วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2566

เปิดตัว ส.ส.กทม. เพื่อไทย ‘ก้อง อายุน้อยร้อยล้าน’ ชูนโยบายสนับสนุน Soft Power สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง สร้างรายได้ 2 แสนบาทต่อปี

 


เปิดตัว ส.ส.​กทม. เพื่อไทย ‘ก้อง อายุน้อยร้อยล้าน’ ชูนโยบายสนับสนุน Soft Power สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง สร้างรายได้ 2 แสนบาทต่อปี


วันที่ 24 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทย จัดงาน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ’ ณ สเตเดียม วัน จุฬาซอย 4-6 เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ มุมมองของประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในอนาคตทั้ง 4 ด้าน สร้างความหวังให้กับคนไทยทุกคน


นายอรรฆรัตน์ นิติพน ผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยในหัวข้อ “Future Job อาชีพใหม่ เพื่อไทยทุกคน” โดยระบุว่า ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ตนอยู่กับวงการเอสเอ็มอี ได้เห็นมุมมองของนักธุรกิจมากมาย ทั้งในไทย และต่างประเทศ เมื่อพรรคเพื่อไทยชักชวนมาทำนโยบายเรื่องปากท้อง การสร้างรายได้และการทำธุรกิจใหม่ ๆ ให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น จึงเป็นโอกาสที่จะได้มีส่วนนำประสบการณ์มาช่วยพัฒนาประเทศ

 

คนไทยเก่ง มีความคิดและความขยันไม่แพ้ชาติใดเลย แต่ทำไมเราถึงยังติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลาง ไม่สามารถเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้เหมือนประเทศอื่น ๆ คำตอบคือ เราติดอยู่ที่รัฐบาล เราไม่มี “ตัวจุดระเบิด เพิ่มศักยภาพ” ไม่มี Economic launcher ให้กับผู้ประกอบการ ซ้ำในบางครั้งรัฐบาลกลับเป็นผู้ทำลายโอกาส

 

เมื่อมองต่างประเทศ รัฐบาลเขาสนับสนุนให้คนมีโอกาส เช่น ประเทศเกาหลีใต้ ปีที่ผ่านมาถ้าดูซีรีส์หรือหนังเกาหลีใต้ จะเห็นเลยว่าตัวละครกินรามยอนหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี นั่นเพราะรัฐบาลเกาหลีใต้ส่งเสริมจริงจัง เรียกผู้สร้างสื่อบันเทิงทั้งหลายมาประชุมกัน มีบริษัทรามยอนสนับสนุน พอดารากินรามยอน ซีรีส์กินรามยอนออกไปทั่วโลก รามยอนก็ขายได้ ผู้ผลิตรามยอนก็ขายดี


หันมามองประเทศไทย ทั่วโลกยกย่องให้อาหารไทยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ทำไมเรารู้จักไก่ทอดเกาหลีมากกว่าไก่ย่างของไทย ทำไมไก่ทอดหาดใหญ่, ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย, ผัดหมี่โคราช ไม่มีแบบนี้ ทำไมรัฐบาลไม่ทำให้นักท่องเที่ยวมาเมืองไทยมาจ่ายเงินให้พ่อค้าแม่ขายพี่น้องประชาชนของเรา เช่นเดียวกันที่ประเทศไทยมีสมาร์ทโฟนประมาณ 70 ล้านเครื่อง คนไทยซื้อสินค้าออนไลน์ e-commerce, social commerce ผ่านไลน์ ผ่านแมสเซนเจอร์ มูลค่ารวมกว่า 6 แสนล้านบาท เป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ไม่มีการซื้อขายผ่านแอปฯ หรือบริษัทคนไทยเลย ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพท่องเที่ยว มีโรงแรม ที่พัก รีสอร์ทคุณภาพดีมากมาย แต่ต้องจองโรงแรมที่พัก จองตั๋วเครื่องบินผ่านแอปฯ จากต่างชาติหมด


นั่นเพราะเอกชนถึงมีไอเดียดี ๆ แต่ถ้าไม่มีการหนุนเสริมจากรัฐบาล ไอเดียทั้งหมดก็เป็นไปได้ยาก เงินทุนไม่พอ ข้อกฎหมายเป็นปัญหา ต้องขอใบอนุญาตมากมาย และบางทีหากรัฐบาลไม่เข้าใจ ก็กลายเป็นอุปสรรค ที่ขัดขวางการเติบโตของภาคเอกชนเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น เราต้องมีรัฐบาลที่คอยส่งเสริมสนับสนุนเศรษฐกิจให้ดี รัฐบาลต้องสนับสนุนเอกชน ให้สร้างงานใหม่ งานแห่งอนาคต งานที่คนไทยจะไม่แพ้เอไอ ไม่แพ้ต่างชาติ”นายอรรฆรัตน์กล่าว


นายอรรฆรัตน์ กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดปัจจุบันได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่มีความสามารถมากพอที่จะสนับสนุนคนไทยได้ เห็นได้จาก GPD ของไทย สองไตรมาสที่ผ่านมา เติบโตเพียงแค่ 2.5 และ 2.2% ในขณะที่มาเลเซียไตรมาสแรกโตถึง 8.9% เวียดนามโต 7.7% ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ประเทศไทยจะแพ้ในการแข่งขัน ตามเพื่อนบ้านไม่ทัน และจะไม่ใช่ประเทศที่ดึงดูดนักลงทุนอีกต่อไป


ดังนั้น ต้องเปลี่ยนใหม่ เพื่อปลดล็อกศักยภาพ จุดระเบิดขับดันให้จรวดเศรษฐกิจไทยทะยานตามโลกให้ทัน ต้องใช้คนใหม่ๆ ที่ก้าวทันโลก มาบริหารเรื่องเศรษฐกิจ มาเตรียมระบบสร้างความรู้ใหม่ๆ ให้คนไทยนำเทคโนโลยีมาเป็นรายได้ มาสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพสามารถเปลี่ยนไอเดียดีๆ ให้เป็นการจ้างงาน เป็นมูลค่า และตนเชื่อว่าทีมเพื่อไทย คือทีมที่ดีที่สุดในด้านเศรษฐกิจ

 

พรรคเพื่อไทย มีนโยบายตั้งองค์กร Thailand Creative Content Agency มาสนับสนุนศักยภาพความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย นโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft power ที่จะสร้างเงินจากความคิดสร้างสรรค์ของคนในแต่ละครอบครัว สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง ที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี


ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Digital Hub แห่งเอเชีย เป็น Food Paradise และสร้าง Festival Tourism ที่จะยกระดับอาหารและสินค้าไทยไปพร้อมกับวัฒนธรรมความคิดสร้างสรรค์ สร้างโอกาส สร้างงานใหม่ อาชีพใหม่ ถึงเวลาแล้วที่เราจะเปลี่ยนจากคนเดิม ๆ คิดแบบเดิม ๆ เป็นคนที่คิดใหญ่ ทำเป็น ต้องเพื่อไทยเท่านั้นครับ” นายอรรฆรัตน์ กล่าวปิดท้าย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66