วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2566

พี่น้องสงขลาร่วมหมื่นคนฟังปราศรัย ‘เศรษฐา’ ประกาศชัด ‘ราคายาง-ปาล์ม’ ต้องกลับมาดี ‘ประมง’ ต้องกลับมายิ่งใหญ่ ‘วิสุทธิ์’ บอกใครไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน เอาไปเลย ‘โฉนด 50 ล้านไร่’ ทำกินได้อย่างมีศักดิ์ศรี

 


พี่น้องสงขลาร่วมหมื่นคนฟังปราศรัย ‘เศรษฐา’ ประกาศชัด ‘ราคายาง-ปาล์ม’ ต้องกลับมาดี ‘ประมง’ ต้องกลับมายิ่งใหญ่ ‘วิสุทธิ์’ บอกใครไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน เอาไปเลย ‘โฉนด 50 ล้านไร่’ ทำกินได้อย่างมีศักดิ์ศรี


วันที่ 26 เมษายน 2566 พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อพี่น้องสงขลา ที่เวทีโรงเรียนเทคโนโลยีหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นำโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย  นายวิสุทธิ์  ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.สงขลา พรรคเพื่อไทยประกอบด้วย นายสำราญ บุญเส้ง ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 1 เบอร์ 6นายชนาธิป สันติภราภพ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 2 เบอร์ 7, นางสาวชนัญชิดา ล่วนรักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 3 เบอร์ 10นายสมศักดิ์ แสงประดับ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 4 เบอร์ 5, นายสะหาก หมุดตะเหล็บ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 5 เบอร์ 4, นายธนพล ศรีเนตร ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 6 เบอร์ 8, นางสาวซีนาวาตีย์ เบ็ญบาเห็ม ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 7 เบอร์ 8, นายฮานาพี หมีนเส็น ผู้สมัคร ส.ส. สงขลา เขต 8 เบอร์ 8, และ นางสาวชานิสรา ภูวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 9 เบอร์ 10 โดยมีพี่น้องชาวสงขลามาฟังปราศรัย ชูป้ายสนับสนุนผู้สมัครพรรคเพื่อไทยอย่างคึกคักพร้อมโห่ร้องตะโกนเชียร์อย่างกึกก้องกว่า 1 หมื่นคน


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยปราศรัยกับพี่น้องขอโอกาสพรรคเพื่อไทยได้แก้ไขปัญหาปากท้องให้พี่น้องชาวใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  พรรคเพื่อไทยเห็นว่าที่จังหวัดสงขลา เป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ที่มีอนาคตเติบโตได้ดี แต่มีอุปสรรคในข้อกฎหมายไม่เอื้อให้พี่น้องได้ประกอบธุรกิจได้อย่างสะดวก พรรคเพื่อไทยจะแก้ไขอุปสรรคเหล่านี้เพื่อสร้างรายได้ด้วยนโยบายต่างๆมากมายเพื่อสนับสนุนให้พี่น้องมีรายได้มากขึ้น


“ขอคะแนนจากพี่น้องชาวสงขลาให้ได้มีส.ส.เพื่อไทย เข้าไปเป็นตัวแทนพี่น้องชาวใต้ในสภา โปรดอย่าแบ่งใจ เลือกเพื่อไทยเบอร์ 29 และส.ส. เขตจากพรรคเพื่อไทย ให้แลนด์สไลด์ทั้งสงขลานะคะ” แพทองธารกล่าว


นายเศรษฐา ทวีสิน ปราศรัยถึงเรื่องปัญหาประมงว่าหลังการทำรัฐประหาร รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ได้ไปตกลงเกี่ยวกับการประมงที่เรียกว่า IUU ทำให้พี่น้องชาวประมงเสียผลประโยชน์อย่างมโหฬาร รายได้ลดลง จากเคยส่งออก 2.5 แสนล้านบาท แต่ตอนนี้ต้องนำเข้าสัตว์น้ำปีละกว่าแสนล้านบาท ไปกลับคือ 4 แสนล้านบาท เป็นผลจากการตัดสินใจของผู้นำที่ไม่เข้าใจบริบทของการค้าขาย ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องทุกท่าน เราจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ เรือประมงไทยต้องออกไปจับสัตว์น้ำได้ วิถีการประมง รายย่อย รายกลาง รายใหญ่ ต้องกลับมาทำงานได้ทันที


“ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับเลือก นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยจะอุทิศเวลาทุกนาทีแก้ปัญหา ทั้งราคายาง ราคาปาล์มที่เราพูดกันทั้งวันนี้ ปัญหาประมง จะต้องถูกแก้ไข ขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนเลือกผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทยเข้าสภาไปแก้ปัญหาให้พี่น้องด้วยครับ” นายเศรษฐากล่าว


นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.เพื่อไทยปราศรัยว่า วันนี้เดินไปที่ไหนในภาคใต้ก็จะมีแต่คนพูดถึงอยู่แค่ 3-4 อย่าง คือ ราคายาง ราคาปาล์ม ปัญหาเอกสารสิทธิที่ดินทำกินและค้าขายเงียบเหงา พรรคเพื่อไทยจะแก้ปัญหาราคายางด้วยการให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเจรจาราคายางกับประเทศผู้ผลิตยางคืออินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และส่งเสริมแปรรูปเพิ่มมูลค่ายางเพราะเราเชื่อว่าราคาสูงได้กว่านี้ ค่าปาล์มราคาตกและยังมีค่าปุ๋ยแพง เราจะลดค่าปุ๋ย เอกสารสิทธิที่ดินทำกิน เรามีนโยบายโฉนด 50 ล้านไร่ ให้พี่น้องมีเอกสารสิทธิทำกินได้อย่างอุ่นใจว่าจะไม่โดนฟ้องร้องขับไล่


“สมัยราคายางพาราโลละร้อย  พี่น้องเดินคอเอียงเพราะใส่ทองเส้นละ 5-10 บาท วันนี้ต้องถอดขายจำนำเอาเงินผ่อนรถส่งลูกเรียนกันหมด ถ้าพี่น้องอยากมีทองเส้นโต มีเศรษฐกิจดีๆ เหมือนสมัยนั้น วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ถ้าอยากเปลี่ยนอนาคต อยากสู้เพื่อลูกหลาน แบ่งใจไม่ได้กาเพื่อไทย 2 ใบทั้งคนทั้งพรรคเท่านั้น” ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าว


นายจาตุรนต์ ฉายแสง ปราศรัยว่าตลอด 8 ปี พี่น้องเดือดร้อนทางเศรษฐกิจเพราะพลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจ ทำให้ไม่สามารถไปเจรจาการค้าอะไรกับใครได้ตลอด 5 ปี หลังจากนั้นอีก 4 ปี ก็ไม่เคยเจรจาการค้ากับใคร ขณะที่เวียดนามเจรจา FTA มูลค่ามากกว่าเรา 3 เท่า  อินโดนีเซียเจรจา FTA มูลค่ารวมมากกว่าเรา 4 เท่า  สิงคโปร์เขาเจรจา FTA มากกว่าเรา 8 เท่า แล้วถามว่าแล้วเราจะไปอยู่ตรงไหน ยังไม่นับการค้าชายแดนซึ่งมีมูลค่ามหาศาล สมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ผมมากับท่านเชิญรัฐมนตรีมาคุยเปิดด่านส่งเสริมให้เป็นด่านค้าขายกับเพื่อนบ้านสร้างรายได้ให้พี่น้อง แต่พอพลเอกประยุทธ์เอาทหารมาคุมชายแดน ทำลายศักยภาพท่องเที่ยวและการค้าเสียหายหมดสิ้น


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปราศรัยคนสุดท้ายกล่าวสรุปว่า ในการเลืองตั้งที่จะมาถึงนี้ พี่น้องมีสิทธิพิจารณาผู้สมัครได้ทุกพรรค ปัญหาคือ ไม่ว่าพรรคไหนเข้ามา ความทุกข์ยากของพี่น้องลดลงบ้างไหม ความลำบากของพี่น้องจะหายไปบ้างไหม หรืออย่างน้อยถามตัวเองว่า 9 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2557-2566 นี้สภาพชีวิตเงินในกระเป๋าเป็นอย่างไร ราคายางได้เท่าไร ดังนั้น ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เรามีผลงานว่าเราทำได้ ทุกปัญหาเรามีทางแก้ไข ถ้าพี่น้องเบื่อหน่ายประยุทธ์แล้ว ก็ต้องกาเพื่อไทยเพื่อไล่ประยุทธ์และ 3 ป.ออกไป


“บ้านเมืองไม่ใช่สนามเด็กเล่น การเมืองไม่ใช่เก้าอี้ดนตรี ที่จะให้ 3 ป. มานั่งเก้าอี้นายกฯ เวียนไปกันทีละ ป. ตอนนี้คือ 3 ป.ต้องไปทั้งหมดได้แล้วทันที ดังนั้น 14 พฤษภาคมนี้ กาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบทั้งคนทั้งพรรคเท่านั้น” ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยกล่าวในที่สุด


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66