‘ธนาธร’ จัดเต็มดีเบตเชียงใหม่ ชี้ทุกพรรคเห็นตรงกันปัญหาเชิงประเด็น
แต่ทุกอย่างต้องแก้ที่ต้นตอโครงสร้าง พรรคก้าวไกลคือพรรคที่พร้อมแก้ปัญหาที่ต้นตอ
ไม่ใช่แค่คำพูดแต่กล้าลงมือทำ
วานนี้
(17 เม.ย. 66) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์ที่จัดโดยสถานีโทรทัศน์ช่องวัน
(ONE 31) บริเวณหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่
การดีเบตเริ่มต้นด้วยคำถามเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
PM2.5 โดยธนาธรย้ำว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่ใช่เพิ่งมีมา
เลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อปี 2562 หาเสียงครั้งแรกก็เจอคำถามนี้
4 ปีที่ผ่านมาหนักกว่าเดิม
และหากไปดูการนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเมียนมา จะเห็นว่าเพิ่มขึ้นทุกปี ปี 2561
ใกล้เคียงกับ 0 บาท ปี 2562 นำเข้า 4,200 ล้านบาท ปี 2563 นำเข้า
7,500 ล้านบาท ปี 2564 นำเข้า 1,200
ล้านบาท ปี 2565 นำเข้า 14,000 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน
นี่คือกำไรของนายทุนที่แลกมาด้วยอากาศบริสุทธิ์และสุขภาพของประชาชน
ถ้าจะแก้ไขเรื่องนี้ ต้องกล้าชนนายทุน ตัดวงจรการเผา หยุดผลักภาระให้ประชาชน
ส่วนการแก้ไขปัญหาการทุจริต
ธนาธรกล่าวว่า เรื่องการทุจริตเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย
มีการทุจริตทุกระดับและส่งผลกระทบกับชีวิตประชาชนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น
การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง ระบบเส้นสายในราชการ
ตนไม่รู้ว่าพรรคการเมืองอื่นเป็นอย่างไร แต่พรรคอื่นเป็นรัฐบาลกันหมดแล้ว
พรรคก้าวไกลยังไม่เคยบริหารประเทศ เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะสัญญาได้ว่าถ้ามีโอกาส
มีอำนาจ จะเอาอำนาจไปรับใช้ประชาชน ไม่เอามารับใช้ตัวเอง
“เริ่มที่หัว ถ้าหัวไม่ทุจริต หางก็ไม่ทุจริต
และต้องไม่อยู่ในระบบอุปถัมภ์อย่างนั้น ถ้าเข้าไปอยู่ในระบบอุปถัมภ์
เข้าไปมีอำนาจก็ต้องทุจริตคอร์รัปชัน ดังนั้นต้องเอาคนนอกเข้าไป
คนที่ไม่เคยทำงานการเมือง ไม่มีบุญคุณต้องทดแทนใคร
ต้องเป็นคนใหม่ที่มีความกล้าหาญถึงจะจัดการทุจริตได้" ธนาธรกล่าว
เมื่อถูกถามถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ธนาธรกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด
ถามประชาชนมีคนเชื่อจริงๆ ใช่ไหม ที่นักการเมืองรายหนึ่งถูกอภิปรายกลางสภาฯ
เรื่องความเกี่ยวข้องกับคดีค้ายาเสพติด แล้วกล่าวว่า ‘มันคือแป้ง’
พรรคไหนโหวตไว้วางใจให้กับนักการเมืองรายดังกล่าว
ยกตัวอย่างความกล้าหาญของรังสิมันต์ โรม ที่กล้าทลายทุนจีนสีเทา พูดถึงทุน มิน ลัต
และตั้งคำถามถึงพรรคการเมืองที่มีส่วนกับยาเสพติด ดังนั้น จะแก้ปัญหายาเสพติด
ต้องทำให้เหมือนที่พูด หากบอกไม่เอายาเสพติด
แต่กลับโหวตไว้วางใจให้นักการเมืองที่เกี่ยวกับยาเสพติด
แบบนี้ต่างหากที่ตบหน้าประชาชน
ต่อกรณีการกลับประเทศไทยของ
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ธนาธรกล่าวว่า “คุณทักษิณทำผิดหรือทำถูก
ไม่ใช่หน้าที่ที่ผมต้องตัดสิน แต่สิ่งที่สังคมศิวิไลซ์มี
คือสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม
ซึ่งคุณทักษิณไม่ได้รับสิทธินั้น คุณทักษิณสมควรได้รับสิทธิพื้นฐานเหมือนกับคนไทยทุกคน
นั่นคือสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะทำเช่นนั้นได้มีอยู่ทางเดียว
ต้องมีการล้มล้างผลพวงรัฐประหาร ถ้าทำได้ จะไม่เกิดรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต
ทุกคนที่มีคดีความทางการเมืองจะได้รับสิทธิเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น
ล้มล้างผลพวงรัฐประหาร ทำให้การรัฐประหารไม่มีวันเกิดขึ้นอีกในสังคมไทยให้ได้” ธนาธรกล่าว
ปิดท้ายการดีเบต
ธนาธรกล่าวว่าจากที่ฟังทุกพรรคการเมือง ต่างเห็นตรงกันถึงปัญหาเชิงประเด็น
แต่ตั้งคำถามต่อว่า แล้วเหตุใดปัญหาเชิงประเด็นทั้งหมดจึงไม่ถูกแก้ไข
เพราะแท้จริงคือปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่ประชาชนมีอารมณ์ร่วมกับปัญหาในประเทศไทย
เพราะที่ผ่านมาการเรียกร้องประชาธิปไตยมีคนถูกยิงตาย
มีคนถูกจับเข้าคุกเพียงเพราะพูดความจริงที่หลายคนไม่อยากฟัง
"จะพาประเทศไทยไปต่อข้างหน้าได้ มีแต่การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
คือการปฏิรูปกองทัพ ที่ไปไกลกว่าการยกเลิกเกณฑ์ทหาร แต่ต้องเอาทหารออกจากการเมือง
ปฏิรูประบบราชการเพื่อยกเลิกการรวมศูนย์
เปิดโอกาสให้ทุกจังหวัดเลือกผู้ว่าของตัวเอง กระจายงบประมาณอย่างเป็นธรรม
ปฏิรูปโครงสร้างทุนผูกขาด ที่ไม่ใช่แค่คำพูดแต่เป็นการกระทำ
สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่จะแก้ปัญหาประเทศไทยในระยะยาวได้" ธนาธรกล่าว