วันเสาร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2566

‘ณัฐชา’ ชี้ 'ก้าวไกล' เปลี่ยนการทำงานของ ส.ส. ได้แล้วแม้เป็นฝ่ายค้าน เลือกตั้งครั้งนี้ก้าวไกลต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้นเพื่อเปลี่ยนอนาคตคนไทย

 


ณัฐชา’ ชี้ 'ก้าวไกล' เปลี่ยนการทำงานของ ส.ส. ได้แล้วแม้เป็นฝ่ายค้าน เลือกตั้งครั้งนี้ก้าวไกลต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้นเพื่อเปลี่ยนอนาคตคนไทย

 

วันที่ 22 เมษายน 2566 ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 27 (เขตบางบอน และเขตบางขุนเทียน) เบอร์ 1 ร่วมปราศรัย “ทัพใหญ่ก้าวไกล ปราศรัยโค้งสุดท้าย” ที่สามย่านมิตรทาวน์ กล่าวว่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2562 ตอนนั้นอายุเพียง 27 ปี จบ ปวส. ทำอาชีพรับเหมา ไม่เคยคิดฝันว่าต้องเข้าสู่การเมือง แม้ชอบการเมืองตั้งแต่เด็ก แต่ในชีวิตไม่มีใครอยู่ในวงการการเมืองเลย และมองการเมืองเป็นเรื่องไกลตัวมาโดยตลอด

 

แม้มีพรรคอนาคตใหม่ ตนก็ไม่ได้หวังจะมาเป็น ส.ส. ตอนนั้นได้สมัครสมาชิกพรรคจ่าย 2,000 บาท เพื่อเป็นการขอบคุณการปราศรัยของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในเวลานั้น เนื่องจากธนาธรปราศรัยว่า สังคมไทยและคนไทยไม่จำเป็นต้องประจานความจนของตัวเองเพื่อรับสวัสดิการ อยู่มาวันหนึ่งก็ได้รับข้อความจากพรรคอนาคตใหม่ว่า พรรคของคุณกำลังเปิดรับ ส.ส. จนกลายเป็น ส.ส.กาย ณัฐชาในทุกวันนี้

 

"ผมก้าวข้ามเส้นความกลัวและพลิกชีวิตตัวเองตอนอายุ 27 ชนะเลือกตั้งตอนอายุ 28 ปี ได้รับคะแนนความไว้วางใจจากพี่น้องบางขุนเทียน 38,340 คะแนน" ณัฐชากล่าว

 

ณัฐชากล่าวต่อว่า ตอนที่เข้าสภาฯ ชั่วคราวในช่วงแรกที่เป็น ส.ส. ตนไม่กล้าลุกขึ้นพูดหรืออภิปราย เนื่องจากหันซ้ายหันขวาก็เจอนักการเมืองที่เห็นในทีวีเห็นในข่าวมาตั้งแต่เด็ก จนวันหนึ่ง ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้น กล่าวกับตนว่า สภาฯ เป็นที่ของทุกคน เพราะสภาฯ ไม่สามารถสร้างให้คน 66 ล้านคนเข้ามาเถียงกันได้ จึงสร้างระบบตัวแทน และตนก็เป็นตัวแทนของประชาชน เพราะฉะนั้นไม่ว่าอย่างไร แค่เอาความรู้สึกนึกคิดตอนเป็นประชาชนมาสะท้อนให้ได้มากที่สุด จึงทำให้ณัฐชากลายเป็นณัฐชาอย่างทุกวันนี้

 

อดีต ส.ส.บางขุนเทียน ยังกล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงที่พรรคอนาคตใหม่ได้สร้างขึ้นว่า พรรคอนาคตใหม่ได้ทลายกำแพงไปแล้วครึ่งหนึ่ง เอาคนเข้าไปพูดในสภาฯ ได้ 81 คน สร้างความเปลี่ยนแปลงได้แล้วในฝ่ายนิติบัญญัติแม้เป็นฝ่ายค้าน และรอบนี้เราจะปล่อยผ่านไปไม่ได้ เราต้องการเข้าไปทำงานอีกแบบหนึ่ง คือฝ่ายรัฐบาล วันที่ 14 พฤษภาคม ก้าวไกลต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้นเพื่อการเปลี่ยนแปลง ก้าวไกลต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้นเพื่ออนาคตลูกหลานคนไทยทุกคน

 

"ขอพูดแทนผู้สมัครก้าวไกลทุกคน ทุกวันนี้ขับเคลื่อนด้วยแรงกายแรงใจ วันนี้ต้องมอบภารกิจให้หัวคะแนนพรรคก้าวไกลทุกคน ชวนคนอื่นๆ มาเลือกพรรคก้าวไกล ลองถามเขาว่าเราจะอยู่แบบนี้ต่อไปหรือ หรือจะเปลี่ยนให้พรรคก้าวไกลเข้ามาทำนโยบายให้เป็นจริง สมมติวันนี้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ปู่ย่าตายายจะได้เบี้ยผู้สูงวัยคนละ 3,000 บาทต่อเดือน ลูกที่เพิ่งเกิดได้เงินเด็กเล็กเดือนละ 1,200 บาท ซื้อของเล่นชิ้นใหม่ ค่าแรงได้ขึ้นทันที 450 บาทต่อวัน ประชาชนไม่ต้องกลั้นหายใจหนีฝุ่นพิษ เพราะฉะนั้น ขอหัวคะแนนพรรคส้ม หัวคะแนนพรรคก้าวไกลทุกคน หาเสียงให้พรรคก้าวไกลร่วมกัน" ณัฐชากล่าว

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66