กลับบ้านเพื่อไทย
‘สมศักดิ์’ ยัน ไม่มีมุ้ง ไม่มีกลุ่มสามมิตร มั่นใจเพื่อไทยเป็นรัฐบาล 99.99% ‘สุริยะ’ ชี้เศรษฐกิจตกต่ำ
ต้องนโยบายเพื่อไทยเท่านั้นที่ตอบโจทย์ประเทศ
วันที่
23 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 10.29 น.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ
จึงรุ่งเรืองกิจ และนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เดินทางเข้าสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย
โดยมีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ
จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายกิตติ ลิ่มสกุล
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด
ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.)
พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ
นายแพทย์ชลน่าน
ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
ขอต้อนรับทุกท่านด้วยความขอบคุณยิ่ง
ขอขอบคุณที่มาร่วมอุดมการณ์กับเรา วันนี้ถือเป็นวันที่ดี
และเป็นวันที่ดียิ่งกว่าวันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นวันประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน วันนี้พรรคเพื่อไทยมีผู้ที่เคยทำงานในอุดมการณ์เดียวกัน
ร่วมทำงานกันมาและเคยสร้างผลงานมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย นายสุริยะ
จึงรุ่งเรืองกิจ
เคยเป็นเลขาธิการพรรคไทยรักไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนางอนงค์วรรณ
เทพสุทิน เคยเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง
เป็นบุคคลที่เคยขับเคลื่อนอุดมการณ์เพื่อประชาชนจนประสบความสำเร็จ
พี่น้องประชาชนต่างมีความชื่นชอบในนโยบาย
แต่ด้วยมิติการเมืองในสังคมไทยที่เปลี่ยนไป จากกติกาที่บิดเบี้ยว
ทำให้ต้องทำงานทางการเมืองกับพรรคอื่น ซึ่งหวังว่าในอนาคตกติกานั้นไม่ควรเกิดขึ้นอีก
และหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ควรเป็นการเมืองในระบบ ไม่มีอำนาจซ่อนเร้นแอบแฝง
เป็นอำนาจของประชาชนที่แท้จริง ซึ่งจะเป็นจริงได้หรือไม่ อยู่ที่พี่น้องประชาชน
การเลือกตั้งครั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนมอบอาณัติให้เราอย่างเด็ดขาด จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเสียงที่ประชาชนให้มาเป็นเสียงข้างมากอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ทราบว่าหลายฝ่ายพร้อมปรับตัว เพราะเห็นแก่ประเทศชาติ
เพื่อให้การเมืองเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างแท้จริง
ทั้งนี้
นายสุริยะจะสนับสนุนยุทธศาสตร์ในภาพใหญ่
ส่วนนายสมศักดิ์จะมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
จะเข้าไปดูแลขับเคลื่อนผลักดัน โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายที่เพื่อไทยยังไม่มี ส.ส.
โดยเฉพาะภาคใต้ ตั้งเป้าหมายได้ ส.ส.ถึง 5-10 คน จากเดิมที่ตั้งเป้าได้ ส.ส. 1
คนซึ่งถือเป็นกำไรของเรา
นายแพทย์ชลน่าน
กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน
เป็นสถาบันแห่งความหวังให้กับพี่น้องประชาชน
เป้าหมายของเราคือการชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ได้ ส.ส.จำนวน 250 คนขึ้นไป
และเป้าหมายเด็ดขาดที่ 310 คนขึ้นไป เพื่อเอาชนะกติกาในปัจจุบัน ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
ถือเป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้า เพราะถึงแม้พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. 310 เสียงในสภา
แต่การที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ต้องได้ 376 เสียง
ซึ่งต้องมาพูดคุยกันอีกครั้งว่าจะถึงด้วยวิธีการอย่างไร
“ผมเชื่อว่าภาพที่ปรากฏบนเวทีนี้จะสร้างความเชื่อมั่น
ทำให้เป้าหมายของเราไปสู่ความสำเร็จได้ ด้วยความสามารถของคุณสุริยะ คุณสมศักดิ์
และคุณอนงค์วรรณ เราจะผนึกกำลังกัน เพื่อพี่น้องประชาชน” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว
นายประเสริฐ
จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การกลับเข้ามายังพรรคเพื่อไทยของท่านสามท่าน
ถือเป็นความรักความผูกพัน ความอบอุ่นของพรรคเพื่อไทยที่มีความเป็นกันเอง เราจะมาสร้างอนาคตประเทศร่วมกัน ในนามของพรรคเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม
ขอต้อนรับสมาชิกทั้งสามท่านอย่างอบอุ่นเช่นเดิม
นายสมศักดิ์
เทพสุทิน สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้รู้สึกมีความสุข มีความหวัง ดีใจและภูมิใจเป็นอย่างมาก สิ่งที่คิดมาโดยตลอด
จะสามารถบรรลุเป้าหมายเพื่อวางแนวทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งเราต้องปรับตัว ที่ผ่านมาประเทศชาติเสียหาย
ประชาชนเสียเวลาไปอย่างมาก ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่เปิดรับตนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้ง
และหวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมช่วยงานให้สมบูรณ์แบบ เป็นที่พึ่งที่หวังของพี่น้องประชาชนได้ครบ
100% สู่เป้าหมายชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์
นายสมศักดิ์
กล่าวอีกว่า ตนเข้ามาเสริมเติมเต็มในบางส่วนให้ครบ จะเป็นผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่
ตนพึงพอใจในการทำงานของพรรคเพื่อไทย ทีมของเพื่อไทยเป็นทีมที่เข้าใจง่ายเป็นปุถุชนคนธรรมดา
ไม่ใช่เป็นบุคคลที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ที่จะพูดคุยหรือทำความเข้าใจกับชาวบ้าน
ทีมนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้
เพราะหากทีมงานไม่สามารถทำความเข้าใจในนโยบายอย่างเด่นชัดได้ ส่วนราชการเสนอ บันทึกมา แล้วทำตามเดิม
จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาใหม่ ๆได้ ในอดีตพรรคไทยรักไทยนโยบายของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร
บรรลุเป้าหมายอย่างแจ่มชัด และนำไปสู่การปฏิบัติ
“วันนี้ไม่แลนด์สไลด์
ก็เกือบแลนด์สไลด์แล้ว 99.99% เพราะประชาชนเข้าใจ ยอมรับในทีมของพรรคเพื่อไทย
ผมก็เป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน ผมเต็มใจมา
การพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อจะก้าวเดินไปข้างหน้าของงานและบริการประชาชนให้สมดังใจคิด
ให้สมกับพี่น้องประชาชนตั้งใจรอ ผมก็ประกาศตัวมาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ผมพร้อม
และจะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ สิ่งที่พูดมาตลอด ดิน ฟ้า อากาศ
ฟ้าเปิดเมฆหมอกจางหาย
เบาบางไปก็เป็นบรรยากาศของประชาธิปไตยที่จะสร้างงานสร้างอาชีพให้พี่น้องประชาชนให้มีความสุข”
นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสุริยะ
จึงรุ่งเรืองกิจ สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่ให้โอกาสกลับเข้ามาทำงาน
สาเหตุที่ตัดสินใจเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยได้พังทลายไปอย่างยับเยิน โดยเฉพาะ
4 ปีแรกที่เกิดการทำรัฐประหาร ทำให้ไม่เป็นที่ยอมรับของนักลงทุนต่างประเทศ
ประเทศไทยสูญเสียโอกาสไปอย่างมากมาย และในช่วง 4 ปีหลัง พรรคพลังประชารัฐได้รับส.ส.มาจำนวนไม่มากพอ
จึงจำเป็นต้องกระจายกระทรวงเศรษฐกิจไปให้พรรคการเมืองต่าง ๆ
ทำให้ขาดพลังในการแก้ไขนโยบายต่าง ๆ ต้องคอยประนีประนอม พรรคการเมืองต่าง ๆ
ที่ต้องการงบประมาณเพื่อชูนโยบายของพรรคตนเอง ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้
ยืนยันจาก GDP
ของประเทศที่ต่ำเกือบที่สุดในกลุ่มอาเซียน
ดังนั้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต้องมีพรรคแกนนำรัฐบาล มีจำนวนส.ส
ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแบบถล่มทลายหรือแลนด์สไลด์ ทั้งหมดทำให้ตนและนายสมศักดิ์ตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทยเพื่อมีส่วนทำแลนด์สไลด์ในครั้งนี้
ให้พรรคเพื่อไทยได้นำนโยบาย “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน”
สำหรับสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่พังทลายไปแล้ว
หากไม่คิดใหญ่ เศรษฐกิจคงฟื้นตัวไม่ได้อย่างแน่นอน
คิดใหญ่อันดับแรกของพรรคเพื่อไทย จะมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันภายในปี
2570 และผู้ที่จบปริญญาตรี เงินเดือนปรับขึ้นเป็น 25,000 บาท
เพราะผู้ใช้แรงงานที่มีจำนวนกว่า 14 ล้านคนได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น
เพราะสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน แต่ค่าแรงเตี้ยติดดิน
คิดใหญ่อันดับ
2 คือการช่วยเหลือพี่น้องชาวเกษตรกรที่มีจำนวนเกือบ 10
ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารของรัฐบาลที่ขาดประสิทธิภาพ
ทำให้พืชผลการเกษตรตกต่ำเป็นประวัติศาสตร์ในขณะที่ปัจจัยการผลิต อาทิ
ปุ๋ยขึ้นราคาไปกว่า 200-300% รวมไปถึงค่าน้ำมันต่าง ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศต่อประชาชนในนโยบายหลัก
จากการที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้พบกับผู้ประกอบการต่าง ๆ
ประธานหอการค้าประธานอุตสาหกรรม ทุกคนบอกว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
ถ้าอยู่ต่อไปคงจะเกิดความทุกข์ยากลำบากมาก
“หลายคนที่สนิทกันมากระซิบบอกว่าให้ท่านย้ายพรรคเถอะ
เพื่อนฝูงของผมทุกคนไม่มีใครเชียร์ให้อยู่พรรคเดิม จากนโยบายพรรคเพื่อไทย
เชื่อว่าจะชนะอย่างแลนด์สไลด์แน่นอน
จากผลโพลที่สำรวจก็เห็นชัดเจนว่าประชาชนต้องการให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลและผมเชื่อว่า
อย่างที่ท่านสมศักดิ์ได้พูดว่าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล 99.99%
ผมก็เชื่อว่าทุกคนในที่นี้ก็เห็นด้วย” นายสุริยะกล่าว
นางอนงค์วรรณ
เทพสุทิน สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
จากการที่เคยเป็นอดีต ส.ส. และจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนในช่วงที่ผ่านมาพบว่า
พี่น้องประชาชนยังคงชื่นชมนโยบายในอดีตของพรรคไทยรักไทย เพราะได้รับประโยชน์
สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่ทันสมัย
ซึ่งประชาชนยังให้การชื่นชอบอยู่เหมือนเดิม
จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องประชาชนจะเห็นถึงความตั้งใจจริง
และตนมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป
การหายไปและกลับมาอีกครั้งในนามของพรรคเพื่อไทย
ตนรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกมีความหวังเป็นอย่างมากเหมือนที่เคยเป็นความรุ่งเรืองในอดีต
ขอขอบคุณหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค
ที่ยังให้การสนับสนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ภายหลังการแถลงข่าว นายแพทย์ชลน่าน
ได้สวมเสื้อแจกเกตพรรคเพื่อไทยให้กับนายสมศักดิ์ นายสุริยะ นางอนงค์วรรณ
และสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยตลอดการแถลงข่าวเป็นไปด้วยความชื่นมื่น
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66