‘ณัฐชา’ ชี้ 'ก้าวไกล' เปลี่ยนการทำงานของ
ส.ส. ได้แล้วแม้เป็นฝ่ายค้าน
เลือกตั้งครั้งนี้ก้าวไกลต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้นเพื่อเปลี่ยนอนาคตคนไทย
วันที่
22 เมษายน 2566 ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ผู้สมัคร
ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 27 (เขตบางบอน และเขตบางขุนเทียน) เบอร์ 1
ร่วมปราศรัย “ทัพใหญ่ก้าวไกล ปราศรัยโค้งสุดท้าย”
ที่สามย่านมิตรทาวน์ กล่าวว่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2562 ตอนนั้นอายุเพียง
27 ปี จบ ปวส. ทำอาชีพรับเหมา
ไม่เคยคิดฝันว่าต้องเข้าสู่การเมือง แม้ชอบการเมืองตั้งแต่เด็ก แต่ในชีวิตไม่มีใครอยู่ในวงการการเมืองเลย
และมองการเมืองเป็นเรื่องไกลตัวมาโดยตลอด
แม้มีพรรคอนาคตใหม่
ตนก็ไม่ได้หวังจะมาเป็น ส.ส. ตอนนั้นได้สมัครสมาชิกพรรคจ่าย 2,000 บาท
เพื่อเป็นการขอบคุณการปราศรัยของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในเวลานั้น เนื่องจากธนาธรปราศรัยว่า
สังคมไทยและคนไทยไม่จำเป็นต้องประจานความจนของตัวเองเพื่อรับสวัสดิการ
อยู่มาวันหนึ่งก็ได้รับข้อความจากพรรคอนาคตใหม่ว่า พรรคของคุณกำลังเปิดรับ ส.ส.
จนกลายเป็น ส.ส.กาย ณัฐชาในทุกวันนี้
"ผมก้าวข้ามเส้นความกลัวและพลิกชีวิตตัวเองตอนอายุ 27 ชนะเลือกตั้งตอนอายุ 28 ปี
ได้รับคะแนนความไว้วางใจจากพี่น้องบางขุนเทียน 38,340 คะแนน"
ณัฐชากล่าว
ณัฐชากล่าวต่อว่า
ตอนที่เข้าสภาฯ ชั่วคราวในช่วงแรกที่เป็น ส.ส. ตนไม่กล้าลุกขึ้นพูดหรืออภิปราย
เนื่องจากหันซ้ายหันขวาก็เจอนักการเมืองที่เห็นในทีวีเห็นในข่าวมาตั้งแต่เด็ก
จนวันหนึ่ง ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้น กล่าวกับตนว่า สภาฯ
เป็นที่ของทุกคน เพราะสภาฯ ไม่สามารถสร้างให้คน 66 ล้านคนเข้ามาเถียงกันได้
จึงสร้างระบบตัวแทน และตนก็เป็นตัวแทนของประชาชน เพราะฉะนั้นไม่ว่าอย่างไร
แค่เอาความรู้สึกนึกคิดตอนเป็นประชาชนมาสะท้อนให้ได้มากที่สุด
จึงทำให้ณัฐชากลายเป็นณัฐชาอย่างทุกวันนี้
อดีต
ส.ส.บางขุนเทียน ยังกล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงที่พรรคอนาคตใหม่ได้สร้างขึ้นว่า
พรรคอนาคตใหม่ได้ทลายกำแพงไปแล้วครึ่งหนึ่ง เอาคนเข้าไปพูดในสภาฯ ได้ 81 คน
สร้างความเปลี่ยนแปลงได้แล้วในฝ่ายนิติบัญญัติแม้เป็นฝ่ายค้าน
และรอบนี้เราจะปล่อยผ่านไปไม่ได้ เราต้องการเข้าไปทำงานอีกแบบหนึ่ง คือฝ่ายรัฐบาล
วันที่ 14 พฤษภาคม
ก้าวไกลต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้นเพื่อการเปลี่ยนแปลง
ก้าวไกลต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้นเพื่ออนาคตลูกหลานคนไทยทุกคน
"ขอพูดแทนผู้สมัครก้าวไกลทุกคน ทุกวันนี้ขับเคลื่อนด้วยแรงกายแรงใจ
วันนี้ต้องมอบภารกิจให้หัวคะแนนพรรคก้าวไกลทุกคน ชวนคนอื่นๆ มาเลือกพรรคก้าวไกล
ลองถามเขาว่าเราจะอยู่แบบนี้ต่อไปหรือ
หรือจะเปลี่ยนให้พรรคก้าวไกลเข้ามาทำนโยบายให้เป็นจริง
สมมติวันนี้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ปู่ย่าตายายจะได้เบี้ยผู้สูงวัยคนละ 3,000
บาทต่อเดือน ลูกที่เพิ่งเกิดได้เงินเด็กเล็กเดือนละ 1,200 บาท ซื้อของเล่นชิ้นใหม่ ค่าแรงได้ขึ้นทันที 450 บาทต่อวัน
ประชาชนไม่ต้องกลั้นหายใจหนีฝุ่นพิษ เพราะฉะนั้น ขอหัวคะแนนพรรคส้ม
หัวคะแนนพรรคก้าวไกลทุกคน หาเสียงให้พรรคก้าวไกลร่วมกัน" ณัฐชากล่าว