 เป็นเวลาร่วมปี เพื่อที่จะทำให้ได้เกิดรายละเอียดว่าผู้ที่ตายทั้งหมด 99 ศพ ได้มีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพไปกี่ศพ แล้วที่ไต่สวนชันสูตรพลิกศพไปแล้ว 33 ศพ 15 ศพ ศาลไต่สวนแล้วว่าเป็นการถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐหรือทหารนั่นเอง อีก 17 ศพที่ไต่สวนแล้วบอกว่าไม่รู้กระสุนมาจากทางไหน ทั้ง ๆ ที่บางศพก่อนหน้ารัฐประหารเพิ่งถูกตัดสินว่ากระสุนมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เดียวกัน เวลาเดียวกัน แต่หลังรัฐประหารกระสุนไม่รู้มาจากไหน ดังนี้เป็นต้น หลังจากนั้นถูกแช่แข็ง ยังมีอีก 62 ศพ แม้กระทั่งศพทหารก็ไม่ได้ไต่สวนชันสูตรพลิกศพ


เราจึงจำเป็นที่จะต้องทำงานรวบรวมข้อมูลซึ่งเราจะพิมพ์เป็นหนังสืออีกทีหนึ่ง เพราะฉะนั้น ทุกศพที่มีการเสียชีวิตของวีรชน เรามีรายละเอียดหมดว่าตายที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาไหน และมีผลชันสูตรพลิกศพหรือเปล่า เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ในโอกาสต่อไปจะได้ทำงานได้ DSI ก็ไม่ทำงาน ตำรวจก็ไม่ทำงาน แล้วกลายเป็นว่าผู้ถูกกระทำคดีความต่าง ๆ ก็คือคนเสื้อแดง ในอดีตเขามีการนิรโทษกรรม เขานิรโทษสองฝ่าย 14ตุลา16 นิรโทษสองฝ่าย, 6ตุลา19 นิรโทษสองฝ่าย, 35นิรโทษเหมือนกันสองฝ่าย, แต่ 53 เราก็ไม่ได้ต้องการ เราต้องการเอาคนผิดมาลงโทษ ใช่หรือเปล่าคะ ปรากฏว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเขาไม่จำเป็นต้องนิรโทษ เหตุผลเพราะว่า ถ้าเป็นนักการเมือง ป.ป.ช.ก็บอกว่าเขาทำตามหน้าที่ แปลว่านักการเมือง 2 คนที่จะต้องรับผิดชอบก็ลอยนวลพ้นผิด ส่วนฝ่ายที่เป็นเจ้าหน้าที่ทหาร เมื่อเรานำไปขึ้นศาล ศาลก็บอกว่าต้องไปศาลทหาร นี่จึงเป็นเหตุให้เราได้รวบรวมปัญหาต่าง ๆ แล้วมีข้อเสนอ 8 ข้อ สำหรับรัฐบาล เรารู้อยู่แล้วว่ารัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องเกิดขึ้นแน่นอนตั้งแต่ปีที่มีการระบุว่าจะมีการเลือกตั้ง ดังนั้นเราเตรียมเอาไว้ก่อนแล้ว เพื่อที่ว่าเมื่อมีรัฐบาลใหม่จะได้ทำงานทันที


3 ข้อแรกเป็นข้อเรียกร้องก็คือ ในข้อที่ 1 เราต้องการกรรมการที่เร่งรัดตรวจสอบผลักดันคดีที่ถูกแช่แข็งและบิดเบือน โดยที่เราเตรียมเอกสารให้พร้อมหมดแล้ว แล้วก็มีการบังคับใช้กฎหมายให้ไปตามหลักนิติรัฐนิติธรรม เราเข้าใจว่าข้อ 1 คงจะเป็นไปได้แน่นอน แต่จะทำได้แค่ไหน ข้อที่ 2 แก้ไขกฎหมาย เพราะนักการเมืองถูกผลักให้ไปศาลคดีอาญานักการเมือง แล้วศาลคดีอาญานักการเมืองโทษต่ำกว่าศาลพลเรือนมากมาย ในคดีแบบเดียวกัน แล้วนอกจากนั้นยังมีป.ป.ช.อีกชั้นหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นศาล ไม่ส่งไปให้ศาลคดีอาญานักการเมือง ในประเด็นอันนี้เราพบว่าอธิบดีศาลอาญาได้โต้แย้งไว้เป็นจำนวนมากว่า คุณอภิสิทธิ์และสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องขึ้นศาลอาญา ไม่ใช่ศาลคดีของนักการเมืองด้วยเหตุผลมากมาย ทหารก็เช่นกัน ดังนั้นข้อ 2 ก็คือเราขอแก้ไขกฎหมาย ทหาร ถ้าทำคดีอาญา เกิดปัญหากับประชาชน ให้ขึ้นศาลพลเรือน นักการเมือง ถ้าก่อคดีอาญากับประชาชน ก็ให้ขึ้นศาลพลเรือนเช่นกัน


ในข้อ 3 ก็คือ ขอให้รับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เฉพาะกรณีปี 53 ได้เลยค่ะ สองข้อแรกเป็นการทำงานในประเทศ ข้อที่ 3 เป็นการทำงานระหว่างประเทศ เราทำไปแล้วตั้งแต่ อ.ธิดา เป็นประธานนปช.ในปี 2555 จนอัยการ หลายคนเข้าใจผิดว่าเขาไม่รับ เขารับแล้ว แล้วเขาก็เดินทางมาแล้ว แต่เรามีความขัดข้องต้องพิจารณา ยังไม่ได้เซ็นอนุญาตให้ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาสืบสวนสอบสวนเริ่มต้นได้ ดังนั้น เราจึงเรียกร้องต่อรัฐบาลชุดนี้ ในสามข้อแรก ส่วน 5 ข้อหลัง ดิฉันจะไม่เสียเวลาพูด ให้ท่านดูเอา 5 ข้อหลังก็คือ เรารู้ว่าความยุติธรรมมันเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าอำนาจไม่ได้เป็นของประชาชน ดังนั้นใน 5 ข้อหลังเป็นการเรียกร้องให้ประเทศนี้ได้อำนาจของประชาชนคืนมา


ดังนั้น เราจึงมีข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แบบเดียวกับที่นปช.ในยุคอ.ธิดาเคยเสนอเหมือนกันเดี้ยเลย ก็คือ หมายความว่าอะไร หมายความว่าประชาชนนั้นเป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญ โดยที่มีการเลือกสสร. แล้วสสร.ตั้งกรรมการในการร่างรัฐธรรมนูญ แบบเดียวกันเลยตั้งแต่ปีที่ขอแก้รัฐธรรมนูญปี 2550 แบบเดียวกัน ดังนั้นเราก็ยืนยันเหมือนเดิม การขอแก้รัฐธรรมนูญ แล้วลบล้างผลพวงการทำรัฐประหาร ดังนั้น ย่อ ๆ ก็คือ ปฏิรูปกฎหมาย ลบล้างผลพวงการทำรัฐประหาร เขียนรัฐธรรมนูญของประชาชน แล้วดังที่เรารู้กัน หลายคนที่ไม่กล้าแก้คดี ม.112 อ.ธิดา อยากจะบอกไว้ว่า มาตรา 112 เป็นผลพวงของการทำรัฐประหารเมื่อ 2519 มันไม่ได้หล่นจากไหน เมื่อมีการฆ่าประชาชนในมหาวิทยาลัย แล้วมีการทำรัฐประหาร 2519 มาตรา 112 ก็อุบัติขึ้นมาในลักษณะแบบนี้ ดังนั้น การลบล้างผลพวงของการทำรัฐประหารไม่ใช่แต่ในยุค คสช. ขอให้ถอยหลังไปด้วย เพราะยังมีกฎหมายหลายฉบับที่สมควรจะได้รับการแก้ไข ดังนั้น แก้ไขรัฐธรรมนูญ ลบล้างผลพวงการทำรัฐประหาร จึงเป็นเรื่องสำคัญมากเพื่อให้อำนาจประชาชนได้คืนมา ทั้งหมดมี 8 ข้อ แต่ความหมายก็คือว่า เราทวงความยุติธรรมในอดีต เพื่อคนปัจจุบันและอนาคต


อันที่สอง เราต้องการให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเพื่อคนที่อยู่ในปัจจุบัน ที่กำลังเผชิญปัญหาและลูกหลานเราในอนาคต นี่ฝากไปสำหรับรัฐบาลใหม่เรื่อง MOU ด้วย ปฏิรูปกฎหมาย ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ลบล้างผลพวงของการทำรับประหาร ถ้าตราบใดที่อำนาจไม่ได้เป็นของประชาชน ถ้าบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย อย่าหวังเลยความยุติธรรมจะเกิดขึ้น ความยุติธรรมที่มีอยู่เป็นความยุติธรรมของผู้ปกครองที่ใช้ปืนในการกดหัวประชาชน กดหัวมานานหลายปี มา ณ บัดนี้ ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา นี่ถือว่าเป็นการต่อสู้ของประชาชน ที่ได้รับชนะ ที่ฝ่ายประชาธิปไตยได้เป็นรัฐบาลแน่นอนในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราก็อยากจะรู้ว่า ส.ว. จะท้าทายอำนาจประชาชนและเป็นปฏิปักษ์กับประชาชนไปถึงไหน เพราะประชาชนอดทนมามากแล้ว โดยเฉพาะคนเสื้อแดง อดทนมานานมากแล้ว 17 ปีแล้ว


ดังนั้น เราต้องการที่จะส่งสารไปถึงทั้งรัฐบาลและส.ว. ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องปฏิบัติให้สมกับเป็นส.ส.ในระบอบประชาธิปไตย ส่วนส.ว.ที่มาของคุณนั้น โอเค คุณได้รับผลประโยชน์มากมายมายาวนานแล้ว แต่เราก็หวังว่า ก่อนที่จะสิ้นสุด ถ้าไม่อยากจะอายไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ก็ขอให้ปฏิบัติการครั้งสุดท้าย ก็คือสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งฝ่ายประชาธิปไตย ที่สนับสนุนให้พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และพรรคทั้งหลายฝ่ายค้านได้เป็นรัฐบาลร่วมกัน ให้ได้ผ่านด่านของส.ว. ได้เป็นรัฐบาลให้ได้ เพราะมิฉะนั้น ประชาชนน่าจะขาดความอดทน สำหรับเรา วันนี้ก็เป็นเหมือนกับเขาเรียกว่าออเดิร์ฟ เราไม่ได้มาที่นี่ 10 ปีแล้ว แล้วเราเลยจำเป็นที่จะต้องใช้ชื่อของคนเสื้อแดงและทีมงานเพื่อทำงานต่อ และเราสัญญากับพี่น้องว่า เราจะทำงานต่อไป ไม่ใช่เพียงแต่มาจัดงานรำลึก เราอาจจะมีข้อเสนอเพิ่มเติมจาก 8 ข้อ เพื่อส่งไปยังคณะรัฐบาล แต่เฉพาะหน้าที่ทำได้นั้นมีมากมาย ก็คือทำการกวดขัน เร่งรัดจัดการกับคดีต่าง ๆ ในอดีตและปัจจุบันที่ทำกับเยาวชน นี่มันทำได้เลยทันที


สำหรับในกรณีของ ICC ก็สามารถทำได้เลย เพราะว่าเราจะเริ่มต้นรวบรวมเอกสารทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อไปเพิ่มเติมจากที่ 10 ปีที่แล้วเราได้ยื่นไว้ ให้เห็นว่ามันยังไปไม่ถึงไหน และสุดท้ายก็คือ พ.ร.บ. ในการแก้กฎหมายให้ทหารและนักการเมืองที่ทำผิดต่อประชาชนขึ้นศาลพลเรือนให้ได้


ดิฉันขอเรียกร้องว่าขอให้พวกเราทั้งหลาย ได้โปรดให้กำลังใจรัฐบาลและสนับสนุนรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ และให้เตรียมความคิดที่ว่าอาจจะมีอุปสรรคทั้งด่านส.ว. ด่านกกต. และด่านอื่น ๆ กระทั่งสุดท้าย อาจจะมีการทำรัฐประหารใหม่หรือเปล่า เราก็ไม่ทราบ เพราะเราเชื่อใครไม่ได้เลย ดังนั้น เรายังมีชีวิตอยู่ นี่เป็นหน้าที่ที่เรายังต้องทำ เราพยายามที่จะส่งไม้ต่อให้กับเยาวชนคนรุ่นหลัง แต่ว่าตราบเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราก็จะสู้อย่างถึงที่สุด เพื่อที่จะให้วีรชนของเราและคนเสื้อแดงได้ตระหนักว่าเราไม่ทิ้งกัน เราไม่ลืม และเราจะสู้จนถึงที่สุด และมอบมรดกนี้ให้กับคนรุ่นต่อไปเพื่อไม่ให้ประชาชนถูกฆ่าตายกลางถนน แล้วคนฆ่า คนสั่งฆ่า ยังลอยนวล ถ้าเราไม่ทำ ลูกหลานเราข้างหน้าก็มีโอกาสจะถูกฆ่าเช่นนี้ได้เหมือนกัน อ.ธิดา ได้พยายามเต็มที่แล้ว และก็ยังจะพยายามต่อไปอย่างเต็มที่ แต่ว่านี่ก็เป็นการส่งสารให้รู้ว่า ต่อจากนี้เราจะมีนัดกันอีก เราอาจจะมีนัดที่รัฐสภา หรือว่า แน่นอนที่สุดก็คือ เราจะมีนัดในวันที่ 19 พฤษภาคม  ณ ที่แห่งนี้ ณ แยกราชประสงค์นี้ แล้วรวมพลให้ยิ่งใหญ่เฉกเช่นในอดีตประมาณหลายปีที่ผ่านมาแล้ว อาจจะไม่เท่า แต่ว่าเราก็จะรวมพลรุ่นใหม่มาด้วย อาจารย์ก็ขอให้พวกเราส่งกำลังใจให้รัฐบาล และก็ขอบคุณทุกคนที่มาที่นี่ เพราะเราคือคนต่อสู้ที่ตัวยังเป็น ๆ อยู่นะคะ ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีค่ะ


อ่าน 8 ข้อเรียกร้องของ คปช.53 ต่อรัฐบาลใหม่ ที่ https://udd-news.blogspot.com/2023/02/53_23.html


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คปช53 #คนเสื้อแดง #13ปีเมษาพฤษภา53