วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2566

‘รังสิมันต์-เบญจา’ สัญจรปราศรัยตราด-จันทบุรี ปลื้มกระแสนิยมพุ่งแรง มั่นใจก้าวไกลป้องกันแชมป์ ยืนหนึ่งภาคตะวันออก พร้อมเป็นรัฐบาล เปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม

 


รังสิมันต์-เบญจา’ สัญจรปราศรัยตราด-จันทบุรี ปลื้มกระแสนิยมพุ่งแรง มั่นใจก้าวไกลป้องกันแชมป์ ยืนหนึ่งภาคตะวันออก พร้อมเป็นรัฐบาล เปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม

 

วานนี้ (28 เม.ย. 66) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และ เบญจา แสงจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รณรงค์หาเสียงร่วมกับผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย วรายุทธ ทองสุข ผู้สมัครเขต 1 เบอร์ 4 และ ญาณธิชา บัวเผื่อน ผู้สมัครเขต 3 เบอร์ 2

 

รังสิมันต์กล่าวว่า วันนี้พรรคก้าวไกลตั้งใจมาเพื่อป้องกันแชมป์ ส่งญาณธิชากลับเข้าสภาฯ ไปแก้ไขปัญหาให้ชาวสวนในจันทบุรีต่อไป หลังจากตลอด 4 ปีได้ตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เป็นผู้นำประเด็นปัญหาของชาวสวนในช่วงวิกฤตโควิดเข้าสู่สภาฯ เพื่อหาทางแก้ไขแม้จะเป็นฝ่ายค้าน โดยจากผลตอบรับของพี่น้องประชาชนในพื้นที่วันนี้ ทำให้ตนมั่นใจว่าเลือกตั้งรอบนี้ ชาวจันทบุรีจะเลือกพรรคก้าวไกลให้คว้าชัยชนะทั้งสามเขตเลือกตั้งแน่นอน

 

รังสิมันต์กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งปี 66 พรรคก้าวไกลไม่ได้มองแค่การได้มากกว่า 100 ที่นั่งเพื่อไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอีกต่อไป จากกระแสนิยมที่พี่น้องประชาชนส่งมาถึงเราจากทั่วประเทศวันนี้ พรรคก้าวไกลมีความพร้อมที่จะเข้าไปเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งทิม พิธา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง สร้างรัฐสวัสดิการที่ดีให้ประชาชนทั้งประเทศ ปฏิรูประบบการศึกษา ปฏิรูปตำรวจและกองทัพ ด้วยเป้าหมายหลักคือการเห็นพี่น้องประชาชนทุกท่านมีคุณภาพชีวิตที่ดี

 

วิธีเดียวที่จะสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้สำเร็จ คือเราต้องไม่จับมือกับผู้ที่ขัดขวางความเจริญของประเทศมาแล้วถึง 8 ปี เพราะการจับมือกับผู้ที่มีผลประโยชน์เกี่ยวพันโดยตรงกับปัญหาเหล่านี้ จะทำให้เราไม่สามารถทำงานแก้ไขปัญหาตามที่ได้สัญญาไว้กับพี่น้องประชาชน” รังสิมันต์กล่าว

 

นอกจากที่จันทบุรี ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 รังสิมันต์ และ เบญจา ได้รณรงค์หาเสียงทั่วจังหวัดตราด ร่วมกับ ศักดินัย นุ่มหนู ผู้สมัคร ส.ส.ตราด เขต 1 พรรคก้าวไกล (เบอร์ 1) โดยนำเสนอนโยบายชุบชีวิต 4 อุตสาหกรรมหลักในจังหวัดตราด ที่พรรคก้าวไกลเตรียมผลักดันเมื่อเข้าไปเป็นรัฐบาล ได้แก่ การท่องเที่ยว การเกษตร การประมง และการค้าชายแดน พร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องโฉนดที่ดินทำกินและปัญหาช้างป่าในพื้นที่

 

รังสิมันต์กล่าวว่า สำหรับนโยบายชุบชีวิต 4 อุตสาหกรรมหลักของจังหวัดตราด พรรคก้าวไกลต้องการผลักดันทั้ง 4 ด้านไปพร้อมกันเพื่อฟื้นฟูจังหวัดตราด โดยสำหรับการท่องเที่ยว พรรคก้าวไกลจะจับกระแสโลก ส่งเสริมการท่องเที่ยวแนวใหม่ เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวสีเขียว และการทำงานในขณะท่องเที่ยว (Workation) ทั้งจะส่งเสริมเทศกาลของแต่ละพื้นที่ เพื่อดึงดูดให้มีการไหลเวียนของนักท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ

 

สำหรับการเกษตร พรรคก้าวไกลมีนโยบายปลดหนี้ ธ.ก.ส. ให้กับเกษตรกรสูงวัย ถ้าจ่ายหนี้ถึงครึ่ง รัฐยกอีกครึ่งให้ทันที เพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตรด้วยการแปรรูปและเปิดตลาดใหม่ๆ ลดต้นทุนทางการเกษตรเช่นปุ๋ยและยา พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางหารายได้ใหม่ให้กับเกษตร ส่วนการประมง เราต้องการคืนชีวิตให้พี่น้องชาวประมงด้วยการทำให้ระบบจด-ต่อทะเบียนได้ผ่านมือถือ ผ่อนปรนความซับซ้อนของเอกสารราชการต่างๆ เร่งการซื้อคืนเรือประมงที่ยังตกค้าง และหยุดการบังคับติดระบบสำแดงข้อมูลตัวตนอัตโนมัติ (AIS) และสำหรับการค้าชายแดน พรรคก้าวไกลต้องการปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ ทำให้การขนส่งสินค้าข้ามแดนเป็นไปได้อย่างสะดวก รวดเร็ว บวกกับการทำข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อให้การข้ามชายแดนสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นไปได้ง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวและทัวร์รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการข้ามแดนมาเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง

 

สำหรับการแก้ไขปัญหาช้างป่า พรรคก้าวไกลเตรียมนำเสนอนโยบายแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างป่าและประชาชน เช่นการปรับอัตราการชดเชย-เยียวยาเหยื่อจากช้างป่าที่ครอบคลุมถึงชีวิต ทรัพย์สิน พืชผลทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายด้วยระบบที่เป็นธรรม รวดเร็ว มีราคากลางที่สามารถตรวจสอบได้, จัดตั้งทีมอาสาใน 300 หมู่บ้านเสี่ยงภัยและศูนย์บัญชาการที่พร้อมดำเนินงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ขัดแย้งในการปฏิบัติงาน, ทำการศึกษาวิจัย ออกแบบพื้นที่อาศัยถาวรสำหรับช้างป่าเพื่อนำช้างป่ากลับเข้ามาอยู่ในพื้นที่อาศัยถาวร และสร้างแนวป้องกันที่เหมาะสม และพัฒนาเทคโนโลยีระบบติดตามเฝ้าระวังช้างป่า พัฒนาเป็นองค์ความรู้ในการจัดการช้างป่าที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เพื่อการระดมทุนในการป้องกันแก้ไขปัญหานี้ต่อไปในอนาคต

 

ส่วนการแก้ไขปัญหาโฉนดที่ดิน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวไว้เสมอว่าปัญหาที่ดินเป็นเหมือนกระดุมเม็ดแรกที่ต้องได้รับการแก้ไข ปัจจุบัน 80% ของที่ดินทั้งหมดกระจุกอยู่ที่คนที่รวยที่สุด 5% ในขณะที่ 75% ของคนไทยไม่มีที่ดินของตนเอง พรรคก้าวไกลต้องการลดความเหลื่อมล้ำในการครอบครองที่ดิน ด้วยการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดอย่างเป็นธรรม มีกลไกของธนาคารที่ดินที่จะกระจายการถือครองที่ดินแก่ประชาชน และปฏิรูปการบริหารที่ดินทั้งระบบ

 

รังสิมันต์กล่าวว่า นโยบายเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงที่พรรคก้าวไกลจะเข้าไปลงมือทำ หากพี่น้องประชาชนสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม เข้าไปดูได้ที่  https://election66.moveforwardparty.org/policy

 

รังสิมันต์ทิ้งท้ายว่า ในการเลือกตั้งรอบที่แล้ว พรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากชาวตราด ชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงโหวตมากกว่า 30,000 คะแนน รอบนี้เรามั่นใจว่าก้าวไกลจะป้องกันแชมป์ที่ตราดได้และตั้งเป้าจะชนะให้มากกว่าเดิม จึงขอโอกาสจากประชาชน กาเบอร์ 1 เลือกศักดินัยเข้าสภาฯ ไปทำงานต่อ กาเบอร์ 31 เลือกพิธาเป็นนายกฯ กาก้าวไกลสองใบ เพื่อเปลี่ยนแปลงตราด เปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม ให้ตัวเราและลูกหลานมีการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66