วันศุกร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2566

‘โรม’ ชี้ กกต. กำหนดพรรคการเมืองรับผิดชอบค่าเบี้ยเลี้ยงสังเกตการณ์เลือกตั้ง เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ-เสี่ยงเกิดทุจริตเลือกตั้ง แนะทบทวน อย่าให้ประชาชนกังขาความโปร่งใสไปมากกว่านี้

 


โรม’ ชี้ กกต. กำหนดพรรคการเมืองรับผิดชอบค่าเบี้ยเลี้ยงสังเกตการณ์เลือกตั้ง เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ-เสี่ยงเกิดทุจริตเลือกตั้ง แนะทบทวน อย่าให้ประชาชนกังขาความโปร่งใสไปมากกว่านี้

 

วานนี้ (20 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตอบข้อสอบถามของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำหน่วยเลือกตั้งเพื่อสังเกตการณ์การออกเสียงลงคะแนนและนับคะแนน ส.ส. แบบแบ่งเขต ค่าใช้จ่ายในการอบรมตัวแทนและค่าเบี้ยเลี้ยงในวันปฏิบัติงาน เป็นค่าใช้จ่ายของพรรค ของผู้สมัคร หรือของใคร ว่ากรณีนี้สำคัญมาก เนื่องจากเกี่ยวพันกับการทุจริตการเลือกตั้งในเรื่องการจัดการหีบลงคะแนน เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์จากเรื่องนี้

 

รังสิมันต์กล่าวว่า โดยปกติพรรคการเมืองสามารถส่งตัวแทนไปสังเกตการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าระหว่างการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ กกต. หรือใครก็ตาม จะไม่มีการทุจริตเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้งหรือการนับคะแนน เกิดเหตุการณ์บัตรเขย่งเหมือนที่ผ่านมา เรื่องนี้สำคัญมากต่อการจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม แต่การจะทำเช่นนี้ได้ ต้องมีการฝึกอบรม ผู้สังเกตการณ์ต้องเฝ้าระวังการทุจริตตั้งแต่เช้าถึงเย็น ไม่ควรมีใครทำงานฟรี ต้องมีการให้ค่าตอบแทน ค่าอาหาร กระบวนการเหล่านี้ต้องใช้เงินจำนวนมาก

 

ซึ่งจากการสอบถาม ทาง กกต. ก็แจ้งว่า ค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะเป็นความรับผิดชอบของพรรคการเมือง และพรรคการเมืองมีโควตาการใช้เงินทั้งหมดเพียง 44 ล้านบาท ซึ่งหากคิดค่าตอบแทนให้อาสาสมัคร 400 บาทต่อคนต่อวัน และมีคูหากว่าแสนหน่วย คิดเป็นเงิน 40 ล้านบาท นั่นเท่ากับพรรคการเมืองจะเหลือโควตาใช้เงินอีกเพียง 4 ล้านบาทในการทำแคมเปญและการรณรงค์ ซึ่งจำนวนนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

 

รังสิมันต์ ยังกล่าวอีกว่า การตีความเช่นนี้ สุ่มเสี่ยงจะก่อให้เกิดการทุจริต และทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่โปร่งใส เพราะพรรคการเมืองอาจไม่สามารถส่งตัวแทนได้ครบทุกหน่วย ซึ่งต้องตั้งคำถามว่า พรรคการเมือง ประชาชน จะไว้วางใจ กกต. ได้อย่างไร เพราะการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 การทำงานของ กกต. ได้ฝากบาดแผลไว้กับสังคมไม่น้อย และตนเห็นว่าการตีความครั้งนี้ของ กกต. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เงื่อนไขที่ กกต. กำหนดแบบนี้ ทำให้พรรคการเมืองไม่สามารถร่วมตรวจสอบการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างโปร่งใสได้

 

"คุณต้องตีความตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 55 คือพรรคการเมืองเป็นคนแจ้งชื่อว่าจะมีผู้ใดไปอยู่ตามหน่วยเลือกตั้ง แต่ค่าใช้จ่ายเหล่านี้สามารถอยู่ในค่าใช้จ่ายของผู้สมัครเขตได้ หรือหากยืนยันว่าควรเป็นค่าใช้จ่ายของพรรคการเมือง ก็ควรมีการขยายเพดานค่าใช้จ่าย ให้พรรคสามารถมีค่าใช้จ่ายเพียงพอกับการรณรงค์หาเสียง วิธีการเช่นนี้จะเป็นธรรมมากกว่า ขอฝากถึง กกต. อย่าปล่อยให้ประชาชนกังขากับการทำงานและความโปร่งใสของ กกต. ไปมากกว่านี้เลย" รังสิมันต์กล่าว

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กกต #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66