อ.ธิดา
ถาวรเศรษฐ :
12ปีรำลึกเมษาพฤษภา53
สวัสดีค่ะ
สวัสดีทุกท่านที่นี่และท่านผู้ชมทางบ้าน ขอขอบพระคุณทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้
ทั้งประชาชนคนเสื้อแดง ทั้งเยาวชนคนหนุ่มสาว รวมทั้งพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย
พวกท่านที่มา ณ ที่นี้
และเฝ้าชมอยู่ทางบ้านก็คือนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงค่ะ
ในนามของคณะผู้จัดงานรวมทั้งญาติวีรชน
เราจึงขอขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่ง เราจัดรำลึกวีรชนสดุดีวีรชนเมษาพฤษภา2553 มาทุกปี
12 ปี ไม่เคยลืม!
และในปี 53 เราจัดทุกเดือน ทุกวันที่ 10 ทุกวันที่ 19
ขณะที่แกนนำอยู่ในเรือนจำ อาจารย์ธิดาและรวมทั้งพี่น้องคนเสื้อแดง
จัดชุมนุมที่ราชประสงค์บ้างแล้วเดินมาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
แล้วก็เดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปราชประสงค์ ทำอย่างนี้ทุกวันที่ 10, 19
ทุกเดือน จนกระทั่งแกนนำออกมาจากเรือนจำหลังจากติดอยู่ 9 เดือน
จากนั้นเราก็เดินทางทั่วประเทศ
ดังนั้น
หมายความว่าอะไร หมายความว่าคนเสื้อแดง ประชาชน ไม่เคยลืมการต่อสู้เมษาพฤษภา
ไม่เคยลืมวีรชนคนที่ล้มตาย คนที่บาดเจ็บ คนที่ติดคุกถูกคุมขังอยู่
เราทำทุกอย่างในเวลานั้น และทำแบบนั้นมาจนถึงบัดนี้ 12 ปีมาแล้วค่ะ
ไม่ใช่ว่าม็อบทุกม็อบ ไม่ใช่ว่าทุกกลุ่มจะทำแบบเรา
บางกลุ่มทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ในวันที่เกิดขึ้น เพราะผู้คนที่ล้มตายไม่ใช่คนของเขา
กลายเป็นว่าคนเสื้อแดงที่ล้มตาย แล้วจับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปเอานกหวีดมาใส่ ดังนั้นไม่มีการจัดพิธีรำลึก
เพราะถ้ารำลึกกลายเป็นว่าคนที่ตายไม่ใช่คนในม็อบ
หรือเป็นการตายที่ไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่
เราพูดอย่างนี้และเราชูคำขวัญ
“12ปียังไม่มีความยุติธรรม” ทำไม? ทำไมไม่มีความยุติธรรม
เพราะประชาชนยังไม่มีอำนาจจริง เพราะบ้านเมืองนี้ยังไม่มีระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
ถ้าอำนาจเป็นของประชาชนเมื่อไหร่ ความยุติธรรมของประชาชนจึงจะเกิดขึ้น
มันจึงเกิดมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน กระทำกับคนรุ่นก่อน ๆ แล้วคนสั่งการลอยนวล
ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่รัฐต้องรับผิดจากการฆ่าประชาชนมาครั้งแล้วครั้งเล่า
นับจะร่วมร้อยปีมาแล้ว จนถึงปัจจุบัน ไม่ฆ่าเพราะฆ่าไม่ได้ แต่ก็จับกุมคุมขังหมด
ดังนั้น
เราจะไม่ทวงถามความยุติธรรม
เพราะประชาชนเท่านั้นที่จะต้องเอาความยุติธรรมกลับมาด้วยตัวเอง
ไม่ใช่ด้วยการร้องขอ ขอเท่าไหร่เขาไม่ให้
เพราะสิ่งที่ต้องการก็คืออำนาจยังไม่ใช่ของประชาชน อำนาจที่มีอยู่ในเวลานี้ยังเป็นอำนาจที่กระทำกับประชาชนโดยเครือข่ายของจารีตและอำนาจนิยม
ก็ยังเป็นคนชุดเดิม ยังเป็นเครือข่ายเดิมสิบกว่าปีมาแล้วจนถึงปัจจุบันนี้
ดังนั้น
ถ้าคุณจะเรียกร้องความยุติธรรม ประการแรก คุณต้องไปร่วมต่อสู้กับประชาชนให้อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
คุณถึงจะได้ความยุติธรรม คุณนั่งทวงความยุติธรรมเฉย ๆ ต่อให้คุณมาเท่าไหร่
คุณโดนไปแล้วกี่ปีไม่มีประโยชน์
มีอย่างเดียวคือร่วมการต่อสู้เคลื่อนไหวกับประชาชนให้ประเทศนี้เคลื่อนไปในทิศทางที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนไทยอย่างแท้จริง
ไม่ใช่หลอก ๆ แบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
และการที่เขาไม่ได้ลงจากอำนาจ
ครองอำนาจมาจนจะครบ 8 ปี อีกไม่กี่วัน ก็มีคนกล่าวหาได้ว่า
หรือว่ากลัวจะถูกเช็คบิล คดีความยังไม่หมดอายุหรือเปล่า? ก็สามารถคิดได้
เพราะในช่วงที่เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ในช่วงนั้นการไต่สวนการตายของผู้ตายทั้งหมด 20 กว่าศพ ก็พัฒนามาเป็นลำดับ
จนกระทั่งศาลตัดสินและไต่สวนออกมามีข้อสรุปว่าคนตายไม่มีอาวุธ
การตายเกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด ไม่มีเขม่าดินปืน ไม่มีอาวุธ
ไม่มีกระสุนยิงสวนมา ไม่ว่าจะเป็นการตายที่เมษาหรือพฤษภา แม้กระทั่ง 6 ศพวัดปทุมฯ
แต่หลังจากนั้นเมื่อมีการรัฐประหารมี
2557 คดีเหล่านี้ก็จะถูกซุก คนสั่งฆ่าก็ยังลอยนวล เพราะป.ป.ช.ชุดนี้ทำตัวเป็นศาล
ไม่ส่งต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ สงสัยไม่ผิดจริยธรรมมั้ง หรือยังไง? ดังนั้น
เพียงชั่วเวลาที่เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจำนวนหนึ่ง
มันก็มีการขยับขับเคลื่อนในการที่จะดำเนินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
แต่รัฐประหารก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบหมด มาจนถึงบัดนี้
ดังนั้น
วีรชนเมษาพฤษภา53 ไม่มีอนุสรณ์สถาน ไม่มีพวงหรีดจากฝ่ายรัฐ เราไม่ได้ต้องการนะ
มีใครต้องการบ้าง ไม่มีใครต้องการ เพราะพวงหรีดของประชาชน ของคนเสื้อแดง
ของเยาวชนต่างหากที่มีเกียรติอย่างสูงส่งที่จะวางไว้ ณ ตรงนี้! เราไม่ต้องการพวงหรีดของเจ้าหน้าที่รัฐ
การตายของการชุมนุมบางอย่างเราตรวจสอบได้ มีเจ้าหน้าที่รัฐมา
มีฝ่ายสนับสนุนรัฐประหารมา แล้วมีอนุสรณ์สถาน แต่ว่าเมษาพฤษภา ปี 53 ไม่มีอะไรเลย
ไม่มีอะไรเลยไม่เป็นไร ไม่เอา ความยุติธรรมก็ไม่ต้องทวง อนุสรณ์สถานก็ไม่ต้องทวง
แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ร่วมการต่อสู้ขับเคลื่อนของประชาชนต่างหาก
เราจึงจะได้ความยุติธรรม และอาจจะได้อนุสรณ์สถานของวีรชนเมษาพฤษภา ได้มาด้วยการต่อสู้อย่างเดียวเท่านั้น! ไม่ใช่การร้องขอ!
ดังนั้น
ไม่ว่าเวลาจะนานเท่าไหร่ เราก็จะทำการ ไม่ใช่ทวงถามนะ ทวงถามเป็นวิธีการ
คนเสื้อแดงทั้งหลายจึงเรียนรู้ด้วยการร่วมต่อสู้ด้วยหลักการ
ด้วยเป้าหมายที่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการต่อสู้ของเยาวชนคนรุ่นใหม่
ซึ่งนี่เป็นนิมิตหมายที่ดีเพื่อบอกให้เขารู้ว่า ฆ่าเท่าไหร่ ยุบเท่าไหร่
มันก็ยังมีคนต่อสู้เกิดใหม่
และคนที่ต่อสู้ที่เกิดใหม่ก็จะมีคุณภาพยิ่งกว่าผู้นำและนักต่อสู้รุ่นเก่าเสียด้วย
ดังนั้นอย่าหวังว่าการฆ่าหรือการยุบพรรคการเมืองจะทำลายการต่อสู้ของประชาชนได้
ตรงข้าม คุณจะมีศัตรูที่น่ากลัวมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ ตั้งแต่อายุ 13
ขวบขึ้นมาเป็นลำดับ นี่เป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในวันนี้เราก็มาสดุดีกันอีกครั้งหนึ่ง
และรำลึกเพื่อที่จะบอกให้รู้ว่าเราจะไม่ทวงแล้วความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรม
เพราะกระบวนการยุติธรรมขณะนี้มันขึ้นต่ออำนาจซึ่งเป็นอำนาจที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน
เป็นอำนาจซึ่งต้องการรักษาเอาไว้ ดังนั้น ความมั่นคงที่ถือว่าความมั่นคงของชาติ
ศาสน์ กษัตริย์
ที่แท้ก็คือความมั่นคงของคณะบุคคลและเครือข่ายที่มีผลประโยชน์ร่วมกันนั่นเอง
นี่ไม่ใช่ความมั่นคงของประชาชน ดังนั้น ประชาชนมีสิทธิ์ต่อสู้ต่อไปค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
#12ปีรำลึกเมษาพฤษภา53
#ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม