วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2567

สัปดาห์หนังสือ 2567 วันที่สามคึกคัก 'หมอเหวง' มาพร้อมหนังสือ“การขับเคลื่อนทวงความยุติธรรม 2553 - 2566 ” จาก นปช.ถึง คปช.53 พบปะนักอ่าน-แจกลายเซ็น บุธสุขภาพใจ คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเข้าพูดคุยซื้อเก็บเป็นหลักฐานประวัติศาสตร์

 


สัปดาห์หนังสือ 2567 วันที่สามคึกคัก 'หมอเหวง' มาพร้อมหนังสือ“การขับเคลื่อนทวงความยุติธรรม 2553 - 2566 ” จาก นปช.ถึง คปช.53 พบปะนักอ่าน-แจกลายเซ็น บุธสุขภาพใจ คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเข้าพูดคุยซื้อเก็บเป็นหลักฐานประวัติศาสตร์


ตามที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-7 สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) พร้อมด้วยพันธมิตรสำนักพิมพ์ ร่วมจัดงาน สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 22 ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม-8 เมษายน


โดยบรรยากาศในวันนี้ (30 มี.ค. 67) เวลา 16.40 น. ที่ฮอลล์ 6 บูธสุขภาพใจ J17 นพ.เหวง โตจิราการ ได้นำหนังสือ“การขับเคลื่อนทวงความยุติธรรม 2553 - 2566 ” จาก นปช.ถึง คปช.53 มาพบปะนักอ่าน พร้อมแจกลายเซ็น โดยได้ความสนใจจากประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เข้ามาซื้อและพูดคุยอย่างต่อเนื่อง


สำหรับหนังสือ “การขับเคลื่อนทวงความยุติธรรม 2553 - 2566 ” จาก นปช.ถึง คปช.53 สามารถซื้อได้ที่ Hall 6 บูธ สุขภาพใจ J17, บูธ ฟ้าเดียวกัน K02 และ บูธ อ่าน K27


นพ.เหวง ได้กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือสำคัญมากสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่เพราะได้บันทึกวีรชนประชาธิปไตยประชาชนทั้งหมด น่าจะไม่ต่ำกว่าเกือบ ๆ 90 รายหรือจะเรียกได้ว่า 90 ศพก็ได้ ทั้งยังมีรายละเอียดของการชันสูตรพลิกศพแล้ว มีการยื่นเรื่องให้ศาลเพื่อมีคำสั่งการตายจำนวนอย่างน้อย 20 ราย ยังเหลืออีก 62 ศพที่ยังไม่เข้าสู่การชันสูตรพลิกศพ จึงจำเป็นต้องพิมพ์เป็นหนังสือไว้


เนื่องจากดูแล้วคนที่เกี่ยวข้องคงจะประเมินเฉยอย่างเช่นรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งเขาพยายามอ้างว่าเขาเป็นตัวแทนคนเสื้อแดง คือใช้สีแดงมาเป็นโลโก้ แต่ดูท่าทางเขาจะไม่ให้เอาใจใส่ในกรณีของการทวงคืนความยุติธรรมให้กับคนเสื้อแดง


เหตุผลที่ต้องทำเรื่องนี้ เนื่องจากว่าประเทศไทยมีการสังหารประชาชน 2 มือเปล่ากลางถนนโดยทหาร จะเรียกได้ว่าทหารใช้อาวุธสงครามกองทัพและอาวุธสงครามโดยอำนาจของรัฐ สั่งให้กองทัพมาใช้อาวุธสงครามกับประชาชนที่มีความคิดเห็นต่าง เราจะหยุดเรื่องนี้ได้ก็ต่อเมื่อเราเอาทหารที่ฆ่าประชาชนสองมือเปล่ารวมทั้งคนสั่งทหารที่ฆ่าประชาชนสองมือเปล่ามารับโทษตามกฎหมายให้ได้ นั่นคือต้องคืนความยุติธรรมให้กับวีรชนประชาธิปไตย เมษา - พฤษภา ปี 53 ให้ได้ ไม่เช่นนั้นเมืองไทยก็จะเกิดเรื่องนี้ซ้ำซาก


ซ้ำซากก็คือจะการใช้อำนาจรัฐเผด็จการ ใช้ทหารและกองทัพสังหารประชาชนสองมือเปล่าด้วยอาวุธสงครามไปชั่วฟ้าดินสลาย แต่ถ้าตรงข้ามเราทำสำเร็จเหตุการณ์นี้ก็จะยุติโดยสิ้นเชิง


เพราะฉะนั้นหนังสือเล่มนี้จึงมีความสำคัญมากและกระบวนการในการทวงความยุติธรรมจึงมีความสำคัญมาก ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะสำเร็จหรือเปล่า แต่ก็มีมุ่งมั่นในการที่จะทำให้เกิดความสำเร็จให้ได้ ถ้าสำเร็จในชีวิตผมได้ผมก็จะมีความสุข ถ้าหากสำเร็จในช่วงชีวิตผมไม่ได้ ก็อยากจะฝากให้เยาวชนคนรุ่นหลังดำเนินการต่อไป ด้วยวิธีการวิธีการหนึ่ง


ถ้าหมดอายุความในประเทศไทยเราสามารถเดินทางไปเดินเรื่องที่ศาลอาญาระหว่างประเทศได้โดยรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศเฉพาะกรณีเมษา- พฤษภา ปี 53 ซึ่งเรื่องนี้สามารถทำได้ ไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันใด ๆ ทั้งสิ้นนะ


เพราะฉะนั้นพวกขวาจัด พวกอนุรักษ์นิยมจะมาใส่ร้ายป้ายสี หาว่าเกี่ยวข้องกับสถาบันเป็นเรื่องไม่จริงครับ เพราะว่ารับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศเฉพาะกรณีเมษา-พฤษภา 53 จะเกี่ยวข้องกับศอฉ.กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเท่านั้น 


ผมหวังว่าก่อนที่ผมจะสิ้นลมหายใจ ถ้าจะทวงความยุติธรรมให้กับวีรชนประชาธิปไตยได้ก็คือเอาทหารที่ฆ่าประชาชน สองมือเปล่า เอาคนสั่งทหารที่ฆ่าประชาชนสองมือเปล่า เอาพวกศอฉ.กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มารับโทษทางกฎหมายให้ได้ ต้องมีคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดและต้องไปดำเนินการแก้ไขกฎหมายให้ทหารที่ทำผิดอาญาต่อพลเรือนต้องขึ้นศาลพลเรือน แล้วก็ให้นักการเมืองที่กระทำผิดทางอาญาต่อพลเรือนต้องขึ้นศาลพลเรือนเลย รวมไปถึงการใช้รับรองรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เฉพาะกรณีในเหตุการณ์เมษา-พฤษภา ปี 53 ฝากอนุชนคนรุ่นหลัง ให้ทำเรื่องนี้ไปถึงที่สุดทวงความยุติธรรม ยุติธรรมให้คนเสื้อแดงให้ได้ แล้วก็หยุดทหารฆ่าประชาชนกลางเมืองให้ได้ หยุดอำนาจรัฐที่สั่งทหารฆ่าประชาชนที่มีความเห็นต่างให้ได้ ไม่งั้นมันจะซ้ำซากครับ นพ.เหวง กล่าว 


ทั้งนี้ พรุ่งนี้ (31 มี.ค. 67) นพ.เหวง ยังมาพบปะนักอ่านและแจกลายเซ็นที่บุธสุขภาพใจ J17 เวลา 15.00 น. มาพบกันได้ค่ะ 


 #UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คปช53 #นปช #คนเสื้อแดง #สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ