‘โรม’
จี้ อย่าให้มีล้มคดีค้ายาข้ามชาติ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมไทยให้ถอนชื่อลูกสาว
‘มินอ่องลาย’ จากคดีทุนมินลัต ชี้รัฐบาลไทยต้องฟื้นฟูบทบาทนำในเวทีอาเซียน
เจรจาหาทางออกความรุนแรงในเมียนมา
วันที่
17 เมษายน 2566 ที่พรรคก้าวไกล รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล
แถลงข่าวประจำสัปดาห์ในหลายประเด็น
เริ่มที่ประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา ที่รัฐบาลเผด็จการทหาร
ทำการปราบปรามฝ่ายต่อต้านและโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือน
รายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศ ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 171 คน
ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 24 คน และเด็ก 38 คน
รังสิมันต์กล่าวว่า
พรรคก้าวไกลขอยืนยันจุดยืนว่าการใช้กำลังทางการทหารต่อพลเรือนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในทุกกรณี
และขอเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกรูปแบบ
พร้อมทั้งคืนประชาธิปไตยกลับสู่ประชาชนโดยเร็ว
พรรคก้าวไกลเห็นว่าท่าทีวางเฉยของรัฐบาลไทยในขณะนี้
เป็นการเพิกเฉยต่อมนุษยธรรมและไม่ช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
ประเทศไทยควรฟื้นฟูบทบาทนำในเวทีอาเซียนอีกครั้ง
ด้วยการกลับมาเป็นผู้นำในการเจรจาด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการเจรจาสันติภาพ
คืนประชาธิปไตยสู่ประเทศเมียนมาโดยยึดหลักการการสร้างเสถียรภาพอย่างสร้างสรรค์ (Constructive
Stabilization) ตั้งเป้าหมายว่าจะยุติสงครามกลางเมืองและการเสียชีวิตของประชาชนโดยเร็ว
ด้วยการใช้ความร่วมระหว่างอาเซียนและสหประชาชาติจัดการกับวิกฤติในประเทศเมียนมา
และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านกลับมาเป็นประชาธิปไตย
โดยเคารพเจตจำนงของประชาชนชาวเมียนมาในการแก้ไขปัญหาภายในประเทศ
นอกจากนี้
สิ่งที่รัฐบาลไทยต้องทำคือการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยทางการเมืองด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ไม่ส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทาง ดังที่ประเทศไทยได้ส่งกลับ 3 ผู้ลี้ภัยจนมีรายงานว่าคนที่ถูกรัฐบาลไทยส่งกลับนี้
ถูกสังหารแล้วอย่างน้อย 1 ราย
รังสิมันต์
กล่าวต่อไปว่า การส่งกลับผู้ลี้ภัยทางการเมือง
สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างเผด็จการทหารไทยและเผด็จการทหารเมียนมาร์
ซึ่งถูกตั้งคำถามว่าความสัมพันธ์นี้ต่อยอดกลายเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับขบวนการค้ายาเสพติด
ให้ทำธุรกิจค้ายาและฟอกเงินในประเทศไทยได้อย่างง่ายดาย
เห็นได้จากกรณีที่ถูกตั้งคำถามว่ามินอ่องลาย
พูดคุยกับทางการไทยให้ถอนชื่อลูกสาวจากคดีทุนมินลัตหรือไม่
ตามที่สำนักข่าว
The
Irrawaddy ของประเทศเมียนมา รายงานข่าวว่าพลเอกอาวุโสมินอ่องลาย
หัวหน้าคณะรัฐประหารเมียนมา พยายามติดต่อเจรจากับทางการไทยเพื่อให้ถอนชื่อบุตรสาวของตัวเองออกจากคดีของทุนมินลัต
ผู้ซึ่งถูกจับกุมดำเนินคดีในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและข้อหาฟอกเงิน
และมีความเชื่อมโยงไปถึง อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา
ในคดีดังกล่าวไม่ได้มีชื่อลูกของมินอ่องลายร่วมเป็นจำเลย แต่ที่เข้ามาเกี่ยวข้องเพราะในการตรวจยึดทรัพย์สินของทุนมินลัตที่ถือครองอยู่
เจ้าหน้าที่พบว่ามีสมุดบัญชีธนาคารในไทยของลูกสาวมินอ่องลาย
และหนังสือกรรมสิทธิ์และสัญญาซื้อขายคอนโดในไทยของลูกชายมินอ่องลาย รวมอยู่ด้วย
ตนเข้าใจว่าตามรายงานข่าวข้างต้นน่าจะเป็นการเจรจาเพื่อให้ลูกของเผด็จการทหารเมียนมาหลุดพ้นจากกระบวนการตรงนี้
รัฐบาลไทยต้องสร้างความเป็นธรรมต่อเรื่องนี้
จะปล่อยให้รัฐบาลอื่นมาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมไม่ได้
ในเมื่อคดีของทุนมินลัตมีการตั้งข้อหาทั้งเรื่องยาเสพติดและการฟอกเงินไปแล้ว
ทางการไทยย่อมมีอำนาจในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดได้
ทั้งตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
และร้องต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งริบทรัพย์สินนั้นหรือให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
ซึ่งหน่วยงานสำคัญที่มีอำนาจหน้าที่เหล่านี้ก็คือ ป.ป.ส. และ ปปง.
ทว่าตลอดที่ผ่านมาหลายเดือนก็ยังไม่เห็นว่าทั้ง 2
หน่วยงานจะดำเนินการอะไรกับทรัพย์สินของลูกๆ มินอ่องลายอย่างจริงจังเสียที
"ไม่แน่ใจว่าท้ายที่สุด
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำหน้าที่ของตัวเองหรือเปล่า หรือปล่อยให้คืนทรัพย์สินไปยังมินอ่องลาย
เราจะถูกตั้งคำถามจากนานาชาติมากยิ่งขึ้น
ว่ารัฐบาลไทยมีส่วนได้เสียกับขบวนการค้ายาเสพติดและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมียนมาหรือไม่
จากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดดังกล่าว" รังสิมันต์กล่าว
ส่วนกรณีอัยการสูงสุด
เปิดเผยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งทางคดี ส.ว.อุปกิต ซึ่งเดิมกำหนดให้เป็นวันนี้
ออกไปก่อนโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากอุปกิตยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม
รังสิมันต์กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นตลกร้าย สิ่งที่ตนกังวลมาตลอดเกิดขึ้นจริงแล้ว
ที่อัยการระบุว่าจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุปกิตกว่า 80
แห่งนั้น ตนเห็นว่า 2 เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมัดรวมกัน หากจะมัดรวม
ควรมัดรวมกับคดีทุนมินลัตซึ่งวันนี้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีไปแล้ว ถ้าอัยการฯ
ทำหน้าที่แบบนี้สังคมจะตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส
อาจตราหน้าว่ากำลังช่วยเหลือคนที่เกี่ยวข้องคดีค้ายาหรือไม่ ตนไม่อยากให้เรื่องนี้ซ้ำรอยคดีบอส
อยู่วิทยา จึงขอให้อัยการทบทวนให้ดี
เพราะถึงที่สุดกังวลว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นำอาจไปสู่การล้มคดีหรือไม่