วันจันทร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2566

‘อนุสรณ์’ วอน ‘ชัยวุฒิ’ หยุดใส่ร้ายเพื่อไทย แนะเดินหน้าหาเสียง นำเสนอนโยบาย ปชช.


 

‘อนุสรณ์’ วอน ‘ชัยวุฒิ’ หยุดใส่ร้ายเพื่อไทย แนะเดินหน้าหาเสียง นำเสนอนโยบาย ปชช.


วันที่ 10 เมษายน 2566 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ (พปชร.) ปราศรัยพาดพิงโจมตีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย วานนี้ในหลายประเด็น ว่า อยากให้นายชัยวุฒิ มีวุฒิภาวะมากกว่านี้ และควรเดินหน้าทำตามนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งที่ พปชร.ได้หาเสียงไว้ อย่างไรก็ดี ขอชี้แจงว่า 


1. การที่นายชัยวุฒิกล่าวหาว่า หากเลือกพรรคเพื่อไทย บุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คือนายเศรษฐา ไม่ใช่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยนั้น พรรคเพื่อไทยเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รวม 3 คน ซึ่งทั้ง 3 คนมีคุณสมบัติเป็นนายกรัฐมนตรีได้ทั้งหมด ซึ่งหลังการเลือกตั้ง หากประชาชนมีฉันทามติเลือกพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง จะมีกระบวนการของกรรมการบริหารพรรคจะมีมติในอนาคต ไม่ได้เกี่ยวกับการโอนหุ้นหรือไม่โอนหุ้นตามที่นายชัยวุฒิกล่าวอ้าง แต่เป็นเรื่องที่ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย เมื่อต้องเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นเรื่องที่นายชัยวุฒิปราศรัย จึงเป็นเพียงการบิดเบือนประเด็น 


2. การที่นายชัยวุฒิ ปราศรัยหาเสียงว่า หากนายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ต้องทำตามคำสั่งนายใหญ่ หรือต้องเป็นน้องเขยนั้น ถือเป็นการหาเสียงที่ใส่ร้าย บิดเบือน จงใจให้กระทบกับคะแนนเสียงของพรรคการเมืองอื่น ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างชัดเจน หากนายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ ต้องทำตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้หาเสียงไว้ เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่หาเสียงอย่างไร เมื่อเป็นรัฐบาล ก็ทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้มาโดยตลอด ไม่เหมือนพรรคพลังประชารัฐที่นายชัยวุฒิสังกัด ซึ่งไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ในปี 2562 ทั้งเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี 20,000 บาท ค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาทต่อวัน หรือลดภาษีนิติบุคคล 10% เป็นต้น ดังนั้นนายชัยวุฒิ อย่าเอามาตรฐานของพรรคตนเองมายัดเยียดให้คนอื่น


3. ส่วนกรณีที่นายชัยวุฒิปราศรัยโจมตีการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร นั้นเรื่องนี้เป็นการบิดเบือน ใส่ร้าย เพราะนโยบายที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง สนับสนุนการเกณฑ์ทหาร เป็นระบบสมัครใจ พร้อมปรับให้หน่วยงานทหารเป็นโรงเรียนสร้างทักษะและความรู้ของทหารเกณฑ์ เมื่อฝึกทหารครบกำหนดวาระแล้ว สามารถมีทักษะ ความรู้ประกอบอาชีพได้ เป็รนโยบายที่มีประโยชน์ต่อ ประเทศชาติและพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยต้องการสร้างกองทัพอาชีพ ที่มีความเข้มแข็ง ดังนั้นนายชัยวุฒิไม่ควรบิดเบือนใส่ร้ายนโยบายนี้


“ พปชร.จะหาเสียงอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ขอให้หยุดการบิดเบือนใส่ร้ายพรรคอื่น แต่ละพรรคควรที่จะนำเสนอนโยบายแข่งขันกัน พรรคเพื่อไทยหาเสียงนโยบายของเรา และตามข้อเท็จจริงหลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งเพราะต้องการให้ประชาชนรับฟังนโยบายที่เป็นประโยชน์จริงๆ นโยบายมากมายของเราทั้งเงินเดือน ป.ตรี 25,000 บ. ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท. กระเป๋าเงิน ดิจิทัล 10,000 บาทสำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป รวมถึงมาตรการพักหนี้ 3 ปี ทั้งต้นและดอก และอีกมากมาย เราตั้งใจคิดค้นนโยบายขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาประชาชนอย่างแท้จริง” นายอนุสรณ์ กล่าว 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66