วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

พา “บุ้ง เนติพร“ มาสอบปากคำเพิ่มเติม คดีพ่นสีกระทรวงวัฒนธรรม ด้านนักกิจกรรม เผย พนักงงานสอบสวน ไม่สั่งฟ้อง บุ้ง เพราะเสียชีวิตไปแล้ว

 


พา “บุ้ง เนติพร“ มาสอบปากคำเพิ่มเติม คดีพ่นสีกระทรวงวัฒนธรรม ด้านนักกิจกรรม เผย พนักงงานสอบสวน ไม่สั่งฟ้อง บุ้ง เพราะเสียชีวิตไปแล้ว


เมื่อวันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2567 เวลส 13.00 น. ที่ สน.ห้วยขวาง พา "บุ้ง เนติพร"ไปสอบปากคำเพิ่มเติม คดี ”พกสี พกหน้ากาก ไปกระชากกวีซีไรต์ สวะแห่งชาติ! เรียกร้องถอดถอนศิลปินแห่งชาติ สว. เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ที่หน้ากระทรวงวัฒนธรรม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินในคดีนี้ได้นำรูปภาพของนางสาวนิติพรเดินทางเข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย โดยทางพนักงานสอบสวน สน. ห้วยขวาง ได้เปิดเผยกับกลุ่มนักกิจกรรมว่า จะสั่งฟ้องนางสาวเนิติพรเพราะว่าเสียชีวิตแล้ว


เมื่อมีการสอบปากคำเสร็จ นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ นายสิทธิชัย ปราศรัย และอธีรภัทร ประดับแก้ว ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าวันนี้พนักงานสอบสวนได้นัดพวกตนเองสอบปากคำเพิ่มเติมในคดีที่ไปจัดกิจกรรมหน้ากระทรวงวัฒนธรรม วันนี้จึงนำ บุ้ง เนติพร มาสอบปากคำด้วย 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในคดีคดีนี้ มีนักกิจกรรมจำนวน 15 คน นำโดย ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ถูกดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง ในคดีที่มีกระทรวงวัฒนธรรม มอบอำนาจให้นางสาวอัญชลี ทำนุรัฐ กับพวก เป็นผู้กล่าวหา จากเหตุกิจกรรมที่หน้ากระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2566 เพื่อเรียกร้องให้ถอดถอน เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกวุฒิสภา ออกจากตำแหน่ง ‘ศิลปินแห่งชาติ’ นอจากนั้นยังมี ได้แก่ ‘เอียร์’ เด็กวัย 14 ปี ถูกดำเนินคดีด้วย โดยเข้ารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมที่ปรึกษากฎหมายและผู้ปกครอง ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาต่อทั้งหมด โดยกล่าวหาว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นการชุมนุม ซึ่งไม่ได้มีการขออนุญาตชุมนุมสาธารณะ พร้อมมีการระบุรายละเอียดของพฤติการณ์ของผู้ต้องหาแต่ละคน อาทิ การปีนข้ามรั้วเข้าไปภายในกระทรวงวัฒนธรรม, การเทสาดสีใส่ป้าย, การจุดพลุควันสี และพลุดอกไม้, การพ่นสีสเปรย์บนพื้นถนน, การโปรยกระดาษข้อความ โดยผู้ต้องหาบางรายก็ถูกระบุว่าเป็นแกนนำผู้ชุมนุม แต่ไม่ได้มีพฤติการณ์ใด ๆ ดังกล่าว ทางกระทรวงวัฒนธรรมประเมินความเสียหายในส่วนต่าง ๆ รวมทั้งหมดเป็นเงิน 64,000 บาท 


ตำรวจได้แจ้งข้อหาทั้งหมด 5 ข้อกล่าวหาต่อทั้งหมด แม้จะมีพฤติการณ์ไม่เหมือนกัน ได้แก่ 


1. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 “มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กําลังประทุษร้าย ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ”

2. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 ร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้น ไปบุกรุกอาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสํานักงานในความครอบครองของผู้อื่น, 

3. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ร่วมกันทําให้ทรัพย์สาธารณะเสียหาย-เสื่อมค่า 

4. พ.ร.บ.ความสะอาดฯ มาตรา 12 ร่วมกันขีด เขียน พ่นสี ซึ่งข้อความ หรือรูปรอยใดๆ บนถนน หรืออยู่ในที่สาธารณะ

5. พ.ร.บ.ชุนนุมสาธารณะฯ ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะ ไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #บุ้งเนติพร #บุ้งทะลุวัง #ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม