วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2566

ชาวกรุงเก่าแห่ฟังเพื่อไทยแน่น ‘แพทองธาร’ ประกาศหมดเวลาหน้ากากคนดี ต้องคนเก่งบริหารประเทศหลุดพ้นความจน ‘เศรษฐา’ ขออาสานำพาความเจริญสู่ ปชช.

 


ชาวกรุงเก่าแห่ฟังเพื่อไทยแน่น ‘แพทองธาร’ ประกาศหมดเวลาหน้ากากคนดี  ต้องคนเก่งบริหารประเทศหลุดพ้นความจน  ‘เศรษฐา’ ขออาสานำพาความเจริญสู่ ปชช.


วันที่ 23 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัย อยุธยา คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ที่ตลาดน้ำอโยธยา อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยอดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายจิรทัศ ไกรเดชา และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล, นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล, นายองอาจ วชิรพงศ์, นายอาทิตย์ ภาคอินทรีย์ ท่ามกลางประชาชนเข้ามาฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่เกือบ 20,000 คน 


นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รายได้ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสูงเป็นลำดับ 3 ประเทศ รายได้ต่อคนสูงเป็นลำดับ 6 ของประเทศ โดยมีรายได้อยู่ที่ 490,000 บาทต่อปี หรือเดือนละ 40,000 บาท แต่ในความเป็นจริงเมื่อได้สอบถามชาวอยุธยาพบว่า ไม่มีใครมีรายได้ถึง 40,000 บาท ปัจจุบันได้ค่าแรงแค่ 300-400 บาทเท่านั้น จึงมีความสงสัยถึงที่มาของตัวเลขดังกล่าว เหตุใดจึงมีรายได้จริงต่ำกว่า 20,000 บาท ดังนั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยเข้ามา จะทำให้พี่น้องมีรายได้ขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันให้ได้ และครอบครัวไหนมีเงินรายได้ต่อครัวเรือนต่ำกว่า 20,000 บาท เราจะเติมเงินในกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล กระตุ้นเศรษฐกิจ


“เราจะกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ พาพี่น้องคนไทยออกจากไอซียูให้ได้ เลือกพรรคเพื่อไทย ทั้ง 2 ใบ เลือกทั้งคนทั้งพรรค เพื่อไล่ประยุทธ์ออกไป เอาอนาคตกินดีอยู่ดี รายได้ที่ดี อนาคตลูกหลานได้เรียนหนังสือกลับมา” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า อยุธยาเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ พี่น้องประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรมายาวนาน แต่กลับเป็นหนี้เป็นสินมากมาย พรรคเพื่อไทยจึงขอนำเสนอนโยบายที่จะแก้ไขชีวิตความเป็นอยู่ให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งการนำเทคโนโลยีการเกษตรเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระของพี่น้องเกษตรกรให้เหนื่อยน้อยลง แต่มีรายได้มากขึ้น เพราะ 8 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนเหนื่อยมาพอแล้ว พรรคเพื่อไทยจึงนำเสนอนโยบายดีๆ มากมาย อย่าง ‘ขึ้นค่าแรง 600 บาท’ ที่เพื่อไทยจะทำให้ได้ก่อนปี 2570 และทำได้แน่นอน รวมถึงขออาสาให้พรรคเพื่อไทยเป็น เซลล์แมน นำสินค้าเกษตรไปขายในตลาดทั่วโลกให้พี่น้องประชาชน


“พอกันทีกับปัญหาความยากจน ดั่งคำกล่าวอยุธยาไม่สิ้นคนดี แต่วันนี้เราไม่ต้องการหน้ากากคนดี เราต้องการคนเก่งเข้ามาบริหารประเทศ คืนชีวิตที่กินดีอยู่ดีให้พี่น้องประชาชน เรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะทำทันทีหลังมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ขอโอกาสชาวอยุธยาเลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งคน ทั้งพรรค ให้แลนสไลด์ทั้งจังหวัด” นางสาวแพทองธาร กล่าว


นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีโบราณสถานมากมาย มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แสดงว่าการท่องเที่ยวน่าจะดี แต่เพราะผู้นำที่ไร้สมรรถภาพ ทำให้การท่องเที่ยวตกต่ำ รายได้หดหาย ซ้ำรัฐบาลยังไม่สามารถบริหารจัดการปัญหาของประเทศชาติได้ อยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใด เพื่อไทยก็ไม่สิ้นนโยบายดี ๆ ฉันนั้น นับตั้งแต่ไทยรักไทย จนมาถึงเพื่อไทย เราใช้นโยบายนำพาความเจริญมาให้พี่น้องประชาชนโดยตลอด ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่ดี มาเสนอ 3 นโยบาย ได้แก่ นโยบายเติมเงิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน นโยบายเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ใช้จ่ายในพื้นที่ท้องถิ่น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะโคม่าให้ฟื้นคืนชีวิต ปั๊มหัวใจคนไทยให้มีศักดิ์ศรีและกินดีอยู่ดีอีกครั้ง เพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าในเวลา 4 ปี  และ ยังมีทางออกสำหรับ PM 2.5 ที่ส่วนหนึ่งมาจากกรเผา 


“คนอยุธยาส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร มีอาชีพหลักทำนา ผมมาอยุธยาเป็นที่แรกหลังเข้ามาสู่เวทีการเมือง ได้มาฟังปัญหาการทำนา นำไปปรึกษาหารือทีมเศรษฐกิจ ปัญหาข้อหนึ่งพบว่า มีเรื่อง PM 2.5 ที่เป็นปัญหาใหญ่ทั่วประเทศ มีคนว่าเพราะอยุธยาทำนาเสร็จก็เผา ทำให้เกิด PM 2.5 ที่เป็นปัญหาใหญ่ทั่วประเทศ มีคนว่าเพราะอยุธยาทำนาเสร็จก็เผา ทำให้เกิด PM 2.5 พรรคเพื่อไทยจะช่วยพี่น้องด้วยการใช้นวัตกรรม ทำให้ไม่ต้องเผา แต่จะใช้จุลินทรีย์ทำลายซากข้าวแทน ถ้าอยากได้นโยบายดี ๆ 14 พฤษภาคมนี้ โปรดเลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 5 เขต ให้แลนด์สไลด์ทั้งอยุธยา" นายเศรษฐากล่าว


นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ยังวงเวียนอยู่กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังมีภาพเผยแพร่โดยทั่วไปว่าพรรคการเมืองสองพรรคกินข้าวกัน  มีคนไปถามรัฐมนตรีคนหนึ่งยอมรับว่า หากพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ แล้วจะไปร่วมกับใคร แสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะตั้งรัฐบาลโดยเอาพลเอกประยุทธ์ มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง


เหลือแต่พี่น้องประชาชนที่ยืนอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย และเลือกพรรคการเมืองที่ทำนโยบายได้จริงอย่างพรรคเพื่อไทย จะร่วมแสดงพลังให้เห็นอีกครั้งว่า รัฐบาลที่ทำความเสียหายให้ประเทศจะกลับมาบริหารประเทศอีกไม่ได้แล้ว รัฐบาลหน้าต้องเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยเท่านั้น ซึ่งคือพรรคเพื่อไทย


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทำงานกันอย่างเต็มที่ แม้แต่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยอุ้มครรภ์ 8 เดือนเต็ม ยังไปทุกเวทีที่ไปได้ ส่วนทีมเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ ขยันคิดทำงานสร้างนโยบายเพื่อพลิกชีวิตพี่น้องให้ฟื้นจากความยากลำบาก พรรคอื่นจะประกาศนโยบายมากี่นโยบาย คนไม่เคยเชื่อถือ เพราะไม่เคยทำสำเร็จเป็นรูปธรรม ยกตัวอย่างพรรคพลังประชารัฐเคยประกาศค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาทเมื่อปี 2562 จนถึงตอนนี้ก็ยังทำไม่สำเร็จ แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570 พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นทันทีว่าเราทำได้ แม้แต่ร้านบะหมี่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยายังขึ้นป้ายทันทีว่าพร้อมจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570 ทันที


“นี่คือตัวอย่างความเชื่อมั่นในนโยบายพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ความอยู่ดีกินดี ราคาพืชผลการเกษตรราคาข้าวจะเพิ่มขึ้น เงินในกระเป๋าดิจิทัลพี่น้องจะกลับมา กาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ตัดสินใจให้ชัด เลือกเพื่อไทยเท่านั้น เลือกคนอื่นเท่ากับได้ประยุทธ์แน่นอน” นายณัฐวุฒิกล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66