วงผู้ประกอบการประมงสะท้อน ‘เพื่อไทย’
หลังยึดอำนาจ ‘ไทย’ ไม่เน้นส่งออกอาหารทะเล น้อยเนื้อต่ำใจ
อาหารทะเลส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ วอนล้มเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน
แนะดันเขตเศรษฐกิจพิเศษดึงดูดท่องเที่ยวมากกว่าเน้นนิคมอุตสาหกรรม เชื่อมั่น
‘เพื่อไทย’ เปลี่ยนแปลงได้ ด้าน ‘เศรษฐา’ รับปาก รบ.เพื่อไทย จะผลักดันข้อเสนอ
วอนคนใต้แบ่งใจให้ ‘เพื่อไทย’ ยันแม้ไม่ได้ ส.ส.ภาคใต้ ‘เพื่อไทย’
พร้อมเป็นรัฐบาลของคนทุกภาค
วันที่ 26 เม.ย. 2566 เวลา 08.30 น. ที่โรงแรม
เดอะ ซิงกอรา อ.เมือง จ.สงขลา นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจาตุรนต์ ฉายแสง
กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
พรรคเพื่อไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ ผู้สมัคร
ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ
ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ร่วมวงหารือกับตัวแทนผู้ประกอบการประมง
และนักธุรกิจใน จ.สงขลา เพื่อยกระดับการค้าขาย และการส่งออก
ทั้งนี้ ยังมีผู้สมัคร ส.ส.สงขลา
พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมรับฟังข้อเสนอประกอบด้วย นายสำราญ บุญเส้ง ผู้สมัคร ส.ส.
จสงขลา เขต 1 เบอร์ 6 นายชนาธิป สันติภราภพ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 2 เบอร์ 7
นางชนัญชิดา ล่วนรักษ์ ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสงขลา เขต 3 เบอร์ 10 นายสมศักดิ์ แสงประดับ
ผู้สมัคร ส.ส. สงขลา เขต 4 เบอร์ 5
นายสะหาก หมุดตะเหล็บ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา
เขต 5 เบอร์ 4 นายธนพล ศรีเนตร ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 6 เบอร์ 8 นางซีนาวาตีย์
เบ็ญบาเห็ม ผู้สมัคร ส.ส. สงขลา เขต 7เบอร์ 8 นายฮานาพี หมีนเส็น ผู้สมัคร ส.ส.
สงขลา เขต 8เบอร์ 8 และน.ส.ชานิสรา ภูวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 9 เบอร์ 10
โดยตัวแทนผู้ประกอบการประมง ได้สะท้อนว่า
เมื่อปี2558 มีการส่งออกอาหารทะเล 2 แสนล้านบาท
จากนั้นมาประเทศไทยได้เปลี่ยนเป็นการนำเข้าอาหารทะเล มากกว่าการส่งออก ทั้งนี้
พรรคเพื่อไทยต้องเข้ามาดูทั้งระบบของการประมง
และที่ผ่านมาก็ได้เสนอปัญหาระดับมหภาค 5 ข้อให้กับพรรคเพื่อไทยมาแล้ว
ส่วนผลกระทบจาก พ.ร.บ.ประมง ก็พบว่ายังอุปสรรคจากกรณีถ้าแอบนำเรือออกไป
ถ้าคนไม่ครบก็จะถูกด้วยปรับ 4 แสนล้านบาท อย่าง จ.สุราษฎร์ธานีเคยถูกปรับกว่า 130
ล้านบาท
“ทุกวันนี้ที่บริโภคอาหารทะเลอย่าคิดว่ามาจากบ้านเรา
ปลากระพงมาจากมาเลเซีย ปลาทูมาจากอินเดีย ส่วนปลาหมึกนำเข้าจากจีนทั้งนั้น
ท่านบริโภคอาหารทะเลจากต่างประเทศทั้งนั้น นี่คือความน้อยเนื้อต่ำใจ
ท่านกินจากร้านอาหารอย่าคิดว่ามาจากเมืองไทย มีการซื้อต่างประเทศแล้วถูกกว่า
เรือประมงไทยต้องตรวจสุขลักษณะเก็บสัตว์น้ำ ถ้าผิดสุขลักษณะจะถูกยึดใบอนุญาต”
ตัวแทนผู้ประกอบการประมง ระบุ
ตัวแทนผู้ประกอบการประมง จ.สงขลสา ย้ำว่า
ต้องกระตุ้นการกินอาหารทะเล เพราะขณะนี้ประเทศไทยยังขาเคนหาเงินเข้าประเทศได้น้อย
มีแต่คนใช้เงินเท่านั้น และยังมองว่าพรรคการเมืองที่ดีที่สุดตอนนี้คือ
พรรคเพื่อไทยที่จะเปลี่ยนแปลงได้
นอกจากนั้น ผู้ประกอบการประมงยังสะท้อนพรรคเพื่อไทยว่า
1. ปัญหา พ.ร.บ.ประมง ยังมีอัตราโทษสูง 2. ที่มีการแก้ไขในสภาฯ เรื่อง
พ.ร.บ.แรงงานคุ้มครองแรงงาน
พ.ร.บ.นี้ให้สิทธิด้านแรงงานจูงใจในการทำงานมากกว่าหน้าที่ 3. ปัญหาราคาสินค้าไม่เป็นไปตามกลไกตลาด
ดังนั้นราคาสินค้าจะถูกกำหนด 4. ปัญหาต้นทุนสูงในแง่กฎหมายที่เพิ่มภาระต้นทุน
อีกทั้งยังเสนอให้ยกเลิกค่าเหยียบแผ่นดินนักท่องเที่ยว ส่วนเรื่องโลจิสติกส์
ที่มีการสร้างรายได้ปีละ 3-4 แสนล้านบาท
โดยผู้ประกอบการเสนอว่าควรปรับให้ด่านศุลาการใหม่เป็นโลจิสติกส์
และด่านปัจจุบันเป็นด่านการค้าและการท่องเที่ยว
ตัวแทนผู้ประกอบการใน จ.สงขลา
ยังสะท้อนว่า จ.สงขลา ถูกประกาศเป็นพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ
พอประกาศแล้วเงินของคนในพื้นที่กลับน้อยลง แต่กลับไป
ส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมมากกว่า
จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อส่งเสริมการค้าการท่องเที่ยวในพื้นที่
และอยากให้รื้อฟื้นโครงการบ้านหลังแรกเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์พื้นที่
และมีการลดค่าธรรมเนียมการจดจำนอง
จากนั้น นายเศรษฐา ชี้แจงว่า ภายใน1
สัปดาห์ พรรคเพื่อไทยจะออกข้อสรุปจากผู้ประกอบการประมง 5 จังหวัด
ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะผลักดันให้เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย
จากนี้ไปภายใน 2 สัปดาห์จะมีจะมีข้อสรุปออกจากพรรคเพื่อไทยและช่องทางของตนด้วย
“เราเอาวิถีชีวิตพี่น้องเป็นหลัก
ถ้าเราเอาผลประโยชน์พี่น้องเป็นหลักจะเดินไปข้างหน้าและก็ควรรับฟังความเห็นเอ็นจีโอ
ไม่ใช่ร่างทรงของใครมา ขอให้ไว้ใจพรรคเพื่อไทย” นายเศรษฐา กล่าว
แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย
ชี้แจงอีกว่า ส่วนเรื่องค่าเหยียบแผ่นดินนั้น มาเรื่องของรายได้จากเดิม
ส่วนหารายได้เสริมจากการท่องเที่ยวได้ไม่จำเป็นต้องหาจากค่าเหยียบแผ่นดิน ทั้งนี้
ยังต้องลดขั้นตอนการเดินทางของคนมาเลเซียเข้ามาในประเทศไทยด้วย ส่วนเรื่องเศรษฐกิจเขตพิเศษนโยบายของพรรคเพื่อไทยมองว่า
จ.สงขลาก็เป็นจังหวัดที่เหมาะสมอยู่แล้ว
แต่ต้องมีรายละเอียดซึ่งการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจะต้องดูธุรกิจและวิถีชีวิตในพื้นที่อย่างไร
โดยจะส่งทีมงานมาพูดคุยให้มีความ.เหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้รัฐบาลต้องผลักดันการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม
ให้คนตรวจคนเข้าเมืองลดน้อยลงไป ยืนยันพรรคเพื่อไทยจะนำไปผลักดัน
และจะหยิบยกมาผลักดันให้คนต่างประเทศและคนไทยมาเที่ยว
เพราะจ.สงขลาเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้
นายเศรษฐา
ระบุทิ้งท้ายว่ามีหลายท่านมีความผูกพันกับพรรคการเมืองในพื้นที่และหลายชั่วอายุคน
ซึ่งพรรคเพื่อไทยสัญญาว่าจากผลโพลออกมาพรรคเพื่อไทยสามารถเป็นพรรคการเมืองหลักในการจัดตั้งรัฐบาลได้
ซึ่งต้องดูว่าจะมี ส.ส.กี่เสียง ถึงแม้จะไม่มี
ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่จะเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคนและทุกภาค
ยืนยันการประมงเป็นเรื่องใหญ่แม้จะมี ส.ส.หรือไม่มี ส.ส.
โดยตนมาภาคใต้ครั้งนี้มาขอแบ่งปันความรัก
โดยพรรคเพื่อไทยจะนำประเทศให้ดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งต้องส่งต่อให้คนทำงาน
ตนมาขอโอกาสไม่ได้ว่ากล่าวรัฐบาลก่อน แต่มาขอเสียงว่าจะทำอะไร ดังนั้น ไม่ว่าจะมี
ส.ส.หรือไม่มี ส.ส. ยืนยันพรรคเพื่อไทยจะทำตามข้อเสนอที่ผู้ประกอบการได้สะท้อนมา
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66