วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567

จดหมายจากเรือนจำ 'อานนท์' เขียนถึงลูก พ่อกำลังฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษ มี 'เก็ท-โสภณ' เป็นพี่เลี้ยง หนังสือและประสบการณ์พาพ่อเดินทางมาถึงจุดที่อยากเปลี่ยนแปลง ทั้งน่ากลัวและตื่นเต้นว่าเราจะสร้างสังคมใหม่อย่างไร

 


จดหมายจากเรือนจำ 'อานนท์' เขียนถึงลูก พ่อกำลังฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษ มี 'เก็ท-โสภณ' เป็นพี่เลี้ยง หนังสือและประสบการณ์พาพ่อเดินทางมาถึงจุดที่อยากเปลี่ยนแปลง ทั้งน่ากลัวและตื่นเต้นว่าเราจะสร้างสังคมใหม่อย่างไร 


วันนี้ (13 มี.ค. 67) เฟสบุ๊ค อานนท์ นำภา โพสจดหมายจากเรือนจำพร้อมข้อความระบุว่า


“เรื่องขายหน้าเล็ก ๆ ในเช้านี้ของพ่อคือ การออกเสียงคำว่า ”Subaltern” ว่า Su-bal-tern แทนที่จะออกเสียง Sub-al-tern ซึ่งแปลว่า สถานะรอง ไม่เป็นไรความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็อยู่ที่นั่นแหละ 555+“


13 มีนาคม 2567 ถึงปราณและอิสรานนท์ ลูกรัก


ช่วงนี้พ่อพยายามฝึกภาษาอังกฤษผ่านการอ่านและออกเสียงโดยมีน้าเก็ทเป็นพี่เลี้ยง ในโต๊ะกินข้าวของพวกเรายังมีสมาชิกใหม่ ซึ่งเป็น trans gender ชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งนางใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับพวกเรา พ่อจึงได้ฝึกภาษาอังกฤษกับเพื่อนชาวต่างชาติไปในตัว สำเนียงภาษาอังกฤษของชาวฟิลิปปินส์อาจไม่เหมือนต้นฉบับเสียทีเดียวแต่ก็พอฟังรู้เรื่อง


เรื่องภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, จีน ฯลฯ หรือภาษาอื่น ๆ เป็นเรื่องที่สำคัญ พ่ออยากให้ลูกทั้งสองสื่อสารได้หลาย  ๆ ภาษา เพราะนอกจากการสื่อสารในชีวิตประจำวันแล้ว ”ภาษา“ จะเป็นประตูสู่โลกกว้างของลูกทั้งสอง พ่อไม่อยากให้ภาษาเป็นกำแพงขวางกั้นโลกทั้งใบเหมือนที่พ่อประสบอยู่ ก็จริงว่าด้วยอาชีพและสิ่งที่พ่อทำมักชักพาประสบการณ์ใหม่ ๆ และโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศ แต่การไม่ได้ภาษาก็ทำให้พ่อพลาดโอกาสในหลาย ๆ เรื่อง


โลกทุกวันนี้มันต่างออกไปจากโลกที่พ่อเคยอยู่ สังคมเก่าของพ่อถูกครอบด้วยกะลาใบใหญ่ การมองและความคิดที่ว่า เราเป็นประเทศที่ดีที่สุด เยี่ยมที่สุด ถูกทำลายลงเมื่อพ่อได้เรียนรู้และได้มองโลกทั้งใบ หนังสือและประสบการณ์พาพ่อเดินทางมาถึงจุดที่อยากเปลี่ยนแปลง มันน่ากลัวพอ ๆ กับน่าตื่นเต้นที่ได้รู้ว่าสังคมเก่าหลอกลวงเราไว้เพียงใดและเราจะสร้างสังคมใหม่อย่างไร พวกเธอทั้งสองจงเติบโตในโลกกว้างเถิดลูกรัก


อานนท์ นำภา 

แดน 4 พิเศษกรุงเทพ


สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นั้น ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


ต่อมา 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี


ด้าน "เก็ท-โสภณ" ที่ทนายอานนท์ระบุว่าเป็นพี่เลี้ยงในการสอนการออกเสียงภาษาอังกฤษนั้น"โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท" เป็นนักกิจกรรมโมกหลวงริมน้ำ ถูกคุมขังในเรือนจำตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2566 หลังถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 3 ปี 6 เดือน คดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.เครื่องเสียง จากกรณีปราศรัยในกิจกรรม 'ทัวร์มูล่าผัว' ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เมื่อเมษายน 2565 ก่อนที่ต่อมาศาลปฏิเสธคำร้องขอประกันตัวของเก็ท 


ทำให้ระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ เก็ทได้ประกาศเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2566 ขอถอนประกันตัว และปฏิเสธอำนาจศาล โดยเขามี 2 ข้อเรียกร้องว่าคืนสิทธิประกันตัวให้กับผู้ถูกกล่าวหาทางการเมืองทุกคน และต้องยุติการใช้มาตรา 112 หรือหมิ่นประมาทกษัตริย์กับประชาชน


อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 เก็ท ถูกพิพากษาจำคุก 3 ปีและถูกปรับ 200 บาท จากข้อหามาตรา 112 และ พ.ร.บ.เครื่องเสียง กรณีปราศรัยกิจกรรม "ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก" เมื่อ 6 เมษายน 2564 ทำให้เก็ท ถูกจำคุกรวมกับของเดิมเป็น 6 ปี 6 เดือน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อานนท์นำภา