วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ปิดนิทรรศการ “วิสามัญ ยุติธรรม” 10 ปี ศูนย์ทนายฯ “ธงชัย” ปาฐกถา “นิติรัฐอภิสิทธิ์ และราชนิติธรรม ทำงานอย่างไรในระบบกฎหมายไทย” ชี้ กระบวนการยุติธรรมไทยบิดเบี้ยวตั้งแต่รากฐาน และTruth Talk โดย ทนายด่าง-บก.ลายจุด-ไผ่-รุ้ง

 


ปิดนิทรรศการ “วิสามัญ ยุติธรรม” 10 ปี ศูนย์ทนายฯธงชัย” ปาฐกถา “นิติรัฐอภิสิทธิ์ และราชนิติธรรม ทำงานอย่างไรในระบบกฎหมายไทย” ชี้ กระบวนการยุติธรรมไทยบิดเบี้ยวตั้งแต่รากฐาน และTruth Talk โดย ทนายด่าง-บก.ลายจุด-ไผ่-รุ้ง

 

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2567 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กับ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จัดงานปิดนิทรรศการ “วิสามัญ ยุติธรรม” โดยบรรยากาศภายในงานมีการชวนประชาชนพูดคุย TRUTH TALK นำโดย เยาวลักษ์ อนุพันธุ์, กฤษฎางค์ นุตจรัส, สมบัติ บุญงามอนงค์, ปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์, ไผ่ จตุภัททร์และรุ้ง ปนัสยา และมีการปาฐกถา ในหัวข้อ "นิติรัฐอภิสิทธิ์ และราชนิติธรรม ทำงานอย่างไรในระบบกฎหมายไทย" โดย ธงชัย วินิจจะกูล และปาฐกถา ในหัวข้อ "ทะลวงกรอบทลายกรงรัฐความมั่นคงแบบไทย" โดย พวงทอง ภวัครพันธุ์

 

ด้าน เยาวลักษ์ อนุพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้กล่าวนำก่อนการกล่าวปาฐกกถา และ Truth Talk ในงานนี้ มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนดำรงอยู่เป็นระยะเวลาถึง 10 ปีเต็ม หากย้อนกลับไปในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เรายังมองไม่ออกว่า สังคมไทยจำเป็นต้องอยู่กับระบอบประยุทธ์อย่างยาวนาน โดยมีรัฐธรรมนูญ 2560 ช่วยให้เผด็จการสืบทอดอำนาจบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชนมาจนถึงปัจจุบัน … อนาคต เวลา ทรัพย์สิน ความสัมพันธ์ จิตใจ และชีวิตของผู้คนซึ่งสูญเสียไปตลอดระยะเวลา 10 ปี ควรได้รับการเยียวยา ผลพวงจากการรัฐประหารของ คสช. ควรได้รับการสะสาง และสถาบันยุติธรรมควรได้รับการปฏิรูปเช่นเดียวกัน แม้ว่ามีความสูญเสียเกิดขึ้นจำนวนมาก แต่ความหวังพื้นฐานที่สุดของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมระยะยาว คือ ประชาชนที่ตระหนักรู้ในคุณค่าของสิทธิเสรีภาพได้ค่อย ๆ ผลิบาน และขยายวงกว้างมากขึ้นแล้ว

 

เยาวลักษ์ อนุพันธุ์ กล่าวต่อว่า งานของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนไม่อาจเกิดขึ้นได้หากไม่มีการสนับสนุนของประชาชนและจิตใจที่มุ่งมั่นของคนทำงาน ขอขอบคุณประชาชนคนธรรมดาที่ร่วมต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และสนับสนุนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ อดีตเจ้าหน้าที่ ทนายความเครือข่าย ผู้ช่วยทนายความ อาสาสมัคร กองทุนราษฎรประสงค์ กองทุนในนามความสงบเรียบร้อย และอีกหลายท่านที่ไม่อาจเอ่ยนามได้หมดในที่นี้

 

ภารกิจในการก่อร่างสร้างนิติรัฐของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังคงก้าวเดินต่อไปในปีที่ 11 เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยได้ลงหลักปักฐานในสังคมไทย จนกว่ารุ่งอรุณจะมาถึง” เยาวลักษ์ อนุพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวทิ้งท้าย

 

ด้านศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ธงชัย วินิจจะกูล กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “นิติรัฐอภิสิทธิ์ และราชนิติธรรม ทำงานอย่างไรในระบบกฎหมายไทย” ตอนหนึ่งว่า ประเด็นใหญ่ที่จะเสนอในวันนี้ หากกล่าวโดยสรุป คือ ศูนย์ทนายฯ เกิดขึ้นและกำลังต่อสู้กับ ‘ความถดถอย’ ที่มีลักษณะเฉพาะในประวัติศาสตร์ระบบกฎหมายไทย ไม่ใช่เพราะความอ่อนแอไร้ความสามารถของผู้บังคับใช้กฎหมาย ไม่ใช่เพราะใบสั่ง (ถ้ามี) แต่เป็นเพราะการผนึกกำลังกันจนเข้มแข็งของนิติศาสตร์อำนาจนิยม 2 กระแสที่กำลังพยายามสถาปนานิติศาสตร์ ‘อปกติ’ ให้กลายเป็นปกติในสังคมไทย

 

วันนี้ขอย้ำว่า “ราชนิติธรรม” ของไทยในปัจจุบันเป็นนิติศาสตร์แบบหนึ่งของ “นิติรัฐอภิสิทธิ์” ประการสำคัญที่อยากให้ทุกคนตระหนักในวันนี้ คือ ธงชัยคิดว่ากำลังมีความพยายามอย่างแข็งขันที่จะเปลี่ยนระบบกฎหมายของไทย ทำให้ราชนิติธรรมลงหลักปักฐานตั้งมั่นอย่างมั่นคง ทั้ง ๆ ที่ขัดกับหลักกฎหมายตามบรรทัดฐานในหลายลักษณะ คำตัดสินของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นก้าวสำคัญของความพยายามสถาปนานิติศาสตร์ที่ผิดปกติดังกล่าว

 

ธงชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ศูนย์ทนายฯ เกิดขึ้นเพื่อพยายามต่อสู้กับความถดถอยที่มีลักษณะเฉพาะทางประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เพราะความอ่อนแอไร้ความสามารถของผู้บังคับใช้กฎหมายหรือของระบบ แต่เป็นเพราะการผนึกกำลังกันจนเข้มแข็งของนิติศาสตร์อำนาจนิยมแบบไทย ๆ ที่กำลังพยายามสถาปนานิติศาสตร์อปกติให้กลายเป็นปกติในสังคมไทยต่างหาก เรากำลังต่อสู้เพื่อแก้ไขระบบกฎหมายไทย และนิติศาสตร์ของไทยที่ผิดพลาดระดับรากฐานมาแต่ต้น ภารกิจสำคัญที่สุดคือเอาหัวใจของ Rule of Law ใส่กลับไปในกฎหมาย ซึ่งหมายถึงยุติสภาวะยกเว้นทางกฎหมาย

 

จากนั้นเป็นช่วง TRUTH TALK นำโดย กฤษฎางค์ นุตจรัส, สมบัติ บุญงามอนงค์, ปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์, ไผ่ จตุภัทธ์ และรุ้ง ปนัสยา

 

ต่อด้วยปาฐกาถา ในหัวข้อ "ทะลวงกรอบทลายกรงรัฐความมั่นคงแบบไทย" โดย พวงทอง ภวัครพันธุ์

 

ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการชมมินิคอนเสิร์ตจากวง วงสามัญชน ft.ทนายแจม และ มายด์ ภัสราวลี

 

ทั้งนี้เมื่องานของศูนย์ทนายความฯ เสร็จสิ้นแล้ว ประชาชนส่วนหนึ่ง นำโดย นางนภัสสร บุญรีย์ หรือ ป้านก ที่เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ได้เดินไปที่สกายวอล์คแยกปทุมวันเพื่อทำกิจกรรมยืนหยุดขัง เรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับผู้ต้องหาทางการเมือง เป็นเวลา 1.12 ชม.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #10ปีรัฐประหาร57 #10ปีศูนย์ทนายฯ #วิสามัญยุติธรรม