วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2565

อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ : 12ปีรำลึกเมษาพฤษภา53

 


อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ : 12ปีรำลึกเมษาพฤษภา53


สวัสดีค่ะ สวัสดีทุกท่านที่นี่และท่านผู้ชมทางบ้าน ขอขอบพระคุณทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ ทั้งประชาชนคนเสื้อแดง ทั้งเยาวชนคนหนุ่มสาว รวมทั้งพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย พวกท่านที่มา ณ ที่นี้ และเฝ้าชมอยู่ทางบ้านก็คือนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงค่ะ


ในนามของคณะผู้จัดงานรวมทั้งญาติวีรชน เราจึงขอขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่ง เราจัดรำลึกวีรชนสดุดีวีรชนเมษาพฤษภา2553 มาทุกปี 12 ปี ไม่เคยลืม! และในปี 53 เราจัดทุกเดือน ทุกวันที่ 10 ทุกวันที่ 19 ขณะที่แกนนำอยู่ในเรือนจำ อาจารย์ธิดาและรวมทั้งพี่น้องคนเสื้อแดง จัดชุมนุมที่ราชประสงค์บ้างแล้วเดินมาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วก็เดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปราชประสงค์ ทำอย่างนี้ทุกวันที่ 10, 19 ทุกเดือน จนกระทั่งแกนนำออกมาจากเรือนจำหลังจากติดอยู่ 9 เดือน จากนั้นเราก็เดินทางทั่วประเทศ


ดังนั้น หมายความว่าอะไร หมายความว่าคนเสื้อแดง ประชาชน ไม่เคยลืมการต่อสู้เมษาพฤษภา ไม่เคยลืมวีรชนคนที่ล้มตาย คนที่บาดเจ็บ คนที่ติดคุกถูกคุมขังอยู่ เราทำทุกอย่างในเวลานั้น และทำแบบนั้นมาจนถึงบัดนี้ 12 ปีมาแล้วค่ะ ไม่ใช่ว่าม็อบทุกม็อบ ไม่ใช่ว่าทุกกลุ่มจะทำแบบเรา บางกลุ่มทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ในวันที่เกิดขึ้น เพราะผู้คนที่ล้มตายไม่ใช่คนของเขา กลายเป็นว่าคนเสื้อแดงที่ล้มตาย แล้วจับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปเอานกหวีดมาใส่  ดังนั้นไม่มีการจัดพิธีรำลึก เพราะถ้ารำลึกกลายเป็นว่าคนที่ตายไม่ใช่คนในม็อบ หรือเป็นการตายที่ไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่


เราพูดอย่างนี้และเราชูคำขวัญ “12ปียังไม่มีความยุติธรรม” ทำไม? ทำไมไม่มีความยุติธรรม เพราะประชาชนยังไม่มีอำนาจจริง เพราะบ้านเมืองนี้ยังไม่มีระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ถ้าอำนาจเป็นของประชาชนเมื่อไหร่ ความยุติธรรมของประชาชนจึงจะเกิดขึ้น มันจึงเกิดมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน กระทำกับคนรุ่นก่อน ๆ แล้วคนสั่งการลอยนวล ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่รัฐต้องรับผิดจากการฆ่าประชาชนมาครั้งแล้วครั้งเล่า นับจะร่วมร้อยปีมาแล้ว จนถึงปัจจุบัน ไม่ฆ่าเพราะฆ่าไม่ได้ แต่ก็จับกุมคุมขังหมด


ดังนั้น เราจะไม่ทวงถามความยุติธรรม เพราะประชาชนเท่านั้นที่จะต้องเอาความยุติธรรมกลับมาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ด้วยการร้องขอ ขอเท่าไหร่เขาไม่ให้ เพราะสิ่งที่ต้องการก็คืออำนาจยังไม่ใช่ของประชาชน อำนาจที่มีอยู่ในเวลานี้ยังเป็นอำนาจที่กระทำกับประชาชนโดยเครือข่ายของจารีตและอำนาจนิยม ก็ยังเป็นคนชุดเดิม ยังเป็นเครือข่ายเดิมสิบกว่าปีมาแล้วจนถึงปัจจุบันนี้


ดังนั้น ถ้าคุณจะเรียกร้องความยุติธรรม ประการแรก คุณต้องไปร่วมต่อสู้กับประชาชนให้อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง คุณถึงจะได้ความยุติธรรม คุณนั่งทวงความยุติธรรมเฉย ๆ ต่อให้คุณมาเท่าไหร่ คุณโดนไปแล้วกี่ปีไม่มีประโยชน์ มีอย่างเดียวคือร่วมการต่อสู้เคลื่อนไหวกับประชาชนให้ประเทศนี้เคลื่อนไปในทิศทางที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนไทยอย่างแท้จริง ไม่ใช่หลอก ๆ แบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้


และการที่เขาไม่ได้ลงจากอำนาจ ครองอำนาจมาจนจะครบ 8 ปี อีกไม่กี่วัน ก็มีคนกล่าวหาได้ว่า หรือว่ากลัวจะถูกเช็คบิล คดีความยังไม่หมดอายุหรือเปล่า? ก็สามารถคิดได้ เพราะในช่วงที่เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ในช่วงนั้นการไต่สวนการตายของผู้ตายทั้งหมด 20 กว่าศพ ก็พัฒนามาเป็นลำดับ จนกระทั่งศาลตัดสินและไต่สวนออกมามีข้อสรุปว่าคนตายไม่มีอาวุธ การตายเกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด ไม่มีเขม่าดินปืน ไม่มีอาวุธ ไม่มีกระสุนยิงสวนมา ไม่ว่าจะเป็นการตายที่เมษาหรือพฤษภา แม้กระทั่ง 6 ศพวัดปทุมฯ


แต่หลังจากนั้นเมื่อมีการรัฐประหารมี 2557 คดีเหล่านี้ก็จะถูกซุก คนสั่งฆ่าก็ยังลอยนวล เพราะป.ป.ช.ชุดนี้ทำตัวเป็นศาล ไม่ส่งต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ สงสัยไม่ผิดจริยธรรมมั้ง หรือยังไง? ดังนั้น เพียงชั่วเวลาที่เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจำนวนหนึ่ง มันก็มีการขยับขับเคลื่อนในการที่จะดำเนินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่รัฐประหารก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบหมด มาจนถึงบัดนี้


ดังนั้น วีรชนเมษาพฤษภา53 ไม่มีอนุสรณ์สถาน ไม่มีพวงหรีดจากฝ่ายรัฐ เราไม่ได้ต้องการนะ มีใครต้องการบ้าง ไม่มีใครต้องการ เพราะพวงหรีดของประชาชน ของคนเสื้อแดง ของเยาวชนต่างหากที่มีเกียรติอย่างสูงส่งที่จะวางไว้ ณ ตรงนี้! เราไม่ต้องการพวงหรีดของเจ้าหน้าที่รัฐ การตายของการชุมนุมบางอย่างเราตรวจสอบได้ มีเจ้าหน้าที่รัฐมา มีฝ่ายสนับสนุนรัฐประหารมา แล้วมีอนุสรณ์สถาน แต่ว่าเมษาพฤษภา ปี 53 ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรเลยไม่เป็นไร ไม่เอา ความยุติธรรมก็ไม่ต้องทวง อนุสรณ์สถานก็ไม่ต้องทวง แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ร่วมการต่อสู้ขับเคลื่อนของประชาชนต่างหาก เราจึงจะได้ความยุติธรรม และอาจจะได้อนุสรณ์สถานของวีรชนเมษาพฤษภา ได้มาด้วยการต่อสู้อย่างเดียวเท่านั้น! ไม่ใช่การร้องขอ!


ดังนั้น ไม่ว่าเวลาจะนานเท่าไหร่ เราก็จะทำการ ไม่ใช่ทวงถามนะ ทวงถามเป็นวิธีการ คนเสื้อแดงทั้งหลายจึงเรียนรู้ด้วยการร่วมต่อสู้ด้วยหลักการ ด้วยเป้าหมายที่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการต่อสู้ของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งนี่เป็นนิมิตหมายที่ดีเพื่อบอกให้เขารู้ว่า ฆ่าเท่าไหร่ ยุบเท่าไหร่ มันก็ยังมีคนต่อสู้เกิดใหม่ และคนที่ต่อสู้ที่เกิดใหม่ก็จะมีคุณภาพยิ่งกว่าผู้นำและนักต่อสู้รุ่นเก่าเสียด้วย


ดังนั้นอย่าหวังว่าการฆ่าหรือการยุบพรรคการเมืองจะทำลายการต่อสู้ของประชาชนได้ ตรงข้าม คุณจะมีศัตรูที่น่ากลัวมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ ตั้งแต่อายุ 13 ขวบขึ้นมาเป็นลำดับ นี่เป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีมาก่อน


ในวันนี้เราก็มาสดุดีกันอีกครั้งหนึ่ง และรำลึกเพื่อที่จะบอกให้รู้ว่าเราจะไม่ทวงแล้วความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรม เพราะกระบวนการยุติธรรมขณะนี้มันขึ้นต่ออำนาจซึ่งเป็นอำนาจที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน เป็นอำนาจซึ่งต้องการรักษาเอาไว้ ดังนั้น ความมั่นคงที่ถือว่าความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่แท้ก็คือความมั่นคงของคณะบุคคลและเครือข่ายที่มีผลประโยชน์ร่วมกันนั่นเอง นี่ไม่ใช่ความมั่นคงของประชาชน ดังนั้น ประชาชนมีสิทธิ์ต่อสู้ต่อไปค่ะ ขอบคุณมากค่ะ


#12ปีรำลึกเมษาพฤษภา53

#ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์