วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2565

“ต๋ง ทะลุฟ้า” ปนัดดา สิริมาสกุล : อาลัย “วัฒน์ วรรลยางกูร”

 


งานไว้อาลัย #วัฒน์วรรลยางกูร


“ต๋ง ทะลุฟ้า” ปนัดดา สิริมาสกุล : อาลัย “วัฒน์ วรรลยางกูร”


จากทะลุฟ้า ถึงคุณวัฒน์ วรรลยางกูร


ดิฉัน ปนัดดา สิริมาสกุล ตัวแทนจากทะลุฟ้า วันนี้พวกเรากลุ่มทะลุฟ้าขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแสดงความรำลึกถึง คุณวัฒน์ วรรลยางกูร นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยผู้ล่วงลับ


คุณวัฒน์ วรรลยางกูร เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ผู้ที่สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเยี่ยงวีรบุรุษที่สู้กับเผด็จการผู้ชั่วร้ายตราบจนสิ้นลมหายใจ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คุณวัฒน์ได้พยายามสู้กับระบอบทมิฬมาโดยตลอด โดยผ่านทั้งวรรณกรรมและบทกวีต่าง ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงอุดมการณ์และเจตนารมณ์ที่ต้องการจะสื่อสารและส่งต่อไปยังผู้อื่น แต่ด้วยการมีอยู่ของกฎหมายอันไม่ชอบธรรมอย่างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทำให้ชีวิตของคุณวัฒน์ที่ควรจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวช่วงบั้นปลายของชีวิตในประเทศบ้านเกิด กลับต้องพลักผัน ชีวิตของคุณวัฒน์ต้องเข้าสู่การหลบหนีจากมือมารอีกครั้ง โดยครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการหลบหนีเข้าป่าอย่างเช่นสมัยหนุ่ม แต่ต้องเป็นการลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศอันแสนไกล ซ้ำแล้วยังต้องลี้ภัยถึงสองครั้ง และแม้ว่าการลี้ภัยในครั้งนั้นจะทำให้คุณวัฒน์ต้องห่างจากครอบครัวและมิตรสหาย แต่เจตนารมณ์และอุดมการณ์ของคุณวัฒน์นั้นยังคงมีอยู่ ยังมีวรรณกรรมมากมายจากปลายปากกาที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างมหาศาลแก่คนรุ่นใหม่อย่างพวกเรา ให้รู้สึกอยากจะต่อสู้เพื่อโลกใบใหม่ที่เสรีอย่างแท้จริง


พวกเราทะลุฟ้า ในฐานะนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะเติบโตได้ไม่นาน พวกเราได้เรียนรู้และรับทราบถึงสิ่งที่คุณวัฒน์ได้พยายามทำมาโดยตลอด ไม่ว่าจะตั้งแต่ยุคสมัย 6ตุลา จนถึงในช่วงสุดท้ายของชีวิต พวกเรารู้สึกขอบคุณคุณวัฒน์และวีรชนผู้ล่วงลับไปแล้วทุกท่าน ที่เริ่มปูทางให้แก่พวกเรามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และพวกเราสัญญาว่าจะนำพาโลกใบใหม่มาสู่ประเทศนี้ให้ได้ดังที่คาดหวัง


และท้ายที่สุดนี้ พวกเราขอพูดแทนในส่วนของผู้ที่โดนคดีจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จนต้องลี้ภัยไปในต่างแดนทุกคน พวกเราเสียใจทุกครั้งที่ต้องเห็นผู้ลี้ภัยคนใดคนหนึ่งที่ต้องเสียชีวิตในต่างประเทศ และไม่มีโอกาสได้กลับมาประเทศไทย ไม่ควรมีใครต้องลี้ภัยจนตาย และไม่ควรที่จะมีกฎหมายมาตราใดที่จะมาทำลายชีวิตคน ๆ หนึ่งได้ เพียงเพราะมีความคิดที่ไม่ถูกใจผู้ปกครอง ด้วยเหตุนี้ การสืบสานเจตนารมณ์จะยังต้องมีต่อไป และพวกเราขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะสานต่อเจตนารมณ์นั้น

 

และสุดท้ายขอฝากบทกลอน “แด่ดินสอโดมผู้จากไป” ของศ.ดร.เกษียร เตชะพีระ อดีตนักศึกษา 6ตุลา ที่ได้แต่กลอนไว้อาลัยให้แก่คุณวัฒน์


เหลาขึ้นทั้งกายใจจากไม้สัก

ได้จารึกจำหลักเป็นหลักฐาน

เสียงดนตรีเสียงกวีดังกังวาน

บันทึกเป็นพยานตลอดไป


เขียนเอาไว้กลางใจแห่งแผ่นดิน

เลือดที่รินร่างที่เรียงเสียงร่ำไห้

ป่าที่เข้าศึกที่สู้เพื่อกู้ไท

สู้พ่ายแพ้สู้ใหม่ไม่จำนน


แผ่นดินกว้างทางกลับช่างคับแคบ

ประคองแผลเจ็บแสบไม่ห่างหน

สู่โลกใหม่หายใจเสรีชน

ฝากฝันให้ทุกคนข้ามฟากฟ้า


ดินสอโดมขีดครบจบบรรทัด

ตำนานการยืนหยัดของคนกล้า

เรียกหนุ่มสาวพลิกฟื้นตื่นเต็มตา

เรียงสัมผัสพลิกหน้าต่อตำนาน


ขอบคุณค่ะ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์