วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2567

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม องค์กรภาคประชาสังคม ยื่นจดหมายถึงประธานศาลฎีกา ขอให้เร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขคำสั่งเกี่ยวกับการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังทางการเมือง

 


มูลนิธิผสานวัฒนธรรม องค์กรภาคประชาสังคม ยื่นจดหมายถึงประธานศาลฎีกา ขอให้เร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขคำสั่งเกี่ยวกับการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังทางการเมือง

 

วันนี้ (8 มีนาคม 2567 ) เวลา 13.30 น. ณ สำนักประธานศาลฎีกา แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม องค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยกว่า 10 องค์กร อาทิ, เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษ (JASAD), กลุ่มด้วยใจ องค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี (HAP), สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน, สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน, มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา, กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ, กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย, ThumbRights - ทำไรท์, เครือข่ายประชาชนเพื่อสิทธิทางการเมือง, คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.), กลุ่มคนงาน Try Arm และเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม สื่อมวลชนและประชาชน

 

ร่วมแสดงพลังยื่นจดหมายปิดผนึกถึงศาลฎีกาด้วยกันเพื่อขอให้ประธานศาลฎีกาเร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขคำสั่งเกี่ยวกับการปล่อยตัวชั่วคราว การกำหนดหลักประกันและเงื่อนไข การถอนประกันตัว ของนักกิจกรรมทางการเมืองอย่างเร่งด่วน ภายหลังนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง, นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ เริ่มอดอาหารและน้ำจนมีอาการทรุดลงอย่างรุนแรงและสุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิต เพื่อประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมที่ไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมและปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้อย่างแท้จริง

 

และเพื่อให้มั่นใจว่าตุลาการจะอำนวยความเป็นธรรมและเป็นเสาหลักอันศักดิ์สิทธิให้กับประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนและประชาคมนานาชาติและเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งต่อไป

 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องขังทางการเมืองทั้งหมด และระบุว่า ศาลยกคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมืองรวม 15 คน ได้แก่ อุดม, “กัลยา” (นามสมมติ), “บัสบาส” มงคล, วีรภาพ, “แม็กกี้” (นามสมมติ), จิรวัฒน์, ทีปกร, ถิรนัย, ชัยพร, คเชนทร์, ขจรศักดิ์, “บุ๊ค” ธนายุทธ, ไพฑูรย์, สุขสันต์ และประวิตร อ้างไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม หลังจากเมื่อวันที่ 8-9 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา ทนายความได้ยื่นประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมือง 15 คน ซึ่งเป็นคดีมาตรา 112 จำนวน 7 คน และคดีอื่นที่มีมูลเหตุสืบเนื่องจากการเมืองอีก 8 คน ที่ศาลอาญา, ศาลอาญากรุงเทพใต้, ศาลจังหวัดนราธิวาส และศาลจังหวัดเชียงราย ซึ่งศาลสั่งให้ขังผู้ต้องหาหรือจำเลยในระหว่างพิจารณาคดีในชั้นศาล ทำให้เกิดการตั้งคำถามอย่างกว้างขวางท่ามกลางการจับตาอย่างใกล้ชิดของประชาชน ถึงการใช้อำนาจของผู้พิพากษาบางคนที่อาจไม่เป็นธรรม รวมถึงการใช้ดุลพินิจที่ขัดต่อหลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ซึ่งได้รับการรับรองจากรัฐธรรมนูญและกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งเห็นได้ว่าก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก สิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม (Fair trial) และไม่เคารพหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบริสุทธิ์จนกว่าคดีจะถึงที่สุด (Presumption of innocence)

 

ทั้งนี้ในวันนี้ (8 มี.ค.) มูลนิธิผสานวัฒนธรรมจึงส่งหนังสือเรียนประธานศาลฎีกา โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อห่วงกังวลเรื่องความเป็นอิสระของผู้พิพากษา และการใช้ดุลพินิจในการพิจารณาสั่งไม่ให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง และควรปฏิบัติตามหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบริสุทธิ์จนกว่าคดีจะถึงที่สุด (Presumption of innocence) เป็นสำคัญ โดยการอนุญาตให้ผู้ต้องหา/จำเลยถูกปล่อยตัว

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน