วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2565

อดิศร เพียงเกษ : อาลัย “วัฒน์ วรรลยางกูร”

 


งานไว้อาลัย #วัฒน์วรรลยางกูร


อดิศร เพียงเกษ : อาลัย “วัฒน์ วรรลยางกูร”


กราบเรียนดวงวิญญาณของคุณวัฒน์ วรรลยางกูร กราบเรียนลูก ๆ ของคุณวัฒน์ สหายร่วมรบที่เคารพครับ


ผมกับ วัฒน์ วรรลยางกูร มีความใกล้ชิดกับด้านอุดมการณ์ ท่านเข้าป่าไปเป็นทหาร พคท. กระผมพร้อมทั้งครอบครัวเพียงเกษ นำโดยนายทองปักษ์ เพียงเกษ พ่อผมและแม่ พี่น้อง 9 คน ก็เข้าร่วมต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเหมือนกัน อยู่ในป่าเราไม่รู้จักกันครับ เพราะเราอยู่กันคนละที่ ผมอยู่ 5/1 ชายแดนอีก 40 กม. ถึงประเทศจีน กับคุณวิสา คัญทัพ ทำงานด้านวัฒนธรรม ทำงานเรื่องเพลง


ออกมาเมื่อเขาให้ออกมา เราก็ออกมาอยู่ในเมือง ตอนหลังถึงมาทราบว่าภรรยาของคุณวัฒน์คือคุณเล็ก กับภรรยาของผม “สหายนา” หรือ ส.ส.เยาวนิตย์ เพียงเกษ เรียนอยู่ที่เกษตรศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ด้วยกัน เราจึงมีความสัมพันธ์ผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ไปเยี่ยมซึ่งกันและกัน ตอนนั้นคุณวัฒน์ยังแม่แตะแอลกอฮอล์นะครับ เป็นนักเขียนที่ดี หลังจากคบกับผมก็เสียคนเลยครับ เริ่มร่ำแอลกอฮอล์เพราผมเป็นทนายความออกจากป่ามา เราจึงมีความผูกพันกันมาก


กระผมสูญเสียน้องคนหนึ่งคือนายอดิศวร เพียงเกษ “สหายหมอก” ที่จังหวัดน่าน จนป่านนี้ก็ยังหากระดูกไม่ได้นะครับ วันนี้ก็เลยถือโอกาสเอาวันที่เอากระดูกคุณวัฒน์มาจากฝรั่งเศสพร้อมทั้งกระดูกของสหายหมอกทำงานร่วมกันในวันนี้ด้วย


ท่านทั้งหลายครับ ความผูกพันกับครอบครัวผม คุณวัฒน์มีข้อเขียนมากมาย ทั้งเรื่องสั้น เรื่องยาว ภาพยนตร์ คุณวัฒน์ให้เกียรติเขียนหนังสือเล่มหนึ่งให้แก่คุณพ่อทองปักษ์ เพียงเกษ ไล่เลี่ยกับเขียนหนังสือให้กับคุณไขแสง สุกใส งานเขียนของเขาชื่อว่า ลูกบ้านนอกหำบ่หด ทองปักษ์ เพียงเกษ สารนิยายชีวิตบนทางดาว ขาวชมพูแดงเขียว วัฒน์ วรรลยางกูร หนังสือเล่มนี้ผมไม่คิดว่าจะเป็นหนังสืออนุสรณ์งานศพคุณพ่อผมเมื่อปี 54 ณ วันนี้ผมเชื่อมั่นว่าทั้งสหายนุ่ม ทองปักษ์ เพียงเกษ และสหายร้อย กำลังร่ำสุรากันอยู่บนสรวงสวรรค์ครับ


ที่พูดนี้การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุดครับ การต่อสู้ต้องรุ่นต่อรุ่น เราไม่เคยได้รับชัยชนะเลยนะครับ มีแต่ความพ่ายแพ้ แต่ความพ่ายแพ้มันเป็นบทเรียนให้เราเข้มแข็งขึ้น ผมเองหลังพฤษภา53 ก็ลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศเหมือนกันเป็นปี กลับมาก็ถูกฟ้องเป็นผู้ก่อการร้าย ทั้ง ๆ ที่เพียงแต่เป่าแคนเฉย ๆ มันโหดเหี้ยมครับ รุ่นต่อรุ่นต้องส่งงานให้กัน ทุกรุ่นเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งนั้นที่จะเสริมงานของคุณวัฒน์ วรรลยางกูร เสริมงานของประชาชนประชาธิปไตยให้เข้มแข็งต่อไป คุณวัฒน์เขียนเพลง “จากลานโพธิ์ถึงภูพาน” ผมเขียนเพลง “ลูกจะกลับพร้อมกับชัย” ผมขออนุญาตแนะนำนักร้องเสียงดี คุณรัตนา มฤคพิทักษ์ “สหายแขก” เราก็ต่อสู้เขียนเพลง คำเรียกร้องของเลขาธิการร่วมกัน เราเป็นศิลปิน ทุกคนต้องตามไปอยู่กับวัฒน์ครับ แต่ภารกิจเพื่อประวัติศาสตร์ทางประชาธิปไตยต้องดำเนินการต่อไป


ขอให้ดวงวิญญาณของเพื่อนของสหายอยู่บนแดนสวรรค์ที่มีเสรี ลูก ๆ ที่อยู่นี่ผมจะทำหน้าที่เป็นพ่อเอง เพราะผมเคยทำหน้าที่เป็นพ่อ สู่ขอลูกสะใภ้ให้แล้ว จะทำหน้าที่แทนคุณเล็กและทำหน้าที่แทนคุณวัฒน์ วรรลยางกูร ขอให้คุณวัฒน์ วรรลยางกูร จงมีความสุขเพราะคุณยังไม่ตาย คุณยังยืนอยู่อนุสรณ์สถาน 14ตุลา2516 คุณยิ่งใหญ่เกินกว่ามนุษย์ที่มันยึดอำนาจประชาชนไป ปรบมือให้ “วัฒน์ วรรลยางกูร” ครับ


“วัฒน์ วรรลยางกูร” ยังไม่ตายครับ!


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์