วันพุธที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2566

ฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ : รองเลขาธิการพรรคประชาชาติ เสนอนโนบายและแนวทางปฏิบัติ ต่อ 8 ข้อเรียกร้องของคปช.53

 


ฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ : รองเลขาธิการพรรคประชาชาติ เสนอนโนบายและแนวทางปฏิบัติ ต่อ 8 ข้อเรียกร้องของคปช.53


สำหรับพรรคประชาชาติ นายฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ รองเลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นตัวแทนพรรคฯ เข้าร่วมงาน และได้กล่าวว่า “วันนี้ที่ตนเข้ามาในงานแล้วรู้สึกขนลุกที่ได้เห็นการเสียสละ ได้เห็นการรำลึก เห็นความสามัคคีของคนเสื้อแดง รู้สึกชื่นชมในการต่อสู้ของทุกท่าน เยาวชนคนรุ่นใหม่ดูเป็นตัวอย่างไว้”


“พรรคประชาชาติเป็นพรรคขนาดเล็ก การเลือกตั้งที่ผ่านมามีส.ส.แบบแบ่งเขต 6 คน (ยะลา 2 คน, นราธิวาส 2 คน, ปัตตานี 2 คน) อย่างไรก็ตามพรรคประชาชาติก็เป็นขั้วพรรคประชาธิปไตย เห็นได้จากการทำงานทางการเมือง 4 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาชาติก็ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพรรคเพื่อไทย, พรรคก้าวไกล, พรรคเสรีรวมไทย มีโอกาสได้เข้าไปต่อสู้ในการออกกฎหมาย”


“ผมอยากจะบอกว่าสนามบินสุวรรณภูมิได้เซ็นสัญญาเป็นรูปเป็นร่างในสมัยท่านนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่ปฏิเสธเงินที่นายทุนนำมาให้พันกว่าล้าน ชื่อ อาจารย์วันมูหะมัดนอร์ มะทา ซึ่งขณะนี้ท่านเป็นหัวหน้าพรรคประชาชาติ มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นเลขาธิการพรรค”


สำหรับ 8 ข้อเรียกร้องของคปช.53 ต่อพรรคการเมืองนั้น นายฐาคณิษฐ์ ได้กล่าว่า


ข้อแรก หากพรรคประชาชาติได้ร่วมเป็นรัฐบาล พรรคประชาชาติพร้อมที่จะสนับสนุนในการผลักดันให้ความยุติธรรมออกมา เพราะการเรียกร้องประชาธิปไตยหรือการแสดงออกซึ่งประชาธิปไตยไม่ควรมีใครที่จะต้องเป็นผู้เสียสละด้วยชีวิตขนาดนี้ ในฐานะที่เป็นปุถุชนธรรมดาเราก็รู้สึกว่าสิ่งนี้มันไม่ถูกต้องอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่พรรคประชาชาติก็ต้องยืนอยู่ข้างประชาชนอย่างถูกต้อง


ส่วนการแก้ไขกฎหมาย กรณีทหารและนักการเมืองทำความผิดต่อประชาชน พลเรือนให้ขึ้นศาลพลเรือน ไม่ใช่ขึ้นศาลทหาร หรือ ศาลนักการเมืองดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ นายฐาคณิษฐ์ กล่าวว่า ข้อนี้ท่านหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคได้มีการวางไว้แล้ว เห็นด้วยว่าเมื่อทหารทำความผิดควรถูกนำขึ้นศาลพลเรือนเหมือนกับประชาชนทั่วไป


กรณีการลงนามรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เฉพาะกรณีเหตุการณ์ 2553 นายฐาคณิษฐ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทางพรรคประชาชาติพร้อมที่จะผลักดันเพื่อให้ความจริงอันนี้ออกมาเช่นกัน


ข้อต่อมา คือดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยการใช้ สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศตามสัดส่วนประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ นั้น รองเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ข้อนี้เป็นสิ่งที่คิดว่าคนที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยก็อยากแก้ไขอยู่แล้ว และมีหลายประเด็นที่ควรแก้ไข อาทิเช่น เรื่อง การให้สิทธิ์ ส.ว. 5 ปี ในการเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นต้น ยืนยันว่าถ้าได้เข้าไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ยินดีที่จะช่วยแก้ไขและผลักดันให้ได้


ส่วนการแก้ไขกฎหมายอื่นอันเป็นผลพวงจากการทำรัฐประหาร รวมทั้ง พ.ร.บ.ที่ทำให้เกิดองค์กรรัฐซ้อนรัฐ (กอ.รมน.) นายฐาคณิษฐ์ กล่าวว่า พรรคประชาชาติมีนโยบายอยู่แล้ว เพราะจริง ๆ กอ.รมน. เป็นองค์กรที่ทำงานเพื่อรัฐบาล ควรจะเปลี่ยนให้มาทำงานเพื่อประชาชน จริง ๆ แล้วถ้ามีโอกาสได้เข้าไป ผมว่าควรจะยุบ กอ.รมน. ไปเลย


เรื่องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปกองทัพและองค์กรอิสระอย่างจริงจัง โดยนายฐาคณิษฐ์กล่าวว่า “ปัจจุบันเราเห็นแก๊งค์อาชญากรรมต่าง ๆ มากมาย มีแก๊งค์สีเทา คนมีเงินทำความผิดไม่ต้องติดคุก เคยมีคำพูดที่ว่า “คุกไม่ได้มีไว้ขังคนรวย” ดังนั้นต้องมีการปฏิรูประบบของกระบวนการยุติธรรมมากพอสมควร รวมทั้งปฏิรูปกองทัพด้วย โลกปัจจุบันเราไม่ได้ต่อสู้กันด้วยจำนวนทหารแล้ว ไม่ได้ต่อสู้กันด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ มันต่อสู้นโยบายระหว่างประเทศ ดังนั้นกองทัพควรได้รับการปฏิรูปด้วย งบประมาณต่าง ๆ ที่เราเห็นกันมากมาย 8 ปีที่ผ่านมา เราควรจะได้เอาเงินมาช่วยเหลือประชาชน เอาเงินมาปฏิรูปเศรษฐกิจให้เงินเกิดการหมุนเวียน มากกว่าให้ไปหมุนเวียนตามกรมกองต่าง ๆ


การกระจายอำนาจบริหารจากส่วนกลางไปยังภูมิภาค ซึ่งเรื่องนี้พรรคประชาชาติมีนโยบายผลักดันให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ยกตัวอย่างสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพี่น้องมุสลิมซึ่งมีความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม ศาสนา แต่ทุกคนเป็นคนไทย การแก้ไขปัญหาที่เหมาะควรคือการให้เขาได้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดตัวเอง ให้เขาได้มีงบบริหารจังหวัดของเขาเอง พรรคประชาชาติเห็นด้วยและพร้อมจะเข้าไปผลักดันแก้ไขในเรื่องนี้ด้วย ถ้าพวกเราได้เข้าไปร่วมเป็นรัฐบาล ผมว่าผมก็เป็นพรรคหนึ่งที่จะเอาข้อมูลพวกนี้ไปปรึกษาผู้ใหญ่ในพรรค และจะผลักดันให้ออกกฎหมายเพื่อช่วยประชาชนพี่น้องทั้งประเทศ


ช่วงท้าย นายฐาคณิษฐ์ กล่าวว่า ผมยังเห็นพี่น้องเสื้อแดงอยู่เต็มลานนี้เลย วันนี้ผมดีใจที่ผมได้ฟังแนวความคิดของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่จะไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ ได้ฟังแล้วผมอิ่มเอิบใจ ส่วนตัวก็ดีใจแทนพี่น้องเสื้อแดงด้วยที่ทั้ง 4 พรรค มีอุดมการณ์ที่จะทำงาน ที่จะต่อสู้เพื่อพี่น้องคนเสื้อแดงและเพื่อประชาชนด้วย ซึ่งผมจะเอานโยบายข้อเรียกร้อง 8 ข้อของคณะประชาชนทวงความยุติธรรม (คปช.53) ผมรับปากและยืนยันว่าผมจะไปคุยกับพรรคแน่นอน ไม่ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ผมจะเอาเรื่องนี้ไปต่อสู้ให้ครับ ขอบคุณครับ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คปช53 #ประชาชาติ #13ปีเมษาพฤษภา53 #คนเสื้อแดง