“พริษฐ์” เผย 4 ข้อกังวลต่อกระบวนการคัดเลือก สว.ชุดใหม่ ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560
วานนี้ (23 มี.ค. 67) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล และประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กถึงการร่วมงานเสวนา Sol Bar Talk ในหัวข้อ “สว. ชุดใหม่ มาจากไหน?” ร่วมกับ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการ iLaw ว่า
แม้เจตนาของกฎหมายไม่ต้องการให้พรรคการเมืองเข้าไปมีส่วนในการสนับสนุนผู้สมัครคนใดหรือกลุ่มใด แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งและในฐานะสมาชิก กมธ. พัฒนาการเมืองฯ ผมได้แชร์ 4 ข้อสังเกตหรือข้อกังวลที่ผมมีเกี่ยวกับกระบวนการคัดเลือก สว. ชุดใหม่แบบ “แบ่งกลุ่มอาชีพ-สังคม เลือกกันเอง” ซึ่งจะเริ่มต้นในช่วงเดือน พ.ค. ที่จะถึงนี้
1. วุฒิสภาชุดใหม่ยังคงมีโครงสร้างอำนาจ-ที่มา ที่ขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย
- ปัจจัยสำคัญที่ทำให้วุฒิสภาใดๆมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย คือความสอดคล้องกันระหว่างอำนาจที่ สว. มี และที่มาหรือกระบวนการได้มาซึ่ง สว. ดังกล่าว
- แม้ สว. ชุดใหม่ จะมีโครงสร้างอำนาจ-ที่มา ที่มีความชอบธรรมมากขึ้นกว่า สว. 250 คนชุดปัจจุบัน (ที่มีอำนาจถึล้นฟ้างขั้นเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ถูกคัดเลือกโดย คสช. ทั้งหมด) แต่ สว. ชุดใหม่ ยังนับว่าเป็นวุฒิสภาที่มีอำนาจสูง (เช่น อำนาจยับยั้งการแก้รัฐธรรมนูญ อำนาจการรับรองตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ) เมื่อเทียบกับที่มา ที่ยังไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน แต่มาจากการคัดเลือกกันเองในบรรดาผู้สมัคร
2. กระบวนการคัดเลือก สว. ไม่สอดรับกับเป้าหมายในการได้มาซึ่ง สว. ที่มีความเชี่ยวชาญหรือเป็นที่ยอมรับในแต่ละสาขาอาชีพ
- แม้ผู้คิดค้นกติกาคัดเลือก สว. มักอ้างถึง “เป้าหมาย” ในการได้มาซึ่ง สว. ที่เป็นที่ยอมรับในแต่ละสาขาอาชีพ แต่ “กระบวนการ” ที่ถูกออกแบบมา มีหลายส่วนที่ไม่น่าจะนำไปสู่ “เป้าหมาย” ดังกล่าวได้ เช่น
(2.1) ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาอาชีพ มักมีแนวโน้มจะเป็นคนที่เป็นที่ยอมรับจากคนในสาขาดังกล่าวทั่วประเทศ แต่กระบวนการคัดเลือก สว. ปัจจุบัน ออกแบบให้ผู้สมัครทุกคนต้องเริ่มจากการแข่งขันกันในระดับอำเภอ ซึ่งอาจทำให้คนที่ได้เปรียบในการคัดเลือกระดับอำเภอ กลับไม่ใช่คนที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้างจากคนในแวดวงดังกล่าว แต่เป็นคนที่มีเครือข่ายหรืออิทธิพลเฉพาะพื้นที่
(2.2) ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาอาชีพ อาจเป็นคนที่เป็นที่รับรู้และยอมรับกันโดยคนในสาขาอาชีพของตนเองเป็นหลัก แต่กระบวนการคัดเลือก สว. ปัจจุบัน มีขั้นตอนของการ “เลือกไขว้” ซึ่งทำให้ผู้สมัครที่จะได้รับคัดเลือก ต้องพึ่งคะแนนหรือความไว้วางใจจากผู้สมัครในสาขาชีพอื่น ที่อาจไม่รู้ข้อมูลดังกล่าว
3. กระบวนการคัดเลือก สว. เสี่ยงต่อการ “บล็อกโหวตจัดตั้ง” (Inorganic Block Vote)
- แทนที่จะเกิดการแข่งขันกันโดยธรรมชาติระหว่างผู้สมัครแต่ละคน กติกาปัจจุบันเอื้อต่อการทำให้ผู้สมัคร สว. บางคน มีความพยายามจัดตั้งเครือข่ายของตนเองสมัครเข้ามาเป็นผู้สมัครเป็นจำนวนมากและกระจายไปในทุกกลุ่มอาชีพและทุกอำเภอ-จังหวัดเพื่อให้มาร่วมกันเลือกตนเองไปเป็น สว.
- นอกจากจะป้องกันได้ยากในเชิงปฏิบัติ แต่ผู้ออกแบบกติกา ต้องรับรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าปรากฎการณ์ดังกล่าว (ที่มีคนมาสมัครเป็น สว. โดยไม่ได้หวังเป็น สว. เอง แต่เพื่อมาเลือกผู้สมัครคนอื่นเป็น สว.) จะเกิดขึ้น เพราะหากทุกคนที่สมัครเป็น สว. สมัครเพราะอยากเป็น สว. เอง จริงๆ ผู้สมัครทุกคนภายใต้กติกาปัจจุบันก็จะมีแรงจูงใจในการใช้ยุทธศาสตร์ “เลือกแค่ตัวเอง” (โดยไม่เลือกผู้สมัครคนอื่น และลดโอกาสที่ตนเองจะแพ้) ซึ่งจะทำให้ผู้สมัครทุกคนได้คะแนนเท่ากันที่ 1 คะแนน
4. กระบวนการคัดเลือก สว. ยังมีความซับซ้อนและความไม่ชัดเจนในเชิงปฏิบัติหลายด้าน
-ระเบียบ สว. ล่าสุด ที่ออกมา ยังไม่สามารถไขข้อสงสัยหรือให้ควาชัดเจนเกี่ยวกับกระบวนการที่จะเกิดขึ้น (ซึ่งมีความซับซ้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) ได้ทั้งหมด เช่น
1. กกต. จะตรวจสอบคุณสมบัติ (ว่าผู้สมัครมีประสบการณ์ 10 ปีในด้านที่ตนเองสมัคร) โดยใช้เกณฑ์อะไร และจะพิจารณาใบสมัครและข้อโต้แย้งทั้งหมดเรื่องคุณสมบัติทันตามกรอบเวลาหรือไม่ (ในเมื่อผู้สมัครอาจมีเป็นหลักแสน และมีระยะเวลาพิจารณาไม่กี่สัปดาห์)
2. กกต. จะออกระเบียบหรือประกาศที่เกี่ยวข้องการแนะนำตัวหรือรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครเมื่อไหร่ และระเบียบหรือประกาศดังกล่าว จะเอื้อต่อการให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัครได้มากแค่ไหน?
3. กกต. จะอนุญาตให้มีผู้สังเกตการณ์อิสระจากภาคประชาชน ไปร่วมสังเกตการณ์และตรวจสอบกระบวนการคัดเลือก ณ สถานที่ หรือไม่ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส?
4. กกต. จะวางกรอบเวลาในการประกาศผลอย่างไร (ยิ่งหากมีข้อร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก) เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่การประกาศผลถูกยืดเวลาออกไปยาวนานจนเปิดช่องให้ สว. 250 คน ชุดปัจจุบัน รักษาการหรือปฏิบัติหน้าที่แทนต่อไปเรื่อย ๆ จนไม่มีกำหนด?
ทั้งนี้นายพริษฐ์ ยังระบุด้วยว่า ทาง กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ได้มีการเชิญ กกต. มาให้ข้อมูลและหารือแนวทางแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมในการประชุมวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคมนี้ หลังจากที่ กกต. ให้เหตุผลว่าติดภารกิจ และไม่ส่งตัวแทนมาชี้แจงในการประชุมวันพฤหัสบดีที่แล้ว
ติดตามเสวนา สว.ชุดใหม่มาจากไหน ? ได้ที่ https://www.youtube.com/live/NmA7VWYDEpw?si=XdDcCiHl6fLrYGc7