ศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนประกัน
“ทานตะวัน” เหตุโพสต์กำหนดการขบวนเสด็จเมื่อ 17 มี.ค. มีจุดประสงค์สร้างความวุ่นวายแก่บ้านเมือง
วันนี้
(20 เม.ย. 65) เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
ศาลนัดฟังคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว คดีดำฝากขัง ฝ. 252/2565 ที่พนักงานสอบสวน
สน.นางเลิ้ง ยื่นคำร้อง ขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวัน”
นักเคลื่อนไหวอิสระ อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวัง
ผู้ต้องหาคดีดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญา มาตรา
112
กรณีวันที่
5 มี.ค. 65 ผู้ต้องหาโพสต์เฟซบุ๊ก มีเจตนาพิเศษ ด้อยค่าสถาบัน ฯ ตาม ป.อาญามาตรา
112, ม.138 ว.2 ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ม.368
ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานและความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
คดีนี้ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา
โดยวางหลักทรัพย์ 1 แสนบาท ให้ใส่กำไลอีเอ็ม และห้ามกระทำการอันเป็นการเสื่อมพระเกียรติ
นายกฤษฎางค์
นุตจรัส ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า
เรื่องนี้ศาลได้มีการนัดไต่สวนไป ทั้งพนักงานสอบสวนและสายสืบของกองสันติบาล
ในความเห็นของตนเนื้อหาที่ทางด้านพนักงานสอบสวนร้องมา
ไม่มีเรื่องใดที่เป็นการผิดเงื่อนไขของศาล เนื่องจาก “ทานตะวัน” ได้โพสต์ เฟซบุ๊ก เช่น
มีตำรวจคอยติดตามดู มีการกักรถไว้ตอนที่กำลังจะไปเรียนหนังสือ
เนื่องจากมีขบวนเสด็จผ่านตามที่ตำรวจกล่าวอ้าง
แต่เรื่องทั้งหมดนั้นเป็นการรายงานจากสายสืบ ไม่ได้เกี่ยวพันกับการหมิ่นสถาบัน
แต่ประเด็นหลักที่ทางพนักงานสอบสวนนำเสนอ คือ “ตะวัน”ได้โพสต์เวลาขบวนเสด็จของในหลวงและพระราชินี
ที่จะเสด็จไปวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นประกาศของทางราชการอยู่แล้ว
มีการโยงไปถึงเรื่องเก่าอย่าง
การที่เคยทำโพลว่าขบวนเสด็จทำให้ประชาชนเดือดร้อนหรือไม่
ซึ่งกรณีนี้เป็นคดีความอยู่แล้วที่ศาลอาญากรุงเทพฯใต้
นายกฤษฎางค์
กล่าวว่า ตนยังได้ขอศาลว่า “ทานตะวัน”
ยังเป็นผู้ต้องหาที่ถูกฝากขังอยู่ในอำนาจของศาล
แต่มีการตามติดชีวิตในภายหลังนั้นอาจผิดกฎหมายได้
ตนจึงแถลงขอให้ศาลให้ความคุ้มครอง อย่างเช่น ตักเตือนพนักงานสอบสวน
กับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขอให้ศาลมีคำสั่งด้วย
อย่างไรก้ตามทางตำรวจเองก็ได้ยอมรับว่า “ทานตะวัน” จะต้องเดินทางไปเรียนภาษาในย่านราชดำเนินกลาง
ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีขบวนเสด็จผ่านไปบ่อย ๆ
แต่ก็ไม่ใช่เป็นเหตุที่ต้องมาจำกัดสิทธิ์
เพราะศาลไม่ได้ห้ามไม่ให้เดินทางเข้าไปในเขตพระนคร
สำหรับการฟังคำสั่งวันนี้ตนไม่มีความหนักใจ
ด้าน
“ทานตะวัน” เปิดเผยว่า มีการคุกคามโดย
จะมีการมีชายหัวเกรียนมาคอยเฝ้าหน้าบ้านจอดรถตามซอกซอย
และขับรถติดตามเวลาเดินทางออกนอกบ้าน พบแบบนี้หลายครั้ง อย่างล่าสุดมีกรณีที่
ทางคนติดตามได้ขับรถและปาดหน้ารถยนต์ของตนที่นั่งอยู่ซึ่งเป็นเรื่องตนรู้สึกว่าอันตรายมาก
ๆ ส่วนที่แน่ใจได้ว่าเป็นทางตำรวจจริง
เนื่องจากมีทางตำรวจสันติบาลโทรมาระบุว่าผู้ที่ติดตามเป็นรุ่นน้องของเขาเอง
ที่ผ่านมาตนได้พยายามจะขอเจรจาพูดคุยกับคนที่ติดตามว่าทำไปเพื่ออะไร แต่ว่าเขาไม่ยอมลงมาตอบคำถาม
หรือคุยกับเราเลย เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง
“ทานตะวัน”
กล่าวต่อว่า การใส่กำไล EM
นั้นทำให้เกิดความไม่สะดวกหลายประการ
อย่างเช่นกรณีแบตหมดที่เร็วมากบางครั้งต้องตื่นมากลางดึกเพื่อชาร์ทแบต
และก็เวลาอาบน้ำทำความสะอาดไม่สะดวก เช็ดล้างยาก จึงได้ปรึกษากับทนายแล้วว่า
เมื่อเวลาผ่านไปอีกสักระยะ อาจมีการขอถอดกำไลอีเอ็มออก
เนื่องจากศาลมีเงื่อนไขกำหนดหลายข้ออยู่แล้ว และไม่คิดหลบหนีไปไหนแน่นอน
เพราะกำลังวางแผนจะศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะนิติศาสตร์
ในเวลาต่อมา
ศาลได้อ่านคำสั่งโดยศาลพิเคราะห์เเล้วเห็นว่า
ตามคำร้องและเอกสารท้ายคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
ปรากฏภาพของผู้ต้องหาโพสต์หมายกำหนดการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินี
เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชทานน้ำหลวงสรงศพเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต
ซึ่งเป็นหมายกำหนดการของวันที่ 17 มี.ค.65 แสดงว่าผู้ต้องหาทราบหมายกำหนดการเสด็จแล้ว
แต่ผู้ต้องหายังคงเดินทางไปบริเวณที่มีการเสด็จตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น.
และอยู่ในบริเวณดังกล่าวจนถึงเวลาประมาณ 19.00 น.
ตลอดระยะเวลาที่ผู้ต้องหาอยู่ในบริเวณดังกล่าวผู้ต้องหาโพสต์ข้อความบรรยายถึงพื้นที่โดยรอบ
โดยมิได้มุ่งหมายเข้าร่วมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง
แม้ผู้ต้องหาจะระบุข้อความว่า
“จะไปกินแมคก็ไม่ยอมให้ไปเพราะขบวนเสด็จพ่อหลวงจะผ่านตรงนั้นทรงพระเจริญ”
ตามเอกสารท้ายคำร้องแต่หากผู้ต้องหาต้องการไปรับประทานอาหารจริงผู้ต้องหาสามารถระบุสถานที่รับประทานอาหารได้ตั้งแต่เวลา
17.00 น. และหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวได้
แต่ไม่ได้ทำเช่นนั้นผู้ต้องหามุ่งที่จะเข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ
ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
อีกทั้งการที่ผู้ต้องหาโพสต์ภาพตามเอกสารท้ายคำร้องพร้อมบรรยายข้อความว่า
“ขบวนเสด็จเดือดร้อน?”
แม้จะเป็นภาพที่ผู้ต้องหาเคยโพสต์มาก่อน
แต่ผู้ต้องหาก็เลือกที่จะโพสต์ภาพดังกล่าวได้อีกหรือไม่ก็ได้
การที่ผู้ต้องหาเลือกโพสต์ข้อความดังกล่าวอีกครั้งถือว่าผู้ต้องหากระทำการในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้
อีกทั้งผู้ต้องหารับข้อเท็จจริงว่าเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 65 และวันที่ 15 เม.ย. 65
ผู้ต้องหาได้เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการรับเสด็จตามเอกสารที่ศาลให้ตรวจดู
ถือว่าเป็นการเข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
จึงให้เพิกถอนคำสั่งคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา
ซึ่งในเวลาต่อมาเมื่อศาลออกหมายขัง
ได้มีรถจากเรือนจำทัณฑสถานหญิงกลางควบคุมตัว “ทานตะวัน” ออกไป
#ทานตะวัน #มาตรา112
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์