อัยการสั่งฟ้อง
"อร ชูศรี" และ "ชำนาญ" อดีตจำเลยคดีชายชุดดำอีกเป็นคดีที่สอง
ทนายชี้หลักฐานเป็นอาวุธชุดเดียวกับคดีแรกที่ศาลพิพากษายกฟ้อง 3
ศาลแล้วแค่ฟ้องคนละข้อหา ศาลให้ประกันคนละ 3 แสน นัดตรวจพยานหลักฐาน 29 พ.ค. 66
วันที่
27 มีนาคม 2566 ที่ศาลอาญา รัชดาฯ มีนัดฟังคำฟ้องคดีที่
ปุณิกา ชูศรี หรือ อร และชำนาญ ภาคีฉาย
อัยการฟ้องพวกเขาเป็นจำเลยด้วยข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
จากกรณีที่พวกเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นชายชุดดำที่ปรากฏตัวยิงต่อสู้กับทหารที่เข้าสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงบริเวณแยกคอกวัวในคืนวันที่
10 เม.ย.2553
ธิติพงษ์
ศรีแสน 1
ในทีมทนายความของคดีให้สัมภาษณ์ว่าคดีนี้เป็นคดีที่ทั้งสองคนถูกฟ้องดำเนินคดีอีกครั้ง
หลังจากคดีก่อนหน้าศาลชั้นต้นจนถึงศาลฎีกาเคยพิพากษายกฟ้องข้อหาครอบครองอาวุธจากการถูกกล่าวหาว่าเป็นชายชุดดำมาก่อนแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าถือเป็นการฟ้องคดีซ้ำหรือไม่
ทนายความตอบว่าสำหรับคดีนี้มีการใช้อาวุธสงครามที่พยานหลักฐานชุดเดียวกันกับคดีชายชุดดำคดีแรกที่ศาลยกฟ้องพวกเขาไปแล้วว่าพวกเขาไม่ได้ครอบครองมาฟ้องว่าทั้งสองคนเอาไปใช้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตามศาลยังคงมองว่าคดีนี้อัยการสามารถฟ้องได้เนื่องจากเป็นการฟ้องคนละข้อหากับคดีแรก
ซึ่งทางทนายความได้ขอให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายแล้วแต่ศาลแจ้งว่าจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นนี้ในตอนมีคำพิพากษา
ทั้งนี้หลังจากศาลรับฟ้องแล้ว
ทางทนายความได้ยื่นขอประกันตัวทั้งสองคนต่อศาลทันที
ศาลอนุญาตให้ประกันโดยต้องให้วางเงินประกันตัวคนละ 300,000 บาท
โดยได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์
สำหรับนัดครั้งต่อไปในคดีของปุณิกาและชำนาญเป็นนัดตรวจพยานหลักฐาน
ศาลลงวันนัดไว้เป็นวันที่ 29
พ.ค.2566
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับปุณิกาและชำนาญ
คดีนี้ถือเป็นคดีที่สองของพวกเขาที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับชายชุดดำ
โดยคดีแรกที่ศาลยกฟ้องไปแล้วนั้นยังมีจำเลยอีก 3 คนคือกิตติศักดิ์
สุ่มศรี หรือ อ้วน, ปรีชา อยู่เย็น หรือไก่เตี้ย และรณฤทธิ์ สุวิชา
หรือนะ
สำหรับกิตติศักดิ์และปรีชาพวกเขาถูกฟ้องร่วมกันอีก 2 คดีเป็นคดีข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ทหารที่แยกคอกวัวเช่นเดียวกับปุณิกาและชำนาญ และมีคดีข้อหาก่อการร้ายอีก 1 คดีจากพฤติการณ์เดียวกัน โดยศาลมีคำพิพากษายกฟ้องกิตติศักดิ์และปรีชาแล้วทั้ง 2 คดี
ดังนั้นคดีที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ชายชุดดำที่ปรากฏตัวที่แยกคอกวัวที่ผ่านมามีการดำเนินคดีในศาลแล้วถึง
5 คดี แต่เป็นจำเลยชุดเดียวกันทั้งหมด โดยอีก 4
คดีที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วนั้นยังไม่มีคดีใดที่ศาลเห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอแก่การพิพากษาลงโทษจำเลยเหล่านี้
ทั้งนี้จำเลยทั้ง
5 คนในคดีชายชุดดำมีเพียงรณฤทธิ์ที่ยังไม่มีคดีอื่น ๆ ตามมาหลังศาลยกฟ้อง
ธิติพงษ์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ว่ารณฤทธิ์ถูกกันไว้เป็นพยานในคดีชายชุดดำคดีอื่น
ๆ เพียงคนเดียว
ที่มา
: ประชาไท
ขอบคุณภาพจาก : nisitjournal.press
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ชายชุดดำ