วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2566

“พิธา” ควง “ปิยบุตร” ขึ้นซาเล้งแห่รอบเมืองขอนแก่น ​ ลั่น หากเป็นนายกฯ ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ย้ำคำเดิม ครม.ไหนมีประวิตร-ประยุทธ์ ไม่มี “ก้าวไกล” ร่วมด้วยแน่นอน


พิธา” ควง “ปิยบุตร” ขึ้นซาเล้งแห่รอบเมืองขอนแก่น ​ ลั่น หากเป็นนายกฯ ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ย้ำคำเดิม ครม.ไหนมีประวิตร-ประยุทธ์ ไม่มี “ก้าวไกล” ร่วมด้วยแน่นอน

 

วันที่ 4 มีนาคม 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล และ วีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมแห่หาเสียง โดยใช้ขบวนรถสามล้อและมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างแห่ไปรอบตัวเมืองขอนแก่น ทักทายประชาชน แนะนำตัวผู้สมัครและนโยบายของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้ง โดยกิจกรรมตลอดช่วงเช้านี้ได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวขอนแก่นตลอดสองข้างทางเป็นอย่างดี

 

ก่อนเริ่มขบวนแห่ ทั้งสามคนร่วมให้สัมภาษณ์และตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน ซึ่งถามถึงความมั่นใจของพรรคก้าวไกลต่อการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยปิยบุตร ระบุว่าจากการติดตามผลสำรวจคะแนนนิยมอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ว่าคะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลยังคงอยู่ เมื่อ 4 ปีที่แล้วทุกคนก็ปรามาสพรรคอนาคตใหม่ว่าจะไม่ได้คะแนนนิยม แต่ก็คว้าชัยชนะมาได้ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วถึง 88 ที่นั่ง รวมทั้งที่ขอนแก่นเขต 1 ด้วย มาครั้งนี้ก็เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะยังคงเก็บชัยชนะได้

 

ด้านพิธา ระบุว่าในการเลือกตั้งรอบนี้ พรรคก้าวไกลตั้งเป้าหมายว่าจะต้องได้จำนวน ส.ส.เขตมากขึ้น ให้มี ส.ส.เขตในทุกภาค และต้องมากกว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงจะต้องได้คะแนนนิยมรวม หรือป๊อปปูลาร์โหวต มากขึ้นด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นไปได้ แม้วิธีการคำนวณคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้อาจต่างกัน แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในปัจจัยที่เราควบคุมได้ เรามีแผนการหาเสียงยาวไปจนถึงวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งแล้ว ทั้งการเปิดตัวนโยบาย ลงพื้นที่ เปิดตัว ส.ส.บัญชีรายชื่อ

 

แต่หากจะมีสิ่งใดที่ยังเป็นข้อกังวลอยู่บ้าง ก็คงจะมีการเขียนเขตที่ไม่แน่นอนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และการไม่มีระบบรายงานผลแบบเรียลไทม์ การใช้เวลาราชการและการใช้ข้าราชการเป็นเครื่องมือในการหาเสียงโดยฝ่ายรัฐบาล แต่เราก็จะทำในสิ่งที่ทำได้ให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องไปยัง กกต. ให้จัดการการเลือกตั้งอย่างมีระบบ มีความชัดเจน มีบรรทัดฐานที่ต่อเนื่อง และไม่สร้างความสับสนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

 

พิธายังกล่าวต่อไปว่า สำหรับการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปจากกรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตนและพรรคก้าวไกลคาดแล้วว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น จึงได้มีการวางแผนให้ผู้สมัครเดินหาเสียงไปพร้อมกัน 2-3 ทีมในเขตใกล้เคียงกันหลายที่ ให้ประชาชนได้เห็นตัวผู้สมัครครบทุกคน ทำงานเป็นทีมและส่งพลังให้แก่กันด้วย

 

ทั้งนี้ การแบ่งเขตแบบที่นับรวมฐานประชากรแต่เฉพาะคนสัญชาติไทย อาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเขตไปอย่างมีนัยยะสำคัญในจังหวัดอย่างเชียงใหม่และเชียงราย แต่ไม่ว่าจะอย่างไร พรรคก้าวไกลก็พร้อมสู้ในทุกรูปแบบ และเชื่อว่าจะสามารถรักษาเขตเดิมและเพิ่มเขตใหม่ได้แน่นอน

 

ผู้สื่อข่าวยังถามต่อถึงกรณีการขยับของพรรคเพื่อไทย ที่มีการแต่งตั้งทีมที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจขึ้นมา จะส่งผลต่อการหาเสียงของพรรคก้าวไกลหรือไม่ พิธาระบุว่าพรรคก้าวไกลพร้อมเสมอในการแข่งขันเชิงนโยบายเพื่อเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้สังคมไทย และเมื่อผลการเลือกตั้งออกมา พรรคก้าวไกลก็พร้อมที่จะร่วมมือกับแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เพื่อทำงานด้วยกันอย่างเต็มที่ในอนาคต เพราะวันนี้ทั้งสองพรรคต่างเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน ทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านต่างเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อม ที่เมื่อนำมารวมกันจะเป็น ครม. ที่สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ๆ ของประเทศไทยได้

 

ด้านปิยบุตร ได้กล่าวเสริมในประเด็นนี้ โดยระบุว่าทุกพรรคเมื่อลงเลือกตั้งนั้น ต่างก็ต้องเริ่มจากศูนย์ด้วยกันทั้งสิ้น บางพรรคการเมืองอาจมีฐานเสียงที่ทับซ้อนกันบ้าง แต่สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งตนเชื่อว่าในรอบนี้จะมีประชาชนหันมาเลือกตั้งด้วยวิธีคิดแบบใหม่ เป็นการเลือกเพื่อไปสู่อนาคตมากขึ้น ซึ่งพรรคก้าวไกลก็คือพรรคที่ตอบโจทย์นั้นได้อย่างครบถ้วน

 

ทั้งนี้ ผลโพลต่างๆ ที่ออกมาในรอบ 2-3 ที่ผ่านมา ยังคงยืนยันให้เห็นว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมด ต่างมีคะแนนนิยมที่รวมกันได้ถึงกว่า 300 ที่นั่ง ถ้าทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านวันนี้ร่วมจับมือกัน ย่อมจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน

 

สุดท้าย ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีข่าวลือ ที่ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายพรรคมีแนวโน้มจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณได้ พรรคก้าวไกลจะยังคงยืนยันคำเดิมหรือไม่ว่าจะไม่ร่วม ซึ่งพิธา ได้ยืนยันคำเดิม ว่าพรรคก้าวไกลไม่อาจร่วมกับรัฐบาลที่มีส่วนผสมของพรรคทหารจำแลงได้เด็ดขาด

 

ไม่ร่วมครับ ครม.ใดก็ตาม ที่มีส่วนผสมของประยุทธ์หรือประวิตร จะไม่มีผมและพรรคก้าวไกลอยู่ในนั้นแน่นอน” พิธากล่าว

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66