สมรสเท่าเทียมเข้าสภาฯ
พุธนี้! “ครูธัญ” มั่นใจกฎหมายผ่านแน่
ชี้สังคมไทยมีหลายเรื่องต้องผลักดันเพื่อสร้างความเท่าเทียมทางเพศทุกมิติ
วันที่
25 มีนาคม 2567 ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ
พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง
พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (สมรสเท่าเทียม)
กล่าวถึงกรณีที่ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ วาระ 2-3
ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ว่า
เชื่อว่ากฎหมายผ่านสภาฯ แน่นอน ที่ผ่านมาการทำงานใน กมธ. เป็นไปด้วยดี เนื้อหาสาระในร่างที่
กมธ. ปรับแก้ไข สอดคล้องกับร่างของพรรคก้าวไกล เช่น การแก้ไขอายุขั้นต่ำในการสมรส
จากเดิม 17 เป็น 18 ปี
เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
หรือการให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ทันทีหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน
อย่างไรก็ตาม
ประเด็นหนึ่งที่ยังมีความเห็นต่างกันว่าควรแก้ไขในกฎหมายฉบับนี้หรือไม่
คือเรื่องที่ภาคประชาชนเสนอให้เพศใดก็ได้สามารถเป็น “บุพการีลำดับแรก”
มีสิทธิและหน้าที่เทียบเท่าบิดามารดา
พรรคก้าวไกลเห็นด้วยในหลักการที่จะให้เกิดการสร้างครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบของผู้มีความหลากหลายทางเพศ
เพียงแต่เห็นว่าเรื่องนี้ควรมีการแก้ไขในกฎหมายอื่นๆ เช่น พ.ร.บ.
คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 และกฎหมายอัตลักษณ์ทางเพศ
เพื่อให้บุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถเป็นบิดามารดาได้
และสามารถนิยามเพศของตนตามกฎหมายอัตลักษณ์ทางเพศได้ อย่างไรก็ดี
กฎหมายสมรสเท่าเทียมร่างนี้ให้สิทธิในการรับอุปการะบุตรบุญธรรมแล้ว
ธัญวัจน์กล่าวต่อว่า
เป็นทิศทางที่ดีที่สังคมทุกภาคส่วนให้การตอบรับกฎหมายสมรสเท่าเทียม
เสมือนประตูบานแรกที่เปิดไปสู่การสร้างความเท่าเทียมทางเพศในสังคมไทย
แต่เราต้องไม่ลืมว่ามีอีกหลายประเด็นความท้าทายที่ต้องขับเคลื่อนรณรงค์ เช่น
คำนำหน้านามตามความสมัครใจ เพื่อให้ทุกคนแสดงเจตจำนงเพศของตนเองได้
ซึ่งน่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้สภาฯ ปัดตกร่างของพรรคก้าวไกล
ดังนั้นสมรสเท่าเทียมเป็นก้าวที่สำคัญมาก แต่ยังมีอีกหลายก้าวต้องผลักดันต่อ
เพื่อสร้างความเท่าเทียมและความเสมอภาคทางเพศในสังคมไทยทุกมิติ
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #สมรสเท่าเทียม #ประชุมสภา