นพ.เหวง
โตจิราการ : 13 ปีเมษาพฤษภา53 ข้อเรียกร้องต่อพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเมื่อได้เป็นรัฐบาล
กราบสวัสดีพี่น้องเสื้อแดง
พี่น้องผู้รักความเป็นธรรม พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยในอนุสรณ์สถาน14ตุลาแห่งนี้
และทั่วประเทศและทั่วโลกที่เคารพรักทั้งหลายครับ ผมมายื่นตรงนี้
ก่อนอื่นผมต้องกราบเรียนพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยและความยุติธรรมทั้งประเทศ
รวมไปทั้งประชาชนที่รักความยุติธรรมและรักประชาธิปไตยทั่วโลกว่า
พวกเรานี่แหละจะแบกรับภารกิจของวีรชนในการทวงความยุติธรรมจนความยุติธรรมจะต้องปรากฏครับ
ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศรวมทั้งทั่วโลกด้วย ไม่ต้องกังวลครับ ผมอ่านในเน็ต
อ่านในโซเชียลมีเดียจำนวนมาก ด้วยความเคารพผมเห็นใจและเข้าใจ
มีพี่น้องจำนวนมากครับเขาเป็นห่วงว่าสุดท้ายแล้ววีรชนของเราจะตายฟรี
ผมกราบเรียนทุกท่านนะครับว่าคณะประชาชนทวงความยุติธรรมจะเดินหน้าทวงความยุติธรรมจนกว่ามันจะปรากฏเป็นจริงหรือไม่พวกผมก็ตายไป
ถึงพวกผมจะตายไปนะครับ รุ่นใหม่ ๆ มาเยอะแยะ
เมื่อกี้นี้ผมแอบถาม
เพราะว่าผมอาจจะเป็นคนรุ่น 70 กว่าแล้ว ใกล้ 80 ดังนั้นห่างเยอะมาก
เดี๋ยวนี้เขาเรียกชื่อรุ่นเนี่ยแปลก ๆ ผมก็เลยตามไม่ทัน ผมเนี่ยเป็น baby boomer แต่มันมี X, Y, Z มี Millennials แล้วมีรุ่นใหม่ ๆ ด้วย ผมเชื่อว่า
สมมุติว่าในช่วงชีวิตของผมเนี่ยยังไม่เห็นความยุติธรรม ผมเชื่อว่ารุ่น Millennials
ก็จะมาแบกภารกิจในการทวงถามความยุติธรรมและประชาธิปไตยให้กับประเทศนี้ต่อไปครับ
จึงตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งนะครับว่าพี่น้องประชาชนครับ ไม่ต้องห่วงครับ
ภาคประชาชนเรามีครับ แล้วภาคนักการเมืองเราก็มี พรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย
ปรบมือให้พรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยทุกพรรคครับ เรามีทั้งสองภาค
แต่มันต้องประสานงานกันครับ ภาคการเมืองก็ต้องเดินหน้าที่ในสภาให้เต็มที่
ขณะเดียวกันภาคประชาชนก็ต้องเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กกล้าให้กับภาคกลางเมืองด้วย
ใช่หรือเปล่าครับ
ผมหวังว่านะครับ
ภายใน 4 ปีจากนี้เป็นต้นไป ผมไม่ได้ขีดเส้นตลอดอายุผมครับ ผมขีดเส้นแค่ 4 ปี
ผมกราบเรียนทุกพรรคการเมืองนะครับว่าท่านจะทำได้หรือไม่
เดี๋ยวเป็นภาระหน้าที่ของท่านขึ้นมาตอบครับ ว่าภายใน 4
ปีเนี่ยท่านจะคืนความยุติธรรมให้กับวีรชนเมษาพฤษภาปี 53 ได้หรือเปล่าครับ
ท่านจะคืนได้มั้ย ท่านจะคืนประชาธิปไตยที่แท้จริงให้กับประเทศนี้ได้มั้ย นะครับ
ผมได้กราบเรียนแล้วนะครับว่าผมฝากความหวังไว้ที่ท่าน
แต่ผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าอุปสรรคของท่านจะมีมากมายขนาดไหนและท่านจะสำเร็จขนาดไหน
แต่ถ้าหากว่าท่านไม่สำเร็จ ผมหวังว่า 4 ปีจะสำเร็จ แต่หากท่านทำไม่สำเร็จเนี่ย
พวกเราประชาชน พวกเราคปช. พวกเราคณะประชาชนทวงความยุติธรรม โดยมี อ.ธิดา
เป็นเลขาธิการใหญ่ ก็จะแบกภารกิจนี้ไปจนถึงที่สุดครับ หรือไม่ผมสองคนอาจจะตายไปก่อน
คนอื่นก็จะแบกต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีปัญหาอะไร
ข้อต่อมาผมต้องเรียนด้วยความเคารพนะครับว่าผมมาวันนี้ด้วยความดีใจมากเลย
ปิติยินดีเป็นอย่างสูง ทำไมครับ เพราะว่าโอกาสมันเปิดสำหรับพวกเราแล้ว โอกาสมันเปิดสำหรับพวกเราแล้ว
เราจะต้องได้รับความยุติธรรมอย่างแน่นอน เอ้า คุณหมอเพ้อฝันหรือเปล่า เออ
หมอเพ้อฝันไปหรือเปล่า ฝันกลางวันหรือเปล่า ไม่ครับ เพราะเรากำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภา
วันที่ 14 พฤษภา ปี 66
พวกเราฝ่ายประชาธิปไตยจะเลือกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปในสภาให้ถล่มทลายครับ
ใช่มั้ยครับ ๆ ๆ โห่ร้องหน่อยซิครับ โห่ร้องหน่อย ๆ ๆ
ผมเรียนนะครับ
พวกเราอยู่ในที่นี้เนี่ยจำนวนเป็นเรือนร้อยก็จริง คนที่ดูถ่ายทอดอาจจะเป็นเรือนพันหรือเรือนหมื่น
แต่เท่านั้นไม่พอครับ เราต้องการเรือนล้านหรือเรือน 30
ล้านขึ้นไปเพื่อเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมดครับ
พรรคเพื่อไทยเขาบอกว่าเขาอยากได้ 310 สำหรับผมนะ ผมอยากได้บัญชีรายชื่อ 100
คนเป็นของฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมดเลยครับ ดังนั้น
เป็นหน้าที่ของพวกเราครับในการไปบอกญาติสนิทมิตรสหายและคนใกล้ชิดว่า 14 พฤษภา 66
ออกมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด และเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้นครับ เท่านั้น
ตรงนี้ผมขออนุญาตลงรายละเอียดนิดหน่อย
คือเป็นธรรมดาครับมนุษย์เนี่ย 7 พันล้านคนก็ 7 พันล้านความคิด คนไทย 70 ล้านคนก็
70 ล้านความคิดครับ เพราะฉะนั้น พรรคการเมือง ประชาธิปไตยก็จริง
ก็มีหลายแนวของความคิดด้วยเช่นกัน ใช่มั้ยครับ
แต่เขาก็เป็นประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน ใช่หรือไม่ครับ ดังนั้น
ภาษาไทยเขามีคำอยู่คำหนึ่งว่า “ลางเนื้อชอบลางยา” ท่านจะชอบพรรคไหนผมไม่ว่าเลย ผมเคารพ
ท่านชอบพรรคไหน รักพรรคไหน ก็เลือกพรรคนั้นไปเลย ชอบเพื่อไทยเลือกเพื่อไทย
ชอบก้าวไกลเลือกก้าวไกล ชอบประชาชาติเลือกประชาชาติ ชอบเสรีรวมไทยเลือกเสรีรวมไทย ผมจำไม่ได้หมด
ผมขออนุญาตเอ่ยชื่อแค่ 4 มีพรรคเส้นด้ายด้วยนะครับเอ่ยชื่อหน่อย กรุณาเถอะครับ
เพื่อให้ภารกิจของฝ่ายประชาธิปไตยได้รับชัยชนะ
ผมขอกราบเรียนไปยังพรรคประชาธิปไตยทุกพรรคและพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทุกคน
เราไม่ทะเลาะกันได้มั้ยครับ ๆ ๆ ผมกราบเรียนนะครับว่า ถ้าเราทะเลาะกัน ใครดีใจครับ
ๆ ๆ ไอ้พวกเผด็จการดีใจใช่มั้ย ใช่หรือเปล่า ท่านให้คำมั่นสัญญากับผมได้มั้ยครับว่า
เราจะไม่ทะเลาะกัน พูดตามผมนะครับ เราจะไม่ทะเลาะกัน ๆ ๆ ชอบพรรคไหนเลือกพรรคนั้น
ผมขออนุญาตกราบเรียนต่อนะครับที่ว่าผมดีใจเนี่ย
เพราะผมเชื่อว่าหลัง 14 พฤษภา ฝ่ายประชาธิปไตยได้จัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน
ผมเชื่อของผมนะ ใครไม่เห็นด้วยกับผมไม่มีปัญหาเรามาถกเถียงกันได้ เพราะฉะนั้นเนี่ยจึงมีสิ่งที่จะต้องทำที่ผมฝากพรรคการเมืองเอาไว้ก่อนที่ท่านจะขึ้นมาบนเวที
พูดจากับประชาชน ท่านคงมี 8 ข้อที่ อ.ธิดา ได้ยื่นไปให้ท่านแล้ว ก่อนอื่นผมพูดสรุปสั้น
ๆ ก่อน ผมกราบเรียนทุกพรรคการเมืองว่า กรุณานำเอาข้อเสนอและข้อเรียกร้องของคปช.
ของอ.ธิดา 8 ข้อ ไปทำให้สำเร็จนะครับ ปรบมือให้กำลังใจหน่อย
แต่ผมจะลงรายละเอียดบางประการ ใช้เวลาประมาณสัก 5 นาทีนะครับ
ประการที่
1 ผมเชื่อครับว่าพรรคประชาธิปไตยที่ได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาล
สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะคสช.และรัฐบาลสืบทอดอำนาจของพวกเขาทำประเทศฉิบหายยับเยินเลยใช่มั้ยครับ
หนี้มันโผล่มา 25.4 ล้านล้านแล้วนะครับ เฉพาะคสช.เนี่ย รัฐบาลประยุทธ์เนี่ยนะ
พวกประยุทธ์เนี่ยทำเนี่ย 10 ล้านล้านแล้ว ฉะนั้นเนี่ยภารกิจอันแรกก็คือแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
แต่พี่น้องครับ ทั้งในอนุสรณ์สถานและก็ทั้งดูการถ่ายทอดสดและทั่วโลก
โปรดรับทราบอย่างหนึ่ง ท่านอาจจะเห็นด้วยกับผมหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่ผมยืนยันนะครับ
ประเทศไทยเนี่ยเศรษฐกิจเคยรุ่งเรืองเกินหน้ากว่าประเทศอื่น ๆ ในเอเชียอาคเนย์จนสิงคโปร์หวาดกลัวหวาดวิตกและเกรงขามเป็นอย่างยิ่งก่อนหน้ารัฐประหาร
49 ใช่มั้ยครับ ก่อนหน้า 49 อ่ะ เพราะฉะนั้นถ้าเรามัวเมา หลับหูหลับตา ก้มหน้าก้มตา
ทำแต่เรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว มันก็เกิดเรื่องแบบ 49 อีก
ไอ้พวกบ้ารัฐประหารทั้งหลายมันก็เข้ามายึดอำนาจ เสร็จแล้วทำประเทศพินาศยับเยินไปใช่หรือเปล่าครับ
ดังนั้นผมกราบเรียนพรรคการเมืองทุกพรรค นอกจากมุ่งหน้าในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแล้ว
ผมกราบเรียนพี่น้องและพรรคการเมืองต้องหยุดรัฐประหารให้ได้ครับ
ท่านทำได้หรือไม่ครับ
ผมกราบเรียนความเห็นส่วนตัวผมนะ
ผมว่าทำได้ ที่มันรัฐประหารซ้ำซาก ๆ ๆ เพราะไอ้พวกรัฐประหารที่มันชนะเนี่ย มันอ้างว่าเป็นรัฏฐาธิปัตย์
ไม่สามารถเอามันมาลงโทษได้ ผมได้กราบเรียนครูบาอาจารย์ของผม
เพื่อนของผมหลายคนที่มีความรู้ทางกฎหมายสูง ๆ เพื่อนของผมหลายคนที่ทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษาท่านบอกผมว่าทำได้ครับ
ก็คือ ประชาชนสามารถหยุด
พรรคการเมืองทุกพรรคสามารถหยุดการรัฐประหารโดยสันติวิธีได้ โดยไม่ต้องเอากองทัพไปรบกับมันหรอก
เอ้าทำยังไงคุณหมอ พรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยทุกท่านโปรดฟังผมนะครับ
แล้วก็โปรดนำไปพิจารณา คือผู้รู้ทางกฎหมายเขาบอกผมว่า
ก็ทำเรื่องยื่นไปที่ประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาเพื่อให้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งครับ
พิจารณาอะไร พิจารณาเพื่อทบทวนคำพิพากษาฎีกาที่บอกว่ารัฎฐาธิปัตย์ คือยึดอำนาจที่ชนะเป็นรัฎฐาธิปัตย์
เพราะฉะนั้นเล่นงานเขาไม่ได้ ผมจึงอยากจะฝากพรรคการเมืองทุกพรรคที่จะไปเป็นรัฐบาล
กรุณาครับ ท่านขึ้นมาเป็นรัฐบาลตูมปุ๊บ วันรุ่งขึ้นนี่ตั้งคณะทำงานเลย
ส่งเรื่องไปตามขั้นตอนตามกฎหมายเพื่อให้ที่ประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาพิจารณาว่าคณะรัฐประหารที่ยึดอำนาจสำเร็จก็เป็นกบฎเหมือนกันครับ
เป็นกบฏ ผมเชื่อของผมเองนะครับว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาส่วนใหญ่ที่สุดท่านไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร
เพราะฉะนั้น
ผมเชื่อของผมต่อไปว่ามติของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา นี่เป็นความเชื่อผม
ไม่ได้ไปครอบงำใคร ไม่ได้ไปครอบงำผู้พิพากษาศาลฎีกาซึ่งผมทำไม่ได้อยู่แล้วครับ
ความรู้ทางกฎหมายผมนิดเดียว แต่ผมเชื่อว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาเป็นส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจรัฐประหารครับ
ทันทีที่มีมติของที่ประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาว่าการยึดอำนาจนั้นเป็นกบฎแม้จะชนะก็ตาม
สบายเลย รัฐบาลเดินหน้าไปเชิญ เราใช้คำว่าเชิญเลย เชิญเอาคณะยึดอำนาจปี 49 สนธิ
บุญยรัตกลิน ทั้งชุดมารับการพิพากษาตามกฎหมายครับ แล้วก็ไปเชิญคณะยึดอำนาจปี 57
มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายระบุชัดนะครับว่ามีความผิดฐานกบฏ จำคุกตลอดชีวิตและประหารชีวิตครับ
ผมฝากนะครับ ผมว่าเรื่องนี้ทำไม่ยากเลย ทันทีที่ท่านเป็นรัฐบาลเนี่ยท่านทำได้ภายในเวลาไม่ถึง
6 เดือน ยื่นไปเลยครับ ผมเชื่อว่ามีการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยนี่แน่
สมมุติว่าท่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย ก้าวไกล ประชาชาติ เสรีรวมไทย
ขึ้นมาเป็นรัฐบาลและถ้าทำสำเร็จ ประวัติศาสตร์ชาติไทยจะจารึกเอาไว้ตลอดชั่วกัลปาวสาน
ชั่วลูกหลานเหลนโหลนเลยว่าพวกคุณเนี่ยได้ช่วยประเทศไทยเอาไว้ นี่คือข้อที่ 1
นะครับ
ข้อที่
2 ผมเนี่ย
ในชีวิตผมผ่านกรณีที่ทหารและกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลฆ่าประชาชนสองมือเปล่ามาอย่างน้อย
ๆ 7-8 กรณีแล้วครับ ดังนั้นผมไม่ต้องการให้มันเกิดอีกต่อไป ดังนั้นเรื่องนี้ต้องเป็นภารกิจของพรรคการเมืองเลยนะครับว่า
ทันทีที่เป็นรัฐบาล ท่านโปรดกรุณายื่นเรื่องต่อป.ป.ช.อีกครั้งหนึ่งได้มั้ยครับ
เพื่อเอา อภิสิทธิ์-สุเทพและศอฉ. มาลงโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้เนื่องจากมีหลักฐานใหม่ ๆ
เยอะแยะ เช่น คำพิพากษาศาลฎีกาว่าเราไม่ใช่ชายชุดดำ ชายชุดดำที่จับได้มันไม่จริง
แล้วก็ที่เผานี่ท่านยกฟ้องหมดแล้ว เพราะฉะนั้นนี่เป็นข้อมูลใหม่ที่ป.ป.ช.ชุดแรกซึ่งยกคำกล่าวหา
อภิสิทธิ์-สุเทพกับอนุพงษ์ เขาไม่มีข้อมูลตรงนี้ เพราะฉะนั้นพวกคุณทำได้
แต่ด้วยความเคารพ ถึงแม้พรรคการเมืองทั้งหลายจะทำ แต่ผมก็ยังมีความประหวั่นพรั่นพรึงใจว่าป.ป.ช.จะไม่เอาเรื่องครับ
ถ้าป.ป.ช.ไม่เอาเรื่อง ก็แปลว่ากระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยล้มเหลว
เมื่อเป็นอย่างนี้ผมฝากพรรคการเมืองทุกพรรคที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย
กรุณาประกาศรับรองเขตอำนาจศาล ICC เฉพาะกรณีปี 53 ทันที เรื่องนี้ทำฝ่ายเดียวนะครับ
ทำฝ่ายเดียวเลย ไม่ต้องประชุมปรึกษาหารือกับใคร ดังนั้น ถ้าป.ป.ช.เขาปัดตกไปอีก
วันรุ่งขึ้นประกาศรับรองเลย วันนั้น อ.ธิดากับผม กับ อ.ธงชัย กับอัมสเตอร์ดัม
ไปคุยเป็นวันเลยครับ
สุดท้ายนี่ตอนออกจากห้องเขาบอกคุณหมอครับเรื่องของประเทศไทยเนี่ยพวกผมเตรียมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว
เตรียมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว เหลืออย่างเดียว เหลือประกาศรับรองเขตอำนาจศาล ICC
เฉพาะกรณีเมษาพฤษภา53 เท่านั้น เขาก็จะเข้ามาเลย
เหลืออย่างเดียวครับ ท่านทำไม่ยาก ถ้าป.ป.ช.เขาปฏิเสธปุ๊บ ท่านเซ็นเลย
เพราะฉะนั้นไอ้พวกนี้ก็ต้องเดินหน้าเข้าคุกเข้าตะรางที่ต่างประเทศไป
นี่มันจะได้หยุดการฆ่าประชาชนกลางถนนเสียที
ผมเกรงใจคนพูดต่อไปนะครับ
ที่จริงผมมีเรื่องอยากจะพูดอีกหลายประการ เอาหัวข้อสุดท้ายแล้วกัน ๆ
มีเรื่องพูดเยอะครับเพราะเราไม่ได้เจอกันตั้งนาน
แล้วผมก็ไม่ได้เคยเจอพรรคการเมืองเพื่อประชาธิปไตยมายาวนานเหมือนกัน
และไม่มีโอกาสพูดเยอะแยะ มีหลายอย่างที่ผมอยากจะพูด แต่ผมจะพูดข้อสุดท้าย
ผมฝากนะครับ ท่านแก้ปัญหาเศรษฐกิจแก้ไปเลยตามนโยบายของทุกพรรคที่ว่ามานะครับ
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้ท่านตั้งคณะกรรมการของพรรคของท่านหรือรัฐบาลของท่านเนี่ย
ให้ตั้งคณะกรรมการมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560
เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศเลือกสสร.ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรงครับ
แล้วก็ไปทำประชามติ ผมเงี่ยหูฟังประชาชนทั่วทั้งประเทศ
ผมพอจะบอกได้ว่าประชาชนเขาต้องการอะไร
ข้อแรก
ประชาชนไม่เอาส.ว.แต่งตั้งครับ ไปเลย ๆ ๆ ไม่เอาครับ
ข้อสอง
ประชาชนไม่เอาองค์กรอิสระที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารครับ ไปเลย ๆ ๆ
องค์กรอิสระไปเลย
ข้อที่สาม
ประชาชนไม่เอาศาลรัฐธรรมนูญที่มาจากคณะรัฐประหารครับ ไปเลย ๆ ๆ
ข้อสี่
สภากลาโหมเนี่ยต้องมีประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานสภาผู้แทนราษฎร
หัวหน้าฝ่ายรัฐบาล หัวหน้าฝ่ายค้าน เข้าไปนั่งอยู่ในสภากลาโหมครับ
ปัจจุบันเขาเป็นทหาร 6 คน ผบ.บก เรือ อากาศ ตำรวจ ปลัดกระทรวง
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็ 6 คนแล้ว แล้วมีรัฐมนตรี 1 คน ส่วนใหญ่เป็นทหาร
และรองรัฐมนตรีอีกคนหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นทหาร 7 คน เป็นทหารทั้งหมด
เพราะฉะนั้นสภากลาโหมที่พิจารณาทหารทั้งประเทศเป็นทหารทั้งหมด
แล้วเราจะปฏิรูปกองทัพได้อย่างไรครับ ไม่มีทาง ผมอยากให้เอาประธานสภาผู้แทนราษฎร
รองประธานสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าฝ่ายค้าน หัวหน้าฝ่ายรัฐบาล เข้าไปนั่งในนั้น
แล้วลดพวกนั้นออก เอาพวกนี้เข้าไปแทน
ข้อต่อมาครับผมใกล้จะจบแล้วนะครับ
ผมเสนอให้รัฐบาล ท่านทั้งหลายที่เป็นพรรคประชาธิปไตยเมื่อเข้าไปเป็นรัฐบาลกรุณายกเลิก
กอ.รมน. ครับ กอ.รมน. ยกเลิกไปเลย
เพราะกอ.รมน.เนี่ยมันเป็นองคาพยพของทหารและการชำแรกแทรกซึมเข้าไปในทุกเซลล์ของประเทศไทย
ยกเลิก กอ.รมน. ครับ
อีกข้อหนึ่งนะ
หลายอย่างอ.ธิดาพูดไปแล้ว ขออีกข้อหนึ่งก็คือต้องแก้ไขกฎอัยการศึกครับ ไม่ใช่ว่ากฎอัยการศึกคุณให้ผู้บัญชาการทหารในพื้นที่
ผมไปอ่านดูแล้ว ที่เขาครองกองกำลังซึ่งเขาไม่ได้บอกว่าขนาดไหน กองพลก็ได้ หมวดก็ได้
หมู่ก็ได้ หน่วยยังได้เลย ประกาศกฎอัยการศึกได้ ผมว่าท่านต้องเข้าไปแก้ครับ ก็คือ
ให้รัฐบาลหรือสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้พิจารณาประกาศกฎอัยการศึกครับ
สรุปแล้วก็คือว่า
พิจารณาข้อเสนอข้อเรียกร้อง 8 ข้อของคปช.53
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งนะครับว่าพรรคการเมืองทุกพรรคเนี่ยจะรับฟังเสียงของประชาชน
ผมไม่ได้พูดในฐานะตัวผมเองนะครับ ผมพูดจากการรับฟังเสียงของประชาชนมามากเหลือเกิน
เขาต้องการเช่นนี้ครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งนะครับ แล้วก็ด้วยความเคารพ
ผมเห็นด้วยว่าต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่อย่าลืมปัญหาทางการเมือง
เพราะประเทศไทยในสมัยก่อนปี 49 สิงคโปร์นี่กลัวเรามากเลย มีเพื่อนผมจำนวนมากอยู่ที่สิงคโปร์เขาบอกว่ารัฐบาลสิงคโปร์เขากลัวรัฐบาลสมัยนั้นมาก
เพราะรัฐบาลไทยในสมัยนั้นมีความสามารถสูงมาก แต่ดูซิครับพอรัฐประหาร 49 ขึ้นมาปุ๊บ
ยับเยินทุกอย่าง ฉะนั้นต่อไปนี้นะครับท่านไปเป็นรัฐบาลแล้ว
ท่านต้องหยุดรัฐประหารให้ได้ครับ โดยเอาพวกยึดอำนาจสำเร็จมาลงโทษ 113 ครับ
ขอบคุณครับ