‘ธนาธร’ หาเสียงช่วยผู้สมัครปทุมธานี ย้ำช่วงเวลานี้ต้องกล้าทะเยอทะยาน
แก้ปัญหาการเมือง-ปากท้องไปพร้อมกัน ร่วมกา ‘ก้าวไกล’ ทั้งสองใบ
พิสูจน์คนไทยต้องการความเปลี่ยนแปลง
วันที่
27 เมษายน 2566 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ร่วมหาเสียงกับผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.ปทุมธานี
โดยเริ่มต้นที่การปราศรัยบนรถแห่ ที่หน้าท่ารถตู้ต่างจังหวัด
ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ร่วมกับ สกล สุนทรวาณิชย์กิจ ผู้สมัคร
ส.ส.ปทุมธานี เขต 4 (เบอร์ 5) และ
เชตวัน เตือประโคน ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เขต 6 (เบอร์ 4)
โดยประชาชนที่สัญจรไปมา ต่างหยุดยืนเกาะกลุ่มฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก
จากนั้น
ธนาธร ได้เดินทางต่อด้วยรถแห่ ผ่านตลาดสะพานฟ้า-สะพานแดง ไปถึงตลาดจัมโบ้
หาเสียงพร้อมกับ ชลธิชา แจ้งเร็ว ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 (เบอร์
9) โดยเปิดปราศรัยบนรถแห่ที่บริเวณหน้าตลาด
ก่อนร่วมเดินแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์ภายในตลาด โดยมีทั้งประชาชนและพ่อค้าแม่ขาย
เข้ามาขอพูดคุยและถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมาก
ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย
ธนาธรระบุว่าการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของประเทศไทยว่าจะเดินไปอย่างไร หลังจาก 17 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
โดยกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ไม่ต้องการเห็นประชาธิปไตยเติบโต
ไม่อยากเห็นสังคมไทยเปลี่ยนแปลง ต้องการให้ประเทศไทยอยู่เหมือนเดิม
เพื่อรักษาประโยชน์ทางเศรษฐกิจและครองอำนาจต่อไปได้นานเท่านาน
ตลอดเวลา
17 ปีที่ผ่านมา กลุ่มอนุรักษ์นิยมมีความกล้าหาญตลอดเวลาที่จะบดขยี้พลังประชาธิปไตย
อย่างไม่เคยเกรงใจเห็นหัวประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยถึง 4 ครั้ง
ล้อมปราบประชาชนกลางเมืองหลวงจนมีคนบาดเจ็บล้มตาย จะแช่แข็งประเทศไทยไป 20 ปี
จับคนรุ่นใหม่ที่กล้าพูดความจริงที่พวกเขาไม่อยากรับฟังเข้าคุกเข้าตาราง
ตอนจะบดขยี้เรา พวกเขาไม่เคยเกรงใจเราทั้งนั้น
ธนาธรกล่าวต่อไป
ว่าดังนั้น วันที่ 14
พฤษภาคมนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุด ไม่มีช่วงเวลาไหนใน 17 ปีที่ผ่านมาที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะอ่อนแรงทั้งทางการเมืองและทางวัฒนธรรมขนาดนี้
นี่คือโอกาสทำให้ประชาธิปไตยหยั่งรากลงลึกในสังคมไทยที่สุดแล้ว
นี่ไม่ใช่เวลาของการเจียมเนื้อเจียมตัว คิดเล็กคิดน้อย
แต่เป็นเวลาของความกล้าคิดอย่างทะเยอทะยาน และตนขอเชิญทุกคนมาคิดทะเยอทะยานด้วยกัน
“ไม่ทำวันนี้จะทำวันไหน วันนี้เราแก้ปัญหาสำคัญสองเรื่อง
ทั้งปากท้องและการเมืองไปพร้อมกันได้ ไม่ต้องเลือกเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อย่าถอย
อย่ากลัว เวลาเขาไล่บี้บดขยี้เราเขาไม่เคยเกรงใจประชาชน
ทำไมเวลาเรามีโอกาสที่ดีแบบนี้ ถึงขอกินข้าวทีละคำล่ะ” ธนาธรกล่าว
ธนาธรยังกล่าวต่อไป
ว่าเสียงที่พรรคก้าวไกลได้ จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของประเทศนี้ สำหรับบัตรเลือกตั้ง
ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นตัวชี้วัดว่าประชาชนคนไทยต้องการเห็นความก้าวหน้ามากเท่าไร
ยิ่งได้เยอะก็ยิ่งเป็นตัวชี้วัดว่าคนไทยไม่ต้องการอยู่เหมือนเดิม
ต้องการเห็นการปฏิรูปที่ยากแต่จำเป็นสำหรับอนาคตของลูกหลาน ส่วนบัตรเลือกตั้ง
ส.ส.เขต คือสิ่งที่จะทำให้เราปฏิบัติได้จริง เพราะอำนาจในการเปลี่ยนแปลงมาจากจำนวน
ส.ส. และการได้จำนวน ส.ส.
เยอะที่สุดก็คือสิ่งที่จะทำให้พรรคก้าวไกลไปผ่านกฎหมายสำคัญ
ผลักดันวาระที่ก้าวหน้าในทางการเมืองได้
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66