ก้าวไกลแย้ม
แผน 5 ขั้น ปีแรกชนนายทุน ลดค่าไฟฟ้า 70 สตางค์ และใน 4
ปีเปลี่ยนแดดเป็นเงิน เปิดเสรีโซลาร์รูฟทั้งประเทศ
วันนี้
(18 เม.ย. 66) ศิริกัญญา ตันสกุล
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลฝ่ายนโยบาย และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจก้าวไกล
ให้สัมภาษณ์พิเศษกับผู้สื่อข่าวถึงประเด็นค่าไฟหลายๆ บ้านที่แพงขึ้น
โดยเปิดเผยถึงแผนบันได 5 ขั้น
ที่พรรคก้าวไกลเตรียมเข้าไปผลักดัน หากหลังการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล
ซึ่งศิริกัญญาเชื่อว่าถ้าทำได้ทั้งหมดนี้ ค่าไฟประชาชนจะลดลงได้อย่างน้อยหน่วยละ 1
บาท พร้อมฝันเห็นภูมิทัศน์ใหม่ของธุรกิจไฟฟ้าของประเทศไทยที่มีการเปิดเสรี
ประชาชนไม่ถูกมัดมือชกให้ซื้อไฟฟ้าจากนายทุน
ศิริกัญญาเปิดเผยว่า
บันไดขั้นที่ 1
พรรคก้าวไกลมีนโยบายเปลี่ยนนโยบายจัดสรรก๊าซธรรมชาติ
จากเอื้อกลุ่มทุนเป็นเอื้อประชาชน โดยใช้กลไกคณะกรรมการกำกับดูแลนโยบายพลังงาน
(กกพ.) กำหนดนโยบาย ซึ่งตัวนโยบายสามารถเปลี่ยนได้เลยใน 100 วัน
และเห็นผลในบิลค่าไฟ ลดได้ทันที 70 สตางค์ต่อหน่วยในปีแรก
พร้อมกันนั้น ต้องเร่งเจรจาสัมปทานก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนอ่าวไทยเพื่อลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากการนำเข้า
ขั้นที่
2 พรรคก้าวไกลจะเปลี่ยนแดดเป็นเงิน
ด้วยการปลดล็อกระบบขายไฟมิเตอร์หมุนกลับจากหลังคาบ้านเรือน (Net Metering) เพื่อให้ทุกบ้านเรือนที่ต้องการติดโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านสามารถทำได้อย่างถูกต้อง
และเกิดการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านประชาชนเพื่อลดค่าใช้จ่ายได้เอง
เชื่อว่าภายใน 4 ปี
จะเห็นการติดโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านของประชาชนเพิ่มขึ้นทั้งประเทศ
ขั้นที่
3 เปิดเสรีธุรกิจไฟฟ้า ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าเลือกซื้อไฟฟ้าได้เอง ไม่ต้องถูกมัดมือชกซื้อจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ยุติการรับประกันกำไรให้เจ้าสัวพลังงาน
เหมือนกับในต่างประเทศที่ประชาชนสามารถเลือกซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าได้เอง
ค่าไฟฟ้าจะถูกลงได้จากการแข่งขัน
นอกจากนี้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังสามารถกำหนดได้ว่าจะซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานอะไร
บางคนอาจเลือกซื้อจากพลังงานสะอาด 100% ได้
ขั้นที่
4 ชนกับกลุ่มทุนใหญ่เสือนอนกิน
เจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและสัมปทานกับกลุ่มทุนพลังงานใหม่
เพื่อลดต้นทุนที่เกิดขึ้นจาก ‘ค่าความพร้อมจ่าย’ ของโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้เดินเครื่อง
และแก้ไขนโยบายเอื้อกลุ่มทุนพลังงานเพื่อลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนได้เพิ่ม
“นโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา
มีการอนุมัติโรงไฟฟ้าให้กับเจ้าสัวพลังงานเป็นจำนวนมาก
สุดท้ายกลายเป็นประเทศไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่าความต้องการใช้ไปแล้วถึง 60%
เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของประเทศไทยมี 13 โรง ไม่ได้เดินเครื่องเลยแม้แต่วันเดียว 7 โรง
แต่กลายเป็นว่าประชาชนยังต้องจ่ายเงินค่าบริการให้กับกลุ่มทุนพลังงานที่ไม่ได้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเลยเหล่านี้
เพราะรัฐบาลไปทำสัญญาประกันกำไรให้กับกลุ่มทุนพลังงาน
ว่าถึงแม้ไม่เดินเครื่องก็จะได้เงินจากเราซ่อนอยู่ในบิลค่าไฟของเรา ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข”
ศิริกัญญากล่าว
ขั้นสุดท้าย
ศิริกัญญากล่าวว่าพรรคก้าวไกลเตรียมเดินหน้าแผน PDP Net Zero ไม่เพิ่มโรงไฟฟ้าฟอสซิล
ตั้งเป้าปลดระวางโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดภายใน 2580 เพื่อให้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดเป็นพลังงานสะอาดให้มากที่สุด
“นี่คือแผนบันได 5 ขั้นของพรรคก้าวไกลที่เราเตรียมจะไปเสนอเพื่อเปลี่ยนนโยบายพลังงานของประเทศไทยใหม่ทั้งหมด
ให้การผลิตไฟฟ้าของประเทศนี้ เอื้อประโยชน์ประชาชนมากกว่ากลุ่มทุน
มีการผลิตซื้อขายอย่างเสรีด้วยเทคโนโลยีพลังงานสะอาด
นี่เป็นเพียงแค่หนึ่งในแผนการบริหารประเทศของพรรคก้าวไกล ส่วนแผน 100 วันแรกและแผน 4 ปีนั้น เราก็มีการเตรียมเอาไว้
ซึ่งพรรคก้าวไกลจะเปิดแน่นอนหลังการปราศรัยใหญ่ที่กรุงเทพฯ
ส่วนจะเปิดเมื่อไรก็ต้องรอติดตาม” ศิริกัญญากล่าว