วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2567

“ชัยธวัช” ขอชาวก้าวไกลอย่าหวั่นกระแสยุบพรรค ชี้เพราะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มหาศาลเลยถูกไล่ตีหนัก มั่นใจไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น “พรรคแบบนี้” มีแต่โตไม่หยุด

 


“ชัยธวัช” ขอชาวก้าวไกลอย่าหวั่นกระแสยุบพรรค ชี้เพราะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มหาศาลเลยถูกไล่ตีหนัก มั่นใจไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น “พรรคแบบนี้” มีแต่โตไม่หยุด


วันที่ 9 มีนาคม 2567 พรรคก้าวไกล จัดประชุมสมาชิกสัมพันธ์และผู้สนับสนุนพรรค แลกเปลี่ยนพูดคุยนโยบายและการทำงานระดับท้องถิ่นใน จ.มุกดาหาร โดยมี ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สส.พรรคก้าวไกลและคณะทำงานด้านต่างๆ ร่วมวงแลกเปลี่ยนกับสมาชิกและผู้สนับสนุนที่เข้าร่วม


โดยช่วงหนึ่งของการพูดคุย มีผู้เข้าร่วมรายหนึ่งสอบถามกับหัวหน้าพรรคก้าวไกลถึงกระแสข่าวว่าจะมีการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งชัยธวัชได้ตอบคำถามนี้โดยระบุว่าตนไม่อยากให้ทุกคนเครียดและกังวล แน่นอนว่าเราต้องช่วยกันปกป้องพรรคอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น


แม้หลายคนอาจมีความเครียดและกังวล แต่ตนอยากให้ทุกคนมองย้อนไปเพียง 5 ปีของอนาคตใหม่-ก้าวไกล เราสร้างความเปลี่ยนแปลงมาไกลมากแล้ว ทำลายความเชื่อที่ว่าการเมืองแบบบก้าวไกลไม่มีทางชนะได้ลงไปโดยสิ้นเชิงแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่ากังวล สิ่งที่เราเผชิญหน้าอยู่นั้นเป็นเพราะเราสำเร็จมากเกินไปและเร็วเกินไปสำหรับพวกเขา เราไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าไปถามอาจารย์นิติศาสตร์ทั่วประเทศให้อ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแล้วทุกคนเกาหัวหมด ไม่รู้จะสอนหนังสือนักศึกษาอย่างไรแล้ว เอาหลักกฏหมายมาจับอธิบายไม่ได้


ชัยธวัชกล่าวต่อไป ว่าวันนี้เราต้องเผชิญคมหอกคมดาบ แน่นอนว่าหลายคนเหนื่อย เครียด กดดัน แต่ขอให้ดีใจ เพราะมันหมายความว่าเราต้องทำอะไรบางอย่างที่มีความสำคัญมากๆ มีนัยสำคัญจนกระทั่งเขาไม่อยากจะปล่อยเราไว้ ถ้าเราทำงานไปแล้ว 5 ปีไม่มีใครโจมตีเราเลย ตนคิดว่าล้มเหลว เพราะนั่นหมายความว่าเราไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ไม่ได้ทำอะไรที่สะกิดผิวเขาเลย จนเขารู้สึกว่ามีเราอยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไร


แต่เพราะเราทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิม การเมืองไทยและสังคมไทยกำลังเปลี่ยนไปอย่างมากและรวดเร็ว จนไปกระทบกับโครงสร้างอำนาจแบบเดิมที่เขาอยากรักษาไว้ เขาถึงต้องจัดการเราทุกวิถีทาง ต้องใช้องค์กรอิสระและกฎหมายทุกรูปแบบเพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงและรักษาพื้นที่ทางการเมืองแบบเก่าของกลุ่มอำนาจแบบเก่าเอาไว้ให้มากที่สุด ไม่ให้ถูกรุกและทำลายหรือถูกคุกคามโดยพลังทางการเมืองแบบใหม่ ความคิดแบบใหม่ของประชาชนที่ตื่นตัวขึ้นแล้ว ความเชื่อทางการเมืองแบบใหม่ที่ก้าวกระโดดจนไม่มีใครเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้


ชัยธวัชกล่าวต่อว่าการเมืองแบบเก่าทั้งหมดไม่ว่าจะขัดแย้งกันเองมานานแค่ไหน จึงมองพรรคก้าวไกลเป็นภัยคุกคามที่ต้องจัดการให้ได้ แต่ตนเชื่อว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกล อีกฝ่ายก็กังวลใจอยู่ว่าจะหยุดเราได้จริงหรือเปล่า เพราะสิ่งที่มันเกิดขึ้นไม่ใช่แค่ผู้บริหารพรรคแค่ 2-3 คน วันนี้การเติบโตของพรรคก้าวไกลไม่ได้เกิดขึ้นเพราะพิธาหรือชัยธวัช แต่เกิดเพราะทุกคน และมันจะเติบโตขึ้นไปอีก วันนี้มีคนเลือกเรา 14 ล้านคน แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ชอบเราและอยากเลือกเราแต่ไม่เคยคิดเลือกเรามาก่อน แต่วันนี้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าครั้งหน้าจะเลือกเราไม่รู้อีกกี่ล้านคน


“แน่นอนเราเจอหอกดาบขวากหนามเต็มไปหมด มันเกิดขึ้นเพราะเราสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญและมันไปคุกคามการเมืองแบบเก่าทั้งหมดที่ไม่อยากเปลี่ยนแปลง แต่มองไปข้างหน้าเรามีแต่ทิศทางความเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้อีกแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับพรรคก้าวไกล ขอให้เรามุ่งมั่นเดินหน้า ช่วยกันสร้างการเมืองแบบนี้ให้ลงหลักปักฐานมากยิ่งขึ้น ขอให้ช่วยกันทำพรรคการเมืองนั้นให้เป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากเห็นให้ได้และเติบโตไปด้วยกัน“ ชัยธวัชกล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล