วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้รอลงอาญา ปรับ 2 หมื่น "สนธิญาณ" คดี กปปส.ขวางเลือกตั้ง ส่วน สกลธี-สมบัติ-ดร.เสรียกฟ้อง

 


ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้รอลงอาญา ปรับ 2 หมื่น "สนธิญาณ" คดี กปปส.ขวางเลือกตั้ง ส่วน สกลธี-สมบัติ-ดร.เสรียกฟ้อง


วันที่ 28 พฤษภาคม 2567 เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ ห้องพิจารณา 607 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีกบฎ กปปส.สำนวนแรก หมายเลขดำ อ.1191/2557, อ.1298/2557, อ.1328/2557 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 62 ปี ผู้บริหารท็อปนิวส์, นายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 47 ปี อดีต ส.ส.กทม.ร่วมชุมนุม, นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อายุ 73ปี อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง (สปช.) และ นายเสรี วงศ์มณฑา อายุ 75 ปี นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด


เป็นจำเลยที่ 1- 4 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ, เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก, ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล, ร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 117, 209, 210, 215, 362, 364, 365 และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มา ซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 76, 152 รวม 8 ข้อหา


โดยคดีสำนวนแรกนี้ อัยการยื่นฟ้อง ตั้งแต่ปี 2557 กรณีสืบเนื่องจากการร่วมชุมนุมกันของ กปปส. ที่มีนายสุเทพ เป็นผู้นำการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 2556 – 1 พ.ค. 2557 ซึ่งมีการพาผู้ชุมนุมบุกรุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ยังได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของจำเลยด้วยมีกำหนด 5 ปี ขณะที่จำเลยทั้ง 4 รายให้การปฏิเสธทุกข้อหาพร้อมตั้งทนายความสู้คดี ระหว่างพิจารณาคดีจำเลยทั้งสี่ก็ได้รับการปล่อยชั่วคราว ซึ่งคดีเริ่มสืบพยานตั้งแต่ปี 2558-2562


คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2562


ศาลอุทธรณ์พิพากษาเเก้เป็นว่า นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 59 ปี ได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.เเละ สว. กรณีร่วมกับนายสำราญ รอดเพชร ขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ โรงเรียนสุโขทัย เขตดุสิต ให้จำคุก 1 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณารถโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 8 เดือน ไม่รอลงอาญา รวมถึงมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี ส่วนจำเลยที 2-4 โจทก์ไม่ได้ร่วมนำสืบว่าได้ร่วมพยานหลักฐานไปขัดขวางการเลือกตั้ง อีกทั้งไม่ปรากฎพยานหลักฐานว่าจำเลยที่ 2-4 ไม่ได้ร่วมขัดขวางการเลือกตั้ง ส่วนอุทธรณ์โจทก์ข้ออื่นไม่เป็นสาระสำคัญ ที่เเก้เฉพาะจำเลยที่ 1 นอกนั้นให้เป็นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

 

ต่อมาอัยการโจทก์และจำเลยที่ 1ยื่นฎีกา


ช่วงเช้าวันนี้จำเลยทั้ง 4 เดินทางมาศาลโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขากปปส.และบุคคลใกล้ชิดมาให้กำลังใจ


โดยวันนี้ศาลไม่รับวินิจฉัยฎีกาอัยการ เนื่องจากไม่มีประเด็นโต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้รับวินิจฉัยฎีกาเฉพาะในส่วนของนายสนธิญาณ จำเลยที่ 1


ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาแล้ว เห็นว่าการกระทำของนายสนธิญาณ จำเลยที่ 1 ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เป็นการกระทำเพื่อส่วนรวม ไม่ได้เกิดความเสียหายมาก อีกทั้งจำเลยที่ 1 ไม่เคยได้รับโทษมาก่อน ประกอบกับจำเลยที่ 1 ประกอบอาชีพสื่อมวลชน เห็นควรให้ประกอบอาชีพไปรับใช้สังคม การลงโทษจำคุกระยะสั้นไม่เกิดประโยชน์ เเต่เพื่อให้หลาบจำ เห็นควรรอลงอาญา 2 ปี ปรับ 2 หมื่น


นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กปปส #ขวางเลือกตั้ง