วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

นพ.เหวง โตจิราการ : ดวงวิญญาณวีรชนยังรายล้อมตนอยู่ ปฏิญาณจักติดตามทวงถามความยุติธรรมไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่! #14ปีเมษาพฤษภา53

 


นพ.เหวง โตจิราการ : ดวงวิญญาณวีรชนยังรายล้อมตนอยู่ ปฏิญาณจักติดตามทวงถามความยุติธรรมไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่!


ในงานรำลึก #14ปีเมษาพฤษภา53

19 พฤษภาคม 2567 ณ ราชประสงค์


ผมขออนุญาตมีอุปกรณ์เล็กน้อยก็คือ โปรดสังเกตนะครับว่ามีรูป “เนติพร เสน่ห์สังคม” ขึ้นมา ผมมีอะไรบางอย่างที่จะส่งถึง “เนติพร” แม้ว่าเธอจะไปสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้าแล้วก็ตาม

 

แล้วอีกประการหนึ่งก็คือว่า วันนี้ผมมีเวลาสั้นมากในการที่จะพูดกับท่านทั้งหลาย ผมก็จะพยายามจะรักษาเวลาให้สั้นที่สุด ผมอยากจะใช้เวลาที่สั้น ๆ นี้ โดยใช้ “แนวทางมวลชน” ครับ หมายความว่าผมอยากจะมีส่วนร่วมจากทุกท่านในเวทีแห่งนี้ที่เห็นด้วยกับผม พร้อมที่จะร่วมกับผมมั้ยครับ

 

พี่น้องครับ ผมจำเป็นต้องสวัสดีตามธรรมเนียมของคนไทย ผมขออนุญาตเริ่มต้นด้วยการสวัสดีพี่น้องผู้รักประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการยึดอำนาจทั้งหลาย แต่ก่อนที่ผมจะปราศรัยในเนื้อหา ผมขออนุญาตนะครับพี่น้องครับ ผมขอเริ่มต้นด้วยการแสดงความคารวะดวงวิญญาณของ “บุ้ง เนติพร” ผมถือว่าเป็นวีรสตรีประชาชนประชาธิปไตยหญิงของคนไทย ผู้กล้าพลีชีพอุทิศตนให้กับการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของประเทศ ปรบมือด้วยครับ

 

วันนี้ นี่แหละที่ผมเรียนว่าเป็นแนวทางมวลชนจะมี 2 จังหวะนะครับที่ผมจะขอความกรุณาจากเพื่อนของผมทุกคนที่ต่อต้านเผด็จการ ที่รักประชาธิปไตย ที่ท่านเห็นด้วยกับผม มาร่วมกับผมด้วยครับ ตอนนี้ผมขอเชิญพี่น้องทุกท่านประสานมือไว้ที่หน้าอก ประนมมือเพื่ออธิษฐานจิตขอให้ดวงวิญญาณของ “บุ้ง เนติพร” จงสู่สุคติในสัมปรายภพด้วยเทอญ ขอให้เธอจงสถิตในสรวงสวรรค์ชั้นฟ้าอันงดงามบรรเจิดวิไลที่เป็นประชาธิปไตยและมีความยุติธรรมด้วยเถิด ขอบคุณมากครับ นี่คือจังหวัดที่ 1 นะครับ ผมกราบเรียนแล้วว่าผมเดินแนวทางมวลชน แต่ผมอยากจะกราบเรียนเฉพาะท่านที่เห็นด้วยกับผม เพราะผมไม่ประสงค์ที่จะไปบังคับจิตใจผู้ใด

 

ต่อมาพี่น้องครับ ผมขออนุญาต คือจะให้ผมพูดสั้นแค่ไหนก็ตาม แต่ตัดเรื่องที่ผมจะพูดต่อไปนี้ออกไปไม่ได้เด็ดขาดครับ พี่น้องครับ คือผมมาวันนี้ผมถือว่าผมอยู่ในชุมชน อยู่ในสมาคมของ วีรชนเมษาพฤษภาปี 53 ดวงวิญญาณของพี่น้องของผมที่เป็นวีรชนยังรายล้อมผมอยู่ ยังรายล้อมพวกท่านทั้งหลายอยู่ ใช่ไหมครับ? ดังนั้นพี่น้องครับ ผมจะเริ่มอย่างนี้ครับ การปราศรัยของผมซึ่งสั้น ผมจับเวลาแล้ว ผมฝึกจับเวลามาประมาณ 20 ครั้งครับ เวลามันจะไม่เกิน 4 นาที แต่ว่าตอนนี้มันมีการเพิ่มเติมสีสันก็อาจจะเป็นประมาณ 5 นาที

 

ผมขออนุญาตเริ่มต้นอย่างนี้ครับ ผมเริ่มต้นด้วยการขอปฏิญาณตนต่อหน้าดวงวิญญาณเมษาพฤษภา53 2 ประการครับ ประการที่ 1 ข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะสืบทอดอุดมการณ์ของวีรชนเมษาพฤษภา53 ในการต่อต้านเผด็จการ สร้างสรรค์ประชาธิปไตย ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ข้าพเจ้าจะไม่ข้ามขั้ว ไม่ไปผสมพันธุ์ ไม่ไปสังฆกรรมกับพวกเผด็จการยึดอำนาจรัฐประหารเป็นอันขาด นี่คือข้อที่ 1 ท่านฟังให้ดีนะครับ แล้วเดี๋ยวตอนช่วงที่ผมอยากจะขอความกรุณาเข้าร่วม ให้ท่านตัดสินใจด้วยตัวท่านเอง ไม่จำเป็นต้องมาทำตามผมนะครับ ถ้าท่านเห็นด้วยก็ทำ ไม่เห็นด้วยไม่ต้องทำครับ

 

ประการที่ 2 ที่ผมอยากจะปฏิญาณต่อชุมชนวีรชนเมษาพฤษภา ปี 53 ที่รายรอบผมและรายรอบพี่น้องทั้งหมดก็คือ วีรชนครับ ข้าพเจ้าจะติดตามทวงถามความยุติธรรมให้กับวีรชนเมษาพฤษภา53 ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และจะมอบภารกิจให้กับคนรุ่นต่อไปถ้าผมตายไปแล้ว

 

คราวนี้แหละ พี่น้องครับ ผมอยากจะเชิญพี่น้องทุกท่านที่เห็นด้วยกับผม กรุณายืนขึ้น แล้วผมจะกราบเรียนพี่น้องมากล่าวปฏิญาณแทนผม ท่านที่ยืนไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ ผมอยากจะให้พี่น้องที่เห็นด้วยกับผมนะครับ ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรครับ กล่าวปฏิญาณพร้อมกับผมนะครับ พูดตามผมช้า ๆ

 

1. ข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจักสืบทอดอุดมการณ์ของวีรชน เมษาพฤษภา53 ในการต่อต้านเผด็จการ สร้างสรรค์ประชาธิปไตย ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ข้าพเจ้าจะไม่ข้ามขั้ว ไม่ไปผสมพันธุ์ ไม่สังฆกรรมกับพวกเผด็จการยึดอำนาจรัฐประหารเป็นอันขาด

 

2. ข้าพเจ้าจักติดตามทวงถามความยุติธรรมให้กับวีรชนเมษาพฤษภา53 ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และมอบภารกิจให้กับคนรุ่นต่อไปเมื่อข้าพเจ้าสิ้นชีวิตไปแล้ว

 

ขอบคุณมากครับ พี่น้องครับ ผมจะเติมนิดเดียวเท่านั้นเอง คืออย่างนี้ ผมเป็นคนเล็งผลเลิศในการต่อสู้ ผมหวังว่าสิ่งที่เราต้องการจะสัมฤทธิผล ดังนั้นผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งเพราะเรื่องต่อไปนี้ที่ผมจะพูดเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดเลยถ้าตั้งใจจะทำ พี่น้องครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะทำเรื่อง 2 เรื่องง่าย ๆ ที่ผมจะพูดต่อไปนี้ให้สำเร็จ เพื่อให้รัฐบาลจะได้คะแนนเสียงถล่มทลายในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจากผู้รักประชาธิปไตยทั้งประเทศ 2 ประการมีอะไรครับ

 

1) ผมต้องการให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการชันสูตรพลิกศพ มันอยากอะไร ตั้งคณะกรรมการชันสูตรพลิกศพ แค่เซ็น ตึ้ง ๆ ๆ จบ! ตั้งคณะกรรมการชันสูตรพลิกศพ 62 ศพของวีรชนเมษาพฤษภา ที่ยังคงถูกทอดทิ้งครับ ไม่มีใครเหลียวแลเลย 14 ปีแล้วครับ รัฐบาลทราบไหมครับ ผมจึงมาพูดให้รัฐบาลฟัง แล้วหลังจากที่ชันสูตรพลิกศพแล้ว ให้ส่งศาลมีคำสั่งการตายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150

 

2) ซึ่งก็ทำง่ายมาก ก็คือให้รัฐบาลแก้กฎหมายเอาทหารที่ฆ่าประชาชนต้องขึ้นศาลพลเรือน ไม่ใช่เอาไปขึ้นศาลทหาร เราไม่รู้ว่าขึ้นศาลทหารแล้วมันจะเป็นยังไง เราเป็นห่วง เราระแวง เป็นธรรมดาของพลเรือนจะต้องระแวง และเอานักการเมืองที่ส่วนร่วมในการฆ่าประชาชนขึ้นศาลพลเรือนด้วยเช่นกันครับ ปัจจุบันไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ความผิดมันคนละเรื่องกับสัดส่วนของความเป็นจริงเลย

 

นอกจากนี้ผมขอเพิ่มเติมในเหตุการณ์ปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ง่ายเลยครับ รัฐบาลสามารถทำได้ ก็คือผมอยากจะให้รัฐบาลเร่งนิรโทษกรรมทางการเมืองให้กับประชาชนทุกคน รวมทั้งคดี 112 ด้วยครับ นิรโทษไปเลยไม่ต้องยึกยัก ไม่ต้องรอ เดือนหน้านี่ทำได้เลย ไม่ต้องยึกยักหรอกครับ คุณทำได้อยู่แล้ว ผมรู้ว่าเขาทำได้ แต่เขาจะทำหรือไม่ทำ ไม่ทราบ!

 

ขณะนี้มีนักโทษ 112 ติดคุกอยู่ 43 คน แล้วมีคนซึ่งศาลท่านยังไม่ได้พิพากษาว่ามีความผิดอดข้าวประท้วงอยู่ 2 คนนะครับ ผมไม่ต้องการให้มีคนตายจากการอดข้าวต่อไปอีกแล้ว และผมก็เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศไม่ประสงค์ที่อยากจะให้มีคนอดข้าวตายอีก ใช่ไหมครับ?

 

พี่น้องครับ หากว่ารัฐบาลปัจจุบันทำสำเร็จ เราก็จะมีความภาคภูมิใจมาก และเราก็จะให้คะแนนนิยมอย่างสูงเลย แต่หากถ้ารัฐบาลทำไม่สำเร็จ เราก็ต้องอดทนรอไปจนกว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป เราก็ต้องเลือกพรรคการเมืองที่ตั้งใจจะทำ 2 ประการที่ผมพูดมาเมื่อสักครู่นี้ให้สำเร็จอย่างถล่มทลาย ใช่หรือไม่ครับ? เพื่อให้เขาตั้งรัฐบาลแล้วมาทำ 2 เรื่องนี้

 

ถ้าหากทำถึงที่สุดแล้วหมดอายุความ เรายังไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกหมดหนทางนะครับ เราไป ICC ครับ ก็คือไปรับรองเขตอำนาจศาล ICC เฉพาะกรณีเมษาพฤษภา ปี 53 ขีดเส้นใต้เฉพาะกรณีเมษาพฤษภา ปี 53 นะครับ เพื่อป้องกันพวกขวาจัดใส่ร้ายป้ายสีเราว่าเราไปเกี่ยวข้องกับสถาบัน ไม่เกี่ยวเลย เพราะปี 53 เกี่ยวกับ ศอฉ. กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เท่านั้นครับ

 

เอาล่ะครับ ก่อนที่ผมจะร้องเพลงนะครับ ผมขออนุญาตกราบเรียนเรื่องที่ดีมาก ผมปลื้มใจมากในวันนี้ก็คือ กวีศรีประชา ซึ่งเป็นเจ้าของวรรคทอง

 

“ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า

ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ

ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน

ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป

เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่

ประชาชนต้องมีชีวิตใหม่

เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ

ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”

 

วันนี้กวีศรีประชาตั้งใจจะเขียนบทกวีมามอบให้พี่น้องทั้งหลาย และมอบให้วีรชน เมษาพฤษภา53 : 14 ปีที่ยังรอคอย แต่ไม่ใช่ผมอ่านนะครับ เพราะว่าลูกหลานเราจะทำหน้าที่ในการอ่าน

 

เอาล่ะผมจะจบโดยการร้องเพลง 3 เพลงต่อกันมาเลยนะครับ เริ่มด้วย เพลงเพื่อมวลชน ก่อนเลย เพลง 3 เพลง (เพื่อมวลชน, สหาย, มิตรร่วมรบ) ผมตั้งใจเลือกให้เข้ากับวีรชนของเราครับ

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คปช53 #คนเสื้อแดง