วันเสาร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2566

‘เซีย จำปาทอง’ ปาร์ตี้ลิสต์ปีกแรงงานก้าวไกล ขอประชาชนกาก้าวไกล 2 ใบ ส่งมือแรงงานไปเปลี่ยนประเทศไทยให้ดีกว่าเดิม

 


เซีย จำปาทอง’ ปาร์ตี้ลิสต์ปีกแรงงานก้าวไกล ขอประชาชนกาก้าวไกล 2 ใบ ส่งมือแรงงานไปเปลี่ยนประเทศไทยให้ดีกว่าเดิม

 

วันที่ 22 เมษายน 2566 เซีย จำปาทอง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้นำปีกแรงงาน ปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งว่าขอขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่เสนอนโยบายตอบสนองพี่น้องแรงงาน เช่น นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทต่อวันทันที จะช่วยคุณภาพชีวิตพี่น้องแรงงานให้ดีกว่าเดิม

 

เซียกล่าวว่า หลายสิ่งในประเทศล้วนเกิดขึ้นจากฝีมือของพี่น้องแรงงาน เช่น ตึกขนาดใหญ่ที่เกิดจากมือของแรงงานข้ามชาติที่ได้ค่าแรงอันน้อยนิด มือของพี่น้องแรงงานจากต่างจังหวัดที่ถูกยึดที่ทำกิน พื้นที่ในห้างที่เงาวับ ถูกขัดถูโดยแม่บ้านที่กินค่าแรงขั้นต่ำไร้สวัสดิการมาทั้งชีวิต แรงงานมีแต่หนี้ ความจน ส่งต่อจากรุ่นพ่อรุ่นแม่และจะส่งต่อไปยังลูกหลานของเรา

 

ตนเกิดมาในครอบครัวชาวนา ฐานะยากจน ไม่ได้เรียนหนังสือสูง ต้องทำงานรับจ้างเป็นลูกจ้างเรือประมงหาปลาตั้งแต่อายุ 15 ได้รับเงินเดือนเดือนละ 1,000 บาท ทำอยู่ 6 ปี พี่สาวก็ชวนมาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม และการทำงานครั้งแรกรับค่าจ้างวันละ 115 บาท แต่เห็นแล้วว่ากรรมกรอย่างตน ทำงาน 20-30 ปี ก็ไม่มีวันรวย มีแค่ใช้จ่ายไปวันๆ เท่านั้น

 

"ผมทำงานหนักจนเจ็บป่วยเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รักษาจนดีขึ้นและต้องกลับไปทำงานเช่นเดิม เพราะต้องหาเงินเลี้ยงครอบครัว ผมและหลายคนในประเทศนี้ ทำงานหนักจนเจ็บป่วย ทำงานหนักจนนายจ้างร่ำรวย จากที่นายจ้างตั้งบริษัทด้วยทุน 2 ล้านบาท พวกผมทำงานให้พวกเขาจนสามารถเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 700 ล้านบาท ขณะที่แรงงานอย่างพวกผมยังแร้นแค้น มีหนี้สินเหมือนเดิม แต่พวกเขาก็ใช้วาทกรรมว่าพวกผมเป็นคนขี้เกียจ และให้พี่น้องแรงงานต้องทำงานให้หนักขึ้น ผมและพี่น้องแรงงานตัดสินใจตั้งสหภาพ เพื่อจะไม่ยอมให้พวกเขากดขี่ขูดรีดเราอีกต่อไป" เซียกล่าว

 

เซียกล่าวว่า ความเป็นประชาธิปไตยอยู่ในตัวของตนตลอดเวลา จากการร่วมชุมนุมกับสหภาพแรงงาน และทุกครั้งที่มีการรัฐประหาร ก็ออกไปร่วมต่อต้านโดยตลอด ตนทำงานในสหภาพแรงงาน เมื่อคนงานถูกเลิกจ้าง ก็พาลูกจ้างไปร้องเรียน แต่เจ้าหน้าที่รัฐและรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานกลับปิดประตูไม่ให้เข้ากระทรวง นี่คือสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด และเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอด 30 ปีที่ผ่านมา จนปี 2560 ได้มาทำงานกับพรรคอนาคตใหม่ เชื่อว่านี่คือพรรคของกรรมกร ฝันที่เป็นจริงคือมีกรรมกรผู้ใช้แรงงานเข้าไปในสภาฯ

 

เซียยังกล่าวอีกว่า หลาย 10 ปีที่ผ่านมา พี่น้องแรงงานฝากความหวังไว้กับหลายพรรคการเมือง แต่วันนี้ ตนในฐานะกรรมกรคนหนึ่งได้เข้ามาทำเอง ดังนั้น ขอเชิญชวนให้ทุกคนร่วมต่อสู้กับพรรคก้าวไกล ตนจะพิสูจน์ให้เห็นว่ามือของกรรมกรจะแก้ปัญหา มือของกรรมกรจะเปลี่ยนประเทศให้เป็นรัฐสวัสดิการและเป็นประชาธิปไตย 14 พฤษภาคมนี้ กาก้าวไกล 2 ใบ แรงงานไทยไม่เหมือนเดิม

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66