วันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2566

“ณัฐวุฒิ” ชี้! จากนี้อีก 2 เดือน จะพิสูจน์หัวใจประชาชนว่าเอาหรือไม่เอา “ประยุทธ์” เป็นนายกฯ เตือน “เพื่อไทย” เหลือโอกาสอีกครั้งเดียว ไม่เช่นนั้นก็มีสิทธิ์จบข่าวเหมือนกัน






“ณัฐวุฒิ” ชี้! จากนี้อีก 2 เดือน จะพิสูจน์หัวใจประชาชนว่าเอาหรือไม่เอา “ประยุทธ์” เป็นนายกฯ เตือน “เพื่อไทย” เหลือโอกาสอีกครั้งเดียว ไม่เช่นนั้นก็มีสิทธิ์จบข่าวเหมือนกัน


เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้กล่าวผ่านยูทูป ทางช่อง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official รายการ หัวใจไม่หยุดเต้น EP.72 ในประเด็น : ยุบสภา บอกลาประยุทธ์ ไปแล้วไปลับ พ้นเวทีการเมืองโดย นายณัฐวุฒิ กล่าวในรายการว่า


ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ก็ประกาศยุบสภานะครับ ท่ามกลางความยินดีปรีดาของคนทั้งประเทศ หลายคนถามผมว่าเมื่อยุบสภาแล้วจะร้องเพลงอะไร? ปัดโธ่! คุณก็ถามผมได้ จะไปรู้เหรอครับ เพราะว่าในใจคิดได้แต่เสียงดนตรีทำนองเดียวฮะ (ว่าแล้วก็ร้องทำนองธรณีกรรแสง)


คือสำหรับความรู้สึกผมนะครับ ผมไม่ได้คิดว่าประชาชนกำลังมองเห็นนายกรัฐมนตรียุบสภาเพื่อเตรียมกลับมาใหม่หลังการเลือกตั้ง แต่คนส่วนใหญ่มองว่านี่คือการยุบสภาและลาจากกันชั่วนิรันดร์กับพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี เปิดหัวใจพูดกันตรงนี้เลยนะครับ ผมไม่เชื่อว่าชาวบ้านชาวช่องเขาจะกาเลือกพล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีก แม้ว่าจะมีส.ว. 250 คน คอยเป็นลูกคู่ขานรับอยู่ก็ตาม


การพิสูจน์ความเชื่อนี้ ไม่ช้าไม่นานอะครับ เพราะว่าการเลือกตั้งคิดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม


นับเวลากลม ๆ จากนี้อีกเพียง 2 เดือนเท่านั้นนะครับเป็นว่ารู้เรื่องกัน ไม่มีเกมพิสดารบนดินใต้ดินอะไรที่จะมาขวางมาล้มเลือกตั้งแล้วล่ะครับ ทุกอย่างก็จะเดินไปตามทางนี้


ผมเชื่อว่าบรรยากาศในสนามเลือกตั้ง การแข่งขันหักล้างกันในทางนโยบาย แม้จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ความเข้มข้นจะไม่มากนัก เนื่องจากประชาชนเขาเข้าใจว่าแต่ละพรรคที่ประกาศนโยบายก็ฟังดูน่าตื่นเต้นอะครับ แต่ว่าพรรคที่จะทำได้จริง หมายถึงมีศักยภาพที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มีไม่กี่พรรค และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคที่เคยมีผลงานเป็นรัฐบาลแล้วทำนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนมาแล้ว ยิ่งมีน้อยยิ่งกว่าน้อย


ดังนั้นสิ่งที่จะเข้มข้นกันจริง ๆ คือการใช้อำนาจรัฐ ใช้ทรัพยากรกระสุนดินดำ เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนสนับสนุนจากประชาชน ตรงนี้ชี้ไปเลยครับว่า เครือข่ายพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันนี่แหละ ได้เปรียบเรื่องทรัพยากรและอำนาจต่าง ๆ อู้ฟู้กล้ามใหญ่กันทุกพรรคอะครับ ส่วนอีกข้างหนึ่งคือพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นรองในมิตินี้ แต่ความล้มเหลวของรัฐบาลและนายกฯ มาตลอด 8 ปี นี่คือจุดแข็งซึ่งฝ่ายค้านเขาถือร่วมกันอยู่


ผมเชื่อว่าเราจะเห็นบรรยากาศการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่นะครับ กกต.เขาก็คงไม่เห็นเพราะเขาไม่เคยเห็นมาตลอดอยู่แล้ว แต่การใช้เม็ดเงินในสนามเลือกตั้งทั้งบนดินและใต้ดินจะเกิดขึ่นอย่างน่าสยดสยองแน่นอน


แล้วจากการตระเวนไปปราศรัยของผมทั่วประเทศ ประชาชนเขาพร้อมรับเงินด้วยนะครับ แต่จะเลือกหรือเปล่า คนส่วนใหญ่เขาบอกว่าเขาไม่เลือก เขาคิดที่จะเลือกพรรคการเมืองที่ทำได้จริง และยืนอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลปัจจุบัน เงินมันอาจจะสร้างความฝันให้คนบางคนบางกลุ่มได้นะครับ แต่ซื้อใจคนไม่ได้ ผมเชื่ออย่างงั้น!!!


การย้ายพรรคของนักการเมือง ถ้าจะมีบ้างก็ประปรายกระเส็นกระสายแล้วนะครับ เพราะว่าเขาย้ายกันเสร็จหมดแล้ว แต่พี่พล.อ.ประยุทธ์ต้องยุบก็เพื่อเป็นหลักประกันและเปิดช่องทางกฎหมายให้พวกที่ย้าย ๆ มาลงสมัครได้


หาเสียงกันไปเที่ยวนี้สิ่งที่น่าจะเป็นก็คือ ถึงจุดหนึ่งทั้งประชาชนและพรรคการเมืองจะเห็นภาพเดียวกันว่าจุดตัดสำคัญของการเลือกตั้งคราวนี้อยู่ที่จะ “เอา” หรือ “ไม่เอา” พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี


ถ้าเลือกฝ่ายรัฐบาลปัจจุบัน ก็แน่นอนล่ะครับ ประยุทธ์กลับมา หรือถ้าฝ่ายตรงข้ามเขาชนะไม่เด็ดขาด ประยุทธ์ก็มาอีกเหมือนกัน ดังนั้นพรรคการเมืองซีกรัฐบาลเขาต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้ฝ่ายค้านแลนด์สไลด์ ส่วนพรรคฝ่ายค้านพรรคใดพรรคหนึ่งก็ต้องสู้สุดชีวิตเพื่อแลนด์สไลด์ให้ได้


ถ้าพรรคฝ่ายค้านเขาแลนด์สไลด์แล้วตั้งรัฐบาลได้ เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร, พล.อ.อนุพงษ์ และบรรดานายทหารที่เดินตามกันมา จะกลับบ้านเลี้ยงหลานแน่ ๆ ส่วนพรรคการเมืองที่ทั้งคู่ตั้งเอาไว้ น่าจะถึงคราวอวสาน ไม่ว่าจะบ้านใหม่บ้านใหญ่อยู่ในนั้น ผมว่ากลับบ้านเก่า หมายความว่าภาพความเป็นพรรคเฉพาะกิจจะปรากฎชัดและสูญสลายไปในที่สุด


สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ก้อนคะแนนของฝ่ายอำนาจนิยม/อนุรักษ์นิยม ที่พล.อ.ประยุทธ์ไปเทคโอเวอร์มาจากพรรคประชาธิปัตย์ จะเคลื่อนตัวอย่างไร หาก “รวมไทยสร้างชาติ” กับ “พลังประชารัฐ” มีอันต้องสูญสลาย จะถอยกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเชื่อว่าคุณอภิสิทธิ์แกก็นั่งลุ้นอยู่ เพราะหากเลือกตั้งคราวนี้ประชาธิปัตย์ได้เท่าเดิมหรือน้อยกว่าเดิม จะเห็นคุณอภิสิทธิ์ยกพวกมาเทคโอเวอร์ประชาธิปัตย์อีกทีแน่ ๆ

หรือก้อนคะแนนนี้จะเดินหน้าต่อไป สนับสนุนฝ่ายเสรีนิยมฝ่ายประชาธิปไตย ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป นักสังเกตการทางการเมืองทั้งหลายก็จับตามุมนี้อยู่เหมือนกันนะครับ


แต่พูดก็พูดเถอะครับ ในซีกฝ่ายประชาธิปไตย ผมว่าพรรคเพื่อไทยก็เหลือโอกาสครั้งเดียวเหมือนกันนะครับ คือเที่ยวนี้ถ้าแลนด์สไลด์ ตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยได้ แล้วใช้นโยบายแก้ปัญหาประชาชนถูกจุด หลักการประชาธิปไตยถูกต้อง ก็ไปต่อได้ยาว ๆ แต่ถ้าไม่เช่นนั้นมีสิทธิ์จบข่าวเหมือนกันนะครับผมว่า


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ณัฐวุฒิใสยเกื้อ #เลือกตั้ง66