กิจกรรม Stand Together พูดคุยและส่งกำลังใจให้ผู้ต้องหาคดี ม.112 ที่รอฟังคำพิพากษาในเดือนมี.ค. นี้ พร้อมพูดคุยเพื่อนผู้เข้าเยี่ยม "ตะวัน-แฟรงค์-บุ้ง" จับตาพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) ครบกำหนดฝากขัง "ตะวัน-แฟรงค์" ผลัดที่สอง
วันนี้ (7 มี.ค. 67) ที่อาคาร All Rise (สำนักงาน iLaw หมู่บ้านกลางเมือง รัชดา-ลาดพร้าว) iLaw จัดงาน "Stand Together" ส่งใจให้ผู้ต้องหา ก่อนเผชิญคำพิพากษามาตรา 112 ในเดือนมี.ค. 67
เวลา 15.00 น. เริ่มวงสนทนาที่จะพาไปสัมผัสความรู้สึกของจำเลยมาตรา 112 ร่วมพูดคุยโดย ขนุน-สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ ฟังคำพิพากษาคดีปราศรัยใน #18พฤศจิกาไปราษฎรประสงค์ วันที่ 25 มี.ค. 67, ปูน-ธนพัฒน์ กาเพ็ง ฟังคำพิพากษาคดีเผารูป ร. 10 หน้าเรือนจำคลองเปรม วันที่ 26 มี.ค. 67 และ ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก ฟังคำพิพากษาคดีโพสต์ #ราษฎรสาส์น ถึงร. 10 บนเฟซบุ๊ก วันที่ 28 มี.ค. 67
ขนุน สิรภพ ได้เล่าถึงครั้งแรกที่ตัวเองถูกหมายจับพ.ร.ก.ชุมนุมฯ ครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่มาล้อมบ้านมากกว่า 30 คน ในใจขณะนั้นมีความกังวลอยู่บ้าง และขณะที่ถูกพาตัวไปก็ไม่มั่นใจในอนาคตว่าจะโดนอะไรบ้าง
ขนุนเล่าต่อด้วยว่า ครั้งต่อมามักถูก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่หลังการสลายการชุมนุมที่หน้าอาคารรัฐสภา เขาถูกแจ้งมาตรา112 เพิ่มอีกด้วย
ขนุน ยอมรับว่าเขาได้รับวิธีเอาตัวรอดในเรือนจำจากเอกชัย หงส์กังวาน เช่น การรู้จักคนข้างในเยอะ ๆ การเติมน้ำ และเรื่องอาหารการกิน และการพยายามพูดคุยและแบ่งปันของในเรือนจำกับผู้คนห้องขังเดียวกัน
ขนุน ระบุว่า การเข้าไปในเรือนจำเป็นเรื่องน่ากลัว แต่เราต้องปรับตัวเพื่อให้ใช้ชีวิตต่อไปได้ และได้ฝากถึงผู้ต้องหาคดีการเมืองในเรือนจำทุกคนในขณะนี้ วาดหวังว่าทุกคนจะได้รับอิสรภาพโดยเร็ว และประเทศจะก้าวสู่ประชาธิปไตย
ด้าน ปูน ธนพัฒน์ ได้กล่าวถึงการถูกหมายจับช่วงแรกว่า ตอนนั้นรู้สึกกลัวแต่ต้องบอกกับคนอื่นว่าเขาไม่กลัว และยืนยันว่าทุกคนควรมีสิทธิได้รับการประกันตัวจากการไปแสดงออกถึงผู้มีอำนาจหรือรัฐบาล
ปูนเล่าว่า ความช่วยเหลือหลังได้รับหมายจับ นั้นก็มีพี่ๆ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนคอยช่วยเหลือจนถึงทุกวันนี้ จึงอยากขอบคุณศูนย์ทนายฯ มาก ๆ
ปูน มองว่าทุกวันนี้ชัดเจนมากว่ากระบวนการยุติธรรมมีความสองมาตรฐาน ระบุว่าความอยุติธรรม ความสองมาตรฐาน และการส่งเข้าเรือนจำ เป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เรือนจำควรเป็นที่บ่มเพาะให้คนกลับสู่สังคมได้ แต่สภาพแวดล้อมจริงไม่สามารถทำได้ มีความสองมาตรฐาน หล่อหลอมออกมาด้วยทัศนคติของผู้กดขี่ ผู้ที่มองคนไม่เท่ากัน
ปูนเล่าเรื่องตอนที่อยู่ในเรือนจำว่า เขาได้รับอาหารมาเป็นถุง เปิดกรงยกเข้ามาให้แล้วปิดกรง ให้ทุกคนจัดการกับอาหารในถุงเอาเอง ทำเหมือนเป็นสัตว์
ปูนย้ำว่า สิ่งที่เขาอยากบอกกับตัวเองในวันพิพากษาว่า ขอให้ตัวเองเข้มแข็ง มั่นคง ไม่ว่าอะไรทำร้ายเรา เราก็จะไม่เปลี่ยน
ขณะที่ ไมค์ ภาณุพงศ์ กล่าวถึงการที่ได้พูดถึงเรื่องราวในคุกเหมือนเรื่องสนุกไม่ใช่เราไม่เครียด แต่เป็นการให้กำลังใจกันและกัน เหมือนเราเดินเหยียบหนามจนเลือดไหล แต่เราก็เดินต่อไปได้แล้วคนที่ตามมาจะไม่เหยียบหนามเหมือนกันกับเรา
ไมค์มองว่า การเอาคนเข้าเรือนจำไม่ได้ทำให้คนกลัว แต่กลายเป็นว่าเรายิ่งกล้าเพราะรัฐทำไม่ถูก บางครั้งยิ่งเข้าไปยิ่งได้เพื่อน
ไมค์ย้ำว่า สิ่งที่อยากให้กำลังใจตัวเองในวันพิพากษานั้นก็คือ วันแรกตัดสินใจอย่างไรวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ห่วงคือคุณแม่ เพราะไมค์เองก็เป็นผู้ดูแลแม่มาโดยตลอด ก็ฝากทุเรียนทอดและสินค้าของแม่ให้ช่วยกันอุดหนุนด้วยถ้าตัวเขาเองต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ
จากนั้น เวลา 16.30 น. สายน้ำและบิวตี้ ได้มาจ่วมพูดคุย บอกเล่าเรื่องการอดอาหารของทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ และเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ในฐานะเพื่อนที่ได้เข้าเยี่ยม
โดยสายน้ำ ได้กล่าวว่า พรุ่งนี้ตะวันและแฟรงค์จะครบกำหนดฝากขังผลัดที่สองในวันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) โดยทั้งสองยืนยันให้เบิกตัวไปศาลอาญาเพื่อไต่สวนคัดค้านการฝากขังต่อ ไม่ว่าสภาพร่างกายจะเป็นอย่างไร
สำหรับพรุ่งนี้ ศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. สุลักษณ์ ศิวรักษ์ (โดยผู้รับมอบฉันทะ) และอธึกกิต แสวงสุข ( ใบตองแห้ง) เดินทางเข้ายื่นคำแถลงขอให้พิจารณาไม่รับฝากขังและคัดค้านการไม่ให้ปล่อยชั่วคราวตะวันและแฟรงค์ รวมถึงประชาชนผู้ต่อสู้ทางความคิดรายอื่นอันจะเกิดขึ้นในอนาคต
จากนั้น 15.00น. สุชาติ สวัสดิ์ศรี (สิงห์ สนามหลวง ) และ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เดินทางเข้ายื่นคำแถลง
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #มาตรา112 #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน #ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
