วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2565

ศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนประกัน “ทานตะวัน” เหตุโพสต์กำหนดการขบวนเสด็จเมื่อ 17 มี.ค. มีจุดประสงค์สร้างความวุ่นวายแก่บ้านเมือง

 


ศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนประกัน “ทานตะวัน” เหตุโพสต์กำหนดการขบวนเสด็จเมื่อ 17 มี.ค. มีจุดประสงค์สร้างความวุ่นวายแก่บ้านเมือง


วันนี้ (20 เม.ย. 65) เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว คดีดำฝากขัง ฝ. 252/2565 ที่พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ยื่นคำร้อง ขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวัน” นักเคลื่อนไหวอิสระ อดีตสมาชิกกลุ่มทะลุวัง  ผู้ต้องหาคดีดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญา มาตรา 112


กรณีวันที่ 5 มี.ค. 65 ผู้ต้องหาโพสต์เฟซบุ๊ก มีเจตนาพิเศษ ด้อยค่าสถาบัน ฯ ตาม ป.อาญามาตรา 112, ม.138 ว.2 ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ม.368 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานและความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ


คดีนี้ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยวางหลักทรัพย์ 1 แสนบาท ให้ใส่กำไลอีเอ็ม และห้ามกระทำการอันเป็นการเสื่อมพระเกียรติ


นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า เรื่องนี้ศาลได้มีการนัดไต่สวนไป ทั้งพนักงานสอบสวนและสายสืบของกองสันติบาล ในความเห็นของตนเนื้อหาที่ทางด้านพนักงานสอบสวนร้องมา ไม่มีเรื่องใดที่เป็นการผิดเงื่อนไขของศาล เนื่องจาก “ทานตะวัน” ได้โพสต์ เฟซบุ๊ก เช่น มีตำรวจคอยติดตามดู มีการกักรถไว้ตอนที่กำลังจะไปเรียนหนังสือ เนื่องจากมีขบวนเสด็จผ่านตามที่ตำรวจกล่าวอ้าง แต่เรื่องทั้งหมดนั้นเป็นการรายงานจากสายสืบ ไม่ได้เกี่ยวพันกับการหมิ่นสถาบัน แต่ประเด็นหลักที่ทางพนักงานสอบสวนนำเสนอ คือ “ตะวัน”ได้โพสต์เวลาขบวนเสด็จของในหลวงและพระราชินี ที่จะเสด็จไปวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นประกาศของทางราชการอยู่แล้ว มีการโยงไปถึงเรื่องเก่าอย่าง การที่เคยทำโพลว่าขบวนเสด็จทำให้ประชาชนเดือดร้อนหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้เป็นคดีความอยู่แล้วที่ศาลอาญากรุงเทพฯใต้


นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ตนยังได้ขอศาลว่า “ทานตะวัน” ยังเป็นผู้ต้องหาที่ถูกฝากขังอยู่ในอำนาจของศาล แต่มีการตามติดชีวิตในภายหลังนั้นอาจผิดกฎหมายได้ ตนจึงแถลงขอให้ศาลให้ความคุ้มครอง อย่างเช่น ตักเตือนพนักงานสอบสวน กับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขอให้ศาลมีคำสั่งด้วย อย่างไรก้ตามทางตำรวจเองก็ได้ยอมรับว่า “ทานตะวัน” จะต้องเดินทางไปเรียนภาษาในย่านราชดำเนินกลาง ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีขบวนเสด็จผ่านไปบ่อย ๆ แต่ก็ไม่ใช่เป็นเหตุที่ต้องมาจำกัดสิทธิ์ เพราะศาลไม่ได้ห้ามไม่ให้เดินทางเข้าไปในเขตพระนคร สำหรับการฟังคำสั่งวันนี้ตนไม่มีความหนักใจ


ด้าน “ทานตะวัน” เปิดเผยว่า มีการคุกคามโดย จะมีการมีชายหัวเกรียนมาคอยเฝ้าหน้าบ้านจอดรถตามซอกซอย และขับรถติดตามเวลาเดินทางออกนอกบ้าน พบแบบนี้หลายครั้ง อย่างล่าสุดมีกรณีที่ ทางคนติดตามได้ขับรถและปาดหน้ารถยนต์ของตนที่นั่งอยู่ซึ่งเป็นเรื่องตนรู้สึกว่าอันตรายมาก ๆ ส่วนที่แน่ใจได้ว่าเป็นทางตำรวจจริง เนื่องจากมีทางตำรวจสันติบาลโทรมาระบุว่าผู้ที่ติดตามเป็นรุ่นน้องของเขาเอง ที่ผ่านมาตนได้พยายามจะขอเจรจาพูดคุยกับคนที่ติดตามว่าทำไปเพื่ออะไร แต่ว่าเขาไม่ยอมลงมาตอบคำถาม หรือคุยกับเราเลย เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง


“ทานตะวัน” กล่าวต่อว่า การใส่กำไล EM นั้นทำให้เกิดความไม่สะดวกหลายประการ อย่างเช่นกรณีแบตหมดที่เร็วมากบางครั้งต้องตื่นมากลางดึกเพื่อชาร์ทแบต และก็เวลาอาบน้ำทำความสะอาดไม่สะดวก เช็ดล้างยาก จึงได้ปรึกษากับทนายแล้วว่า เมื่อเวลาผ่านไปอีกสักระยะ อาจมีการขอถอดกำไลอีเอ็มออก เนื่องจากศาลมีเงื่อนไขกำหนดหลายข้ออยู่แล้ว และไม่คิดหลบหนีไปไหนแน่นอน เพราะกำลังวางแผนจะศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะนิติศาสตร์


ในเวลาต่อมา ศาลได้อ่านคำสั่งโดยศาลพิเคราะห์เเล้วเห็นว่า ตามคำร้องและเอกสารท้ายคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ปรากฏภาพของผู้ต้องหาโพสต์หมายกำหนดการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชทานน้ำหลวงสรงศพเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต ซึ่งเป็นหมายกำหนดการของวันที่ 17 มี.ค.65 แสดงว่าผู้ต้องหาทราบหมายกำหนดการเสด็จแล้ว แต่ผู้ต้องหายังคงเดินทางไปบริเวณที่มีการเสด็จตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. และอยู่ในบริเวณดังกล่าวจนถึงเวลาประมาณ 19.00 น. ตลอดระยะเวลาที่ผู้ต้องหาอยู่ในบริเวณดังกล่าวผู้ต้องหาโพสต์ข้อความบรรยายถึงพื้นที่โดยรอบ โดยมิได้มุ่งหมายเข้าร่วมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง แม้ผู้ต้องหาจะระบุข้อความว่า “จะไปกินแมคก็ไม่ยอมให้ไปเพราะขบวนเสด็จพ่อหลวงจะผ่านตรงนั้นทรงพระเจริญ” ตามเอกสารท้ายคำร้องแต่หากผู้ต้องหาต้องการไปรับประทานอาหารจริงผู้ต้องหาสามารถระบุสถานที่รับประทานอาหารได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. และหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวได้ แต่ไม่ได้ทำเช่นนั้นผู้ต้องหามุ่งที่จะเข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง


อีกทั้งการที่ผู้ต้องหาโพสต์ภาพตามเอกสารท้ายคำร้องพร้อมบรรยายข้อความว่า “ขบวนเสด็จเดือดร้อน?” แม้จะเป็นภาพที่ผู้ต้องหาเคยโพสต์มาก่อน แต่ผู้ต้องหาก็เลือกที่จะโพสต์ภาพดังกล่าวได้อีกหรือไม่ก็ได้ การที่ผู้ต้องหาเลือกโพสต์ข้อความดังกล่าวอีกครั้งถือว่าผู้ต้องหากระทำการในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ อีกทั้งผู้ต้องหารับข้อเท็จจริงว่าเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 65 และวันที่ 15 เม.ย. 65 ผู้ต้องหาได้เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการรับเสด็จตามเอกสารที่ศาลให้ตรวจดู ถือว่าเป็นการเข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จึงให้เพิกถอนคำสั่งคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา


ซึ่งในเวลาต่อมาเมื่อศาลออกหมายขัง ได้มีรถจากเรือนจำทัณฑสถานหญิงกลางควบคุมตัว “ทานตะวัน” ออกไป


#ทานตะวัน #มาตรา112

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์