วันศุกร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2566

‘‘ธนาธร’ บุกแปดริ้ว ขอให้โอกาส ‘ก้าวไกล’ เข้าไปแก้ปัญหาที่ต้นตอ ทำการเมืองดี เศรษฐกิจดี เชื่อเป็นรัฐบาล 4 ปี ทำประเทศไทยดีขึ้นกว่านี้ได้แน่

 


‘‘ธนาธร’ บุกแปดริ้ว ขอให้โอกาส ‘ก้าวไกล’ เข้าไปแก้ปัญหาที่ต้นตอ ทำการเมืองดี เศรษฐกิจดี เชื่อเป็นรัฐบาล 4 ปี ทำประเทศไทยดีขึ้นกว่านี้ได้แน่

 

วันที่ 21 เมษายน 2566 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เดินสายช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล หาเสียงที่ จ.ชลบุรี และ จ.ฉะเชิงเทรา พบปะประชาชนพร้อมกับผู้สมัคร ส.ส. ประกอบด้วย วรรณิดา นพสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 2 (เบอร์ 3), เอกราช เนตรดี ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 3 (เบอร์ 1), นพรัตน์ มุริกะ ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 (เบอร์ 2) และ จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 (เบอร์ 2)

 

การปราศรัยวันนี้ ธนาธรได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเลือกตั้งเพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม โดยระบุว่าแม้จะมีหลายคนที่เห็นว่าเลือกตั้งกี่ครั้งก็เหมือนเดิม บ้านเมืองไม่เปลี่ยน ชีวิตไม่เปลี่ยน แต่ตนย้ำว่านั่นเป็นเพราะปัญหาของประเทศไทยฝังลึกเป็นเรื่องโครงสร้าง โดยที่ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลต่างก็พากันแก้ปัญหาแบบขอไปที ปะผุ ทำให้การแก้ปัญหาของประเทศจบไม่ได้เสียที

 

ปัญหาของประเทศจำนวนมากคือปัญหาที่เกิดจากต้นตอโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม ยกตัวอย่างได้มากมาย เช่น เรื่องของน้ำประปาที่คนเกินกว่าครึ่งของประเทศนี้ยังเข้าไม่ถึงน้ำประปาที่ไหลสะอาด เพียงพอใช้ 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วันต่อปี ในประเทศไทยปี 2566 เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำและเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุดของบริการสาธารณะที่ทุกคนไม่ว่าจะเกิดที่ไหนควรจะเข้าถึง หรือเรื่องของถนนทั่วประเทศไทยที่ได้รับการพัฒนาไม่เท่ากันทั่วประเทศ บางแห่งผุพังทรุดโทรมมาหลายสิบปีก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข

 

ทั้งหมดนี้คือปัญหาที่เกิดจากโครงสร้าง คืองบประมาณที่กระจุกตัวอยู่ที่ส่วนกลาง จะซ่อมถนนครั้งหนึ่งต้องเดินเอกสารไปถึงหน่วยงานที่กรุงเทพ กว่าหน่วยงานจะตั้งงบประมาณมาเริ่มดำเนินการได้ก็ต้องรอเป็นเดือนเป็นปี งบประมาณที่ท้องถิ่นมีอยู่ไม่พอให้แก้ปัญหาพื้นฐานเหล่านี้ได้ และนั่นคือเหตุผลที่พรรคก้าวไกล ย้ำว่าการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต้องปฏิรูประบบราชการ กระจายอำนาจ เอางบประมาณและอำนาจมาให้ประชาชนแก้ปัญหาในพื้นที่ของตัวเอง กำหนดอนาคตของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาระบบอุปถัมภ์วิ่งเต้นเส้นสายเพื่อให้ได้งบประมาณมาพัฒนาบ้านตัวเอง

 

นี่คือรูปธรรมของคำว่ากาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม นโยบายพรรคก้าวไกลมาจากฐานคิดแบบนี้ เพราะพรรคก้าวไกลไม่เคยสัญญาว่าจะมาสร้างถนนให้ หรือทำน้ำประปาให้ที่ไหนเป็นแห่งๆ ไปแบบปะผุ แต่ต้องทำในระดับโครงสร้าง ที่ผ่านมาพรรคอื่นต่างก็เคยเป็นรัฐบาลบริหารประเทศมาหมดแล้ว ครั้งนี้ตนอยากขอโอกาสให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ขอเพียงครั้งเดียวเท่านั้นประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิมอีก ด้วยการแก้ปัญหาที่ต้นตอที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างแท้จริงได้

 

หลายคนย่อมเคยได้ยิน มีหลายคนที่ไม่เชื่อว่าประเทศไทยจะดีกว่านี้ได้ บอกว่าเลือกตั้งไปประเทศไทยก็เหมือนเดิม กลายเป็นความเคยชิน ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมไป แต่ผมอยากบอกว่าอย่าเพิ่งหมดความหวังกับการเมือง กับประเทศไทย มันยังดีกว่านี้ได้ นี่คือที่มาของคำว่ากาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม พรรคการเมืองต่างๆ เคยเป็นรัฐบาลมาหมดแล้ว แต่ก็พาประเทศไทยมาได้เท่านี้ วันนี้พรรคการเมืองหลักที่ยังไม่เคยบริหารบ้านเมืองเหลือแค่พรรคก้าวไกล ขอโอกาสให้พวกเราทำดูสักครั้ง จะสร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้ให้เห็นด้วยการแก้ปัญหาที่ต้นตอ จะทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมเลย ถ้ากาครั้งนี้ให้พวกเราสองใบจนเป็นรัฐบาลแล้ว เรายังทำให้ดีกว่านี้ไม่ได้ เราจะไม่มีหน้ามาเจอประชาชนแล้วขอทำต่ออีก” ธนาธรกล่าว

 

ธนาธรยังกล่าวต่อไป ว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทุกคนต้องทำงานหนัก อยากได้เสียงก็ต้องลงมือทำตั้งแต่เช้าถึงเย็น ซื้อคะแนนด้วยใจ เพราะเรารู้ว่าใครซื้อเสียงเข้าไปก็จะต้องทุจริต ต้องเข้าไปเอื้อประโยชน์ให้นายทุนที่ให้ทุนมา นี่คือเหตุผลที่พรรคก้าวไกลเลือกทำการเมืองแบบนี้ เพราะพรรคก้าวไกลต้องการมีอิสระในวันที่ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญ จะได้ตัดสินใจเพื่อประชาชนไม่ใช่เพื่อนายทุนคนไหน เพราะไม่เป็นหนี้นายทุนคนไหน เป็นหนี้บุญคุณแค่ประชาชนที่มอบความไว้วางใจให้กับพรรคก้าวไกลเท่านั้น

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66