เปิดตัว
ส.ส.กทม. เพื่อไทย ‘ก้อง อายุน้อยร้อยล้าน’ ชูนโยบายสนับสนุน Soft Power สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง สร้างรายได้ 2 แสนบาทต่อปี
วันที่
24 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทย จัดงาน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น
เพื่อคนกรุงเทพฯ’ ณ สเตเดียม วัน จุฬาซอย 4-6
เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ มุมมองของประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในอนาคตทั้ง 4 ด้าน สร้างความหวังให้กับคนไทยทุกคน
นายอรรฆรัตน์ นิติพน ผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยในหัวข้อ “Future Job อาชีพใหม่ เพื่อไทยทุกคน” โดยระบุว่า ตลอด 20
ปีที่ผ่านมา ตนอยู่กับวงการเอสเอ็มอี ได้เห็นมุมมองของนักธุรกิจมากมาย ทั้งในไทย
และต่างประเทศ เมื่อพรรคเพื่อไทยชักชวนมาทำนโยบายเรื่องปากท้อง
การสร้างรายได้และการทำธุรกิจใหม่ ๆ ให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น
จึงเป็นโอกาสที่จะได้มีส่วนนำประสบการณ์มาช่วยพัฒนาประเทศ
คนไทยเก่ง
มีความคิดและความขยันไม่แพ้ชาติใดเลย
แต่ทำไมเราถึงยังติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลาง ไม่สามารถเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้เหมือนประเทศอื่น
ๆ คำตอบคือ เราติดอยู่ที่รัฐบาล เราไม่มี “ตัวจุดระเบิด เพิ่มศักยภาพ” ไม่มี Economic launcher ให้กับผู้ประกอบการ ซ้ำในบางครั้งรัฐบาลกลับเป็นผู้ทำลายโอกาส
เมื่อมองต่างประเทศ
รัฐบาลเขาสนับสนุนให้คนมีโอกาส เช่น ประเทศเกาหลีใต้
ปีที่ผ่านมาถ้าดูซีรีส์หรือหนังเกาหลีใต้
จะเห็นเลยว่าตัวละครกินรามยอนหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี
นั่นเพราะรัฐบาลเกาหลีใต้ส่งเสริมจริงจัง
เรียกผู้สร้างสื่อบันเทิงทั้งหลายมาประชุมกัน มีบริษัทรามยอนสนับสนุน
พอดารากินรามยอน ซีรีส์กินรามยอนออกไปทั่วโลก รามยอนก็ขายได้ ผู้ผลิตรามยอนก็ขายดี
หันมามองประเทศไทย
ทั่วโลกยกย่องให้อาหารไทยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
แต่ทำไมเรารู้จักไก่ทอดเกาหลีมากกว่าไก่ย่างของไทย ทำไมไก่ทอดหาดใหญ่, ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย,
ผัดหมี่โคราช ไม่มีแบบนี้
ทำไมรัฐบาลไม่ทำให้นักท่องเที่ยวมาเมืองไทยมาจ่ายเงินให้พ่อค้าแม่ขายพี่น้องประชาชนของเรา
เช่นเดียวกันที่ประเทศไทยมีสมาร์ทโฟนประมาณ 70 ล้านเครื่อง
คนไทยซื้อสินค้าออนไลน์ e-commerce, social commerce ผ่านไลน์
ผ่านแมสเซนเจอร์ มูลค่ารวมกว่า 6 แสนล้านบาท เป็นอันดับต้นๆ
ของโลก แต่ไม่มีการซื้อขายผ่านแอปฯ หรือบริษัทคนไทยเลย
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพท่องเที่ยว มีโรงแรม ที่พัก รีสอร์ทคุณภาพดีมากมาย
แต่ต้องจองโรงแรมที่พัก จองตั๋วเครื่องบินผ่านแอปฯ จากต่างชาติหมด
“นั่นเพราะเอกชนถึงมีไอเดียดี ๆ แต่ถ้าไม่มีการหนุนเสริมจากรัฐบาล
ไอเดียทั้งหมดก็เป็นไปได้ยาก เงินทุนไม่พอ ข้อกฎหมายเป็นปัญหา
ต้องขอใบอนุญาตมากมาย และบางทีหากรัฐบาลไม่เข้าใจ ก็กลายเป็นอุปสรรค
ที่ขัดขวางการเติบโตของภาคเอกชนเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น
เราต้องมีรัฐบาลที่คอยส่งเสริมสนับสนุนเศรษฐกิจให้ดี รัฐบาลต้องสนับสนุนเอกชน
ให้สร้างงานใหม่ งานแห่งอนาคต งานที่คนไทยจะไม่แพ้เอไอ
ไม่แพ้ต่างชาติ”นายอรรฆรัตน์กล่าว
นายอรรฆรัตน์
กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดปัจจุบันได้แสดงให้เห็นแล้วว่า
ไม่มีความสามารถมากพอที่จะสนับสนุนคนไทยได้ เห็นได้จาก GPD ของไทย
สองไตรมาสที่ผ่านมา เติบโตเพียงแค่ 2.5 และ 2.2% ในขณะที่มาเลเซียไตรมาสแรกโตถึง 8.9% เวียดนามโต 7.7% ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ประเทศไทยจะแพ้ในการแข่งขัน ตามเพื่อนบ้านไม่ทัน
และจะไม่ใช่ประเทศที่ดึงดูดนักลงทุนอีกต่อไป
ดังนั้น
ต้องเปลี่ยนใหม่ เพื่อปลดล็อกศักยภาพ
จุดระเบิดขับดันให้จรวดเศรษฐกิจไทยทะยานตามโลกให้ทัน ต้องใช้คนใหม่ๆ ที่ก้าวทันโลก
มาบริหารเรื่องเศรษฐกิจ มาเตรียมระบบสร้างความรู้ใหม่ๆ
ให้คนไทยนำเทคโนโลยีมาเป็นรายได้
มาสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพสามารถเปลี่ยนไอเดียดีๆ
ให้เป็นการจ้างงาน เป็นมูลค่า และตนเชื่อว่าทีมเพื่อไทย
คือทีมที่ดีที่สุดในด้านเศรษฐกิจ
“พรรคเพื่อไทย มีนโยบายตั้งองค์กร Thailand Creative Content Agency มาสนับสนุนศักยภาพความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย นโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft power ที่จะสร้างเงินจากความคิดสร้างสรรค์ของคนในแต่ละครอบครัว สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง ที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี
“ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Digital Hub แห่งเอเชีย
เป็น Food Paradise และสร้าง Festival Tourism ที่จะยกระดับอาหารและสินค้าไทยไปพร้อมกับวัฒนธรรมความคิดสร้างสรรค์
สร้างโอกาส สร้างงานใหม่ อาชีพใหม่ ถึงเวลาแล้วที่เราจะเปลี่ยนจากคนเดิม ๆ
คิดแบบเดิม ๆ เป็นคนที่คิดใหญ่ ทำเป็น ต้องเพื่อไทยเท่านั้นครับ” นายอรรฆรัตน์
กล่าวปิดท้าย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66