วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2567

‘รมว.ดีอี’ เข้มเดินหน้าปิดเว็บพนันออนไลน์ เผยตั้งแต่ ต.ค.66 - มี.ค.67 ปิดไปแล้ว 25,571 รายการ เพิ่มขึ้น 13 เท่าตัวจาก ปี 2566

 


‘รมว.ดีอี’ เข้มเดินหน้าปิดเว็บพนันออนไลน์ เผยตั้งแต่ ต.ค.66 - มี.ค.67 ปิดไปแล้ว 25,571 รายการ เพิ่มขึ้น 13 เท่าตัวจาก ปี 2566


วันที่ 22 มีนาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงกรณี ส.ส. เปิดชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกของระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติเกาหลีใต้ผ่านเว็บไซต์พนัน ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ขณะนี้ทางกระทรวงดีอีได้ทำการประสานงานแจ้งไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ISP ทำการระงับเว็บไซต์ดังกล่าวชั่วคราว ก่อนจะดำเนินการขอคำสั่งศาล เพื่อปิดเว็บไซต์เป็นการถาวร     


ทั้งนี้การดำเนินการปิดกั้นเว็บพนันออนไลน์ เป็นสิ่งที่กระทรวงดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงรอคำสั่งศาลโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 7 วัน ซึ่งเว็บพนันที่ยังพบเจออยู่นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ในกรณีของเว็บไซด์พนันออนไลน์แม้จะมีคำสั่งศาลให้ปิดแล้ว แต่ยังสามารถเข้าถึงได้อยู่จาก ISP บางราย จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ ISP ที่ยังไม่ปิดกั้นตามคำสั่งศาล เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


“ผมไม่ได้นิ่งนอนใจและเอาจริงเรื่องนี้ ได้มีการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเจาะข้อมูลและได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยปราบปรามเว็บพนันต่อเนื่อง เพื่อตัดวงจรอาชญากรรมออนไลน์ไม่ให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง และขอแจ้งเตือนไปยังเยาวชนอย่าเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเล่นการพนันออนไลน์ เพราะนอกจากอาจเสียทรัพย์แล้ว อาจถูกหลอกให้โหลดแอป ดูดเงินมาติดตั้งในเครื่อง” รมว.ดีอี กล่าว


ที่ผ่านมากระทรวงดีอี ให้ความสำคัญในการตรวจสอบ ระงับ ยับยั้ง และปิดกั้นเว็บพนันออนไลน์อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง โดยมุ่งระงับข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสม ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 - มีนาคม 2567 ทำการระงับข้อมูลที่ไม่เหมาะสมทุกประเภทไปแล้วจำนวน 60,681 รายการ โดยปิดกั้นเว็บไซต์เกี่ยวกับพนันออนไลน์ จำนวน 25,571 รายการ เพิ่มขึ้น 13 เท่าตัวจาก 2,059 เว็บ ในช่วงเวลาเดียวกันปี 2566


สำหรับความผิด พ.ร.บ.การพนัน มีดังนี้ ผู้จัดให้เล่น มีความผิดตามมาตรา 5 มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของ ผู้เล่นหรือประกาศชักชวน จะมีความผิดตามมาตรา 12 จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กระทรวงดีอี