ณัฐวุฒิ
ใสยเกื้อ :
12ปีรำลึกเมษาพฤษภา53
พี่น้องที่เคารพครับ
ผมตั้งใจจะพูดกับพี่น้องสักช่วงเวลาหนึ่ง ก็เลยขออนุญาตปรับองศาไมค์ให้มันชัดเจนหน่อย
เราอยู่ระยะใกล้ก็ปรับองศากันแบบนี้ 12 ปีที่แล้ว คนชั่วอยู่ระยะไกลปรับองศาปืนติดลำกล้องยิงพี่น้องเรา
มันอัปยศกว่าที่เราปรับองศาไมค์มากหลายเท่านัก
พี่น้องครับ
วันนี้ 12 ปี ถ้าเป็นการเดินทางของเวลาชีวิตคนเขาก็นับเป็น 1 รอบ นั่นหมายความว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ
12 ปีก่อน ได้นำพาผู้คนเติบโต สูงวัย แข็งกร้าว อ่อนโรยแรง
แต่ในที่สุดก็ยังคงมารวมกันอยู่ตรงนี้
12
ปีที่แล้ว ผมมักจะพูดแล้วก็ใช้เสียงแบบนี้บนเวทีต่างกรรมต่างวาระ มาวันนี้ครบรอบ
12 ปี จากคนที่เหลือรอดจากถูกไล่ยิงไล่ฆ่า ผมจะพูดแบบเดิม ส่งเสียงแบบเดิม
ให้ได้คนยิง ให้ไอ้คนสั่งทั้งหลายมันรู้ว่าคนเสื้อแดงยังไม่ตาย
หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดเวทีเช่นนี้วันนี้
นี่คือการตอกลิ่มความขัดแย้ง นี่คือการเอาเรื่องเก่ามาสร้างปัญหาใหม่
นี่คือการฟื้นฝอยหาตะเข็บ แต่ผมยืนยันว่าไม่ใช่ นี่ไม่ใช่ฟื้นฝอยหาตะเข็บ
นี่คือการฟื้นฝอยหาตะกวดว่าไอ้ตะกวดตัวไหนฆ่าประชาชน? เป็นการฟื้นฝอยหาตะกวดว่าไอ้ตะกวดตัวไหนสั่งฆ่าประชาชน?
คุณยังจำเสียงนี้ได้ไหม?
คนเสื้อแดงงงง คนเสื้อแดงงงง คนเสื้อแดงงงง (ลากเสียงยาว)
จะยาก
จะจน จะต่ำชั้น จะการศึกษาน้อย จะเป็นชาวไร่ชาวนาหาเช้ากินค่ำ จะถูกเหยียบย่ำ
จะถูกยิง ถูกฆ่าก็ยังไง? คนเสื้อแดงก็ยังอยู่ คนเสื้อแดงก็ยังสู้
และไม่มีกลัวแม้แต่น้อย จำเอาไว้ซะ นี่น่ะโว้ย คนเสื้อแดง!
พี่น้องครับ
ผมมิค่อยได้ออกมาทำกิจกรรมร่วมกับพี่น้องนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหนุ่มคนสาวนิสิตนักศึกษา
แต่ขอโปรดได้รับรู้เถอะว่า หัวใจคนเสื้อแดงยังแน่แท้อยู่กับการต่อสู้
หัวใจคนเสื้อแดงยังเคียงข้างอยู่กับคนหนุ่มสาวตลอดเวลา
อ้อมกอดคนเสื้อแดงอาจจะให้ความปลอดภัยกับลูกหลานไม่ได้
แต่อ้อมกอดคนเสื้อแดงคืออ้อมกอดที่จริงใจและจะไม่มีวันคลายอ้อมกอดจากลูกหลานที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
บอกน้อง ๆ เลย ว่าคนอย่างพวกผมแผลเต็มตัว อิสรภาพเปราะบางกว่าเส้นด้าย
ออกจากคุกมารอบล่าสุด มิตรที่รักห่วงใยบางคนก็บอกว่า “ไอ้เต้น
มึงอย่าไปเข้าใกล้เด็ก ๆ มาก มึงเข้าใกล้แล้วอันตรายทั้งคู่ เด็กก็ไม่ปลอดภัย
มึงก็อันตราย” แต่ผมบอกน้อง ๆ และบอกไปยังผู้มีอำนาจทั้งหลายที่พยายามจะเข้ามาเจรจาใด
ๆ ไม่ว่าในหรือนอกเรือนจำ ผมยืนยันคำเดิม ไม่มีอะไรมาโยกคลอนหัวใจนี้ได้
ไม่มีอะไรจะโยกคลอนจุดยืนแบบคนเสื้อแดงนี้ได้ “เจ็บก็เจ็บด้วยกันไอ้น้อง
ไม่มีปัญหา”ผมจะทิ้งคนพวกนี้ได้ยังไง
คนเสื้อแดงที่เราสู้มาแล้ว
10 กว่าปี จะทิ้งลูกทิ้งหลานวันนี้ได้ยังไง? เพราะเราเคยเจ็บมาก่อน
เราเคยตายมาก่อน ไอ้คนพวกนี้มันทำผังล้มเจ้า ใส่ชื่อผม ใส่ชื่อพวกเรามากมาย บอกว่าไอ้พวกนี้คิดร้ายทำลายบ้านเมือง
ประสงค์ร้ายต่อสถาบันฯ เผยแพร่ผังล้มเจ้า กระพือโหมจนคนบางคนหลงเชื่อ
เปิดหัวใจให้ฆ่าได้ ฆ่าแล้วก็ออกมาล้างถนนแล้วก็เดินหน้าชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อไป
คุณเคยใส่ร้ายป้ายสีประชาชนที่ใส่เสื้อสีแดง
เอาผังล้มเจ้ายัดเยียดให้เรา อ้างข้อกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูงจะไปโค่นล้มทำลาย
แล้วคุณก็ทำร้ายเข่นฆ่าเรา แล้ววันนี้คุณก็กล่าวหาลูกหลานคนหนุ่มคนสาวในข้อหาแบบเดียวกัน
คุณจะให้ผมผลักไสลูกหลานไปให้พวกมึงฆ่าเหมือนฆ่าพวกกู กูทำไม่ได้!
12
ปีมาแล้ว ที่เราพิสูจน์ยืนยันว่าเราเพียงต้องการสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคเท่าเทียม
ประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง คนเท่ากับคน
ไม่มีอำนาจนอกระบบที่ไหนมาแทรกแซงได้ ทุกองค์กรทุกอำนาจอยู่เป็นที่เป็นทางอย่าก้าวก่ายย่ำยีกัน
เราต้องการแบบนี้เท่านั้น ไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อใครองค์กรหนึ่งสถาบันใด ๆ ทั้งสิ้น
แล้วคุณก็ฆ่าเรา แล้วคุณกำลังจะทำร้ายเด็ก ๆ อนาคตของบ้านเมืองเราอีกแบบนี้หรือ?
เรายอมไม่ได้
พี่น้องที่เคารพ
วันนี้จึงต้องยืนเคียงข้างกัน
วันนี้เราจึงยังต้องเชื่อมั่นในหลักการที่ถูกต้องด้วยกัน ถ้า 12 ปีที่แล้ว
เราถูกฆ่า ปัจจุบันมาปีนี้ลูกหลานเราจะต้องไม่ประสบชะตากรรมแบบเดียวกัน ต้องปกป้องลูกหลานเอาไว้
พี่น้องที่เคารพครับ
ผมเรียนพี่น้องว่า อยากจะบอกไปยังผู้มีอำนาจทั้งหลาย
ไปยังใครก็ตามที่ยังคิดจะกดทับบ้านเมืองนี้ไว้ คุณกำลังไม่เข้าใจความจริงของโลก
คุณกำลังฝ่าฝืนขืนใจกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ สรรพสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลง
และเมื่อมันเปลี่ยนแปลงมันก็จะไม่หยุดนิ่ง ความเปลี่ยนแปลงเป็นสัจนิรันดร์ตลอดไป
เมื่อใดก็ตามที่ผู้คนในสังคมลุกขึ้นเรียกหาความเปลี่ยนแปลง นั่นคือพลังอันชอบธรรมของพวกเขา
เขาเดินไปตามวิถีแห่งโลก เดินไปตามกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ
เขากล้าที่จะออกมาท้าทายอำนาจจอมปลอมของพวกคุณ
เพราะพวกคุณกำลังฝ่าฝืนสัจธรรมของโลก คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากพลังของคนหนุ่มสาว
คนเสื้อแดงที่สู้มา
10 กว่าปี แล้วยังยืนหยัดอยู่ตรงนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดเข้าใจนะครับ
ไม่ใช่ว่าเราไม่เหนื่อย ไม่ใช่ว่าเราไม่เจ็บ ไม่ใช่ว่าเราไม่ท้อ
แต่ขอให้รู้ว่ายังไงก็ไม่ถอย ไม่มีทางถอย และไม่มีวันถอย
เมื่อเราเชื่อมั่นว่าเรายืนอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง
เมื่อเราเชื่อมั่นว่าเรากำลังนำพาบ้านเมืองไปในทิศทางที่ชอบธรรม
ไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องถอยให้อำนาจอันอยุติธรรมนี้ตลอดไป ประยุทธ์ จันทร์โอชา
มึงจะอยู่นานแค่ไหนก็ไม่เกินหมดสมัยนี้
ต่อให้กลับมาอีกรอบก็อยู่ไม่เกินวันที่คุณตาย แต่ประชาชนจะอยู่นิรันดร์กาลตลอดไป
วันนี้ประชาชนอาจจะทำอะไรคุณไม่ได้เพราะคุณยังนั่งอยู่ในอำนาจ
แต่ในอีก 5 ปี 10 ปี 20 ปีข้างหน้า ต่อให้คุณตายไปแล้ว คนรุ่นต่อไปก็จะขุดวิญญาณของคุณมาถ่ม! ถุย! ให้ย่อยยับลงไป ผมกล้ายืนยันว่าอีก 10 ปี 12 ปีข้างหน้า
จะไม่มีประชาชนกลุ่มไหนจัดงานรำลึก “ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพวก”
แต่จะมีคนจัดงานรำลึกให้กับประชาชนด้วยกัน แล้วเครือข่ายอำนาจ
เครือข่ายอิทธิพลใดก็ตามที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลปัจจุบัน
ที่อยู่เบื้องหลังคณะรัฐประหาร
ขอให้คุณได้ทราบโดยทั่วถึงกันว่าคุณหาได้อยู่เบื้องหลังไม่
คุณถูกประชาชนลากมาอยู่เบื้องหน้าตั้งนานแล้วและทั้งหมดแล้ว
วันนี้ทางออกอย่างสันติจากความขัดแย้งนี้จึงมีทางเดียว
คือต้องรับฟังกัน คือผู้มีอำนาจต้องเห็นประชาชนเป็นพี่น้อง
ต้องเห็นเยาวชนเป็นลูกหลาน คุณรักลูกคุณยังไง
คุณก็ต้องเห็นลูกหลานชาวบ้านที่ออกมาเรียกร้องความเปลี่ยนแปลงเป็นลูกหลานเช่นนั้น ทีกับลูกตัวเองทำผิดทำพลาดยังไงก็บอกว่าต้องให้โอกาสเด็ก
ต้องประคับประคองเด็ก ต้องสงสารเด็ก ทีกับลูกชาวบ้านแค่มันออกมาชูสามนิ้วก็เอาไม้ตี
เอาน้ำฉีด เอาคุกขัง
ขณะปราศรัยนั้นมีคนลุกขึ้นมาจับมือณัฐวุฒิ
ณัฐวุฒิจึงบอกว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แกคงเต็มที่ของแก บางทีการต่อสู้ดีกรีก็ไม่เท่ากัน
เข้าใจได้ นี่แหละแบบนี้แหละพี่น้องเสื้อแดงของผมมีทุกชนิดทุกประเภทในเวทีเดียวกัน
นั่งรถราคาหลายล้านมาก็มี ขึ้นรถเมล์ฟรีมาก็มาก
มานั่งรวมกันหน้าเวทีแบ่งกันกินแบ่งกันนอน ช่วยกัน แลกเป็นแลกตาย ไม่ว่าจะมาในสถานะใดพอใส่เครื่องแบบสีแดงยืนอยู่บนถนนหนึ่งชีวิตเคียงข้างกันตลอดมาจนวันปัจจุบัน
นี่ดีนะตั้งแต่ตลอดเริ่มงานใครยังไม่เปิดเพลง ถ้าเปิดเพลง ลูก ๆ หลาน ๆ น้อง ๆ
จะเห็นความอัศจรรย์ของคนเสื้อแดงอีกมิติหนึ่ง คือคนเสื้อแดงจะเต้นได้ทันทีทุกที่ทุกสถานการณ์และทุกจังหวะลีลาเพลง
ไม่ว่าเพลงจะขึ้นตอนไหนเป็นอันว่าต้องเต้น ปลุกระดมฮึกเหิมกันอยู่ดี ๆ ทะลึ่งเปิดเพลงมาก็ดิ้นทั้งฮึกเหิมนี่แหละ
นี่คือมหัศจรรย์แห่งเรา
พี่น้องครับ
กลับมาที่วาระนี้ ผมต้องบอกพี่น้องอีกเรื่องเถอะครับว่า ในท่ามกลางการเดินทางของทางต่อสู้มันเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมาย
ภูมิทัศน์ทางการเมือง บริบทของฝ่ายประชาธิปไตย มันต้องงอกงามตามเงื่อนไขของเวลา
วันนี้อาจจะแตกต่างกับวันเดียวกันเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เรามีพรรคการเมืองมีขึ้นหลายพรรคในฝ่ายประชาธิปไตย
เรามีพี่น้องเราผู้ร่วมอุดมการณ์เคยต่อสู้เคียงไหล่ใกล้บ่ากัน
เป็นผู้สนับสนุนพรรคการเมืองหลากหลายพรรคในฝ่ายประชาธิปไตย เรากำลังจะมีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.
เราจะมีการเลือกตั้งในสนามเลือกตั้งใหญ่ และแน่นอนว่าในสนามการเลือกตั้ง
คะแนนของฝ่ายประชาธิปไตยก็จะมีความหลากหลายกันออกไป
พี่น้องครับ
หน้าที่ในการทำคะแนนของประชาชนเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง ฝ่ายการเมืองเขาจะทำในมิติของเงื่อนไขเวลา
นโยบาย หรือแนวทาง แต่สำหรับประชาชน
ผมอยากบอกเพียงว่าไม่ว่าบริบททางการเมืองจะเป็นอย่างไร
ไม่ว่าพรรคการเมืองจะมีมากมายแค่ไหน
อย่าลืมว่าประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยทุกคนยังคงเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องกัน
เรื่องนี้อย่าให้มันเปลี่ยนแปลงไป ในทุกที่มีทั้งของจริงและของปลอมปนกันทั้งนั้นแหละครับ
ไอ้ที่บอกว่าเป็นคนเสื้อแดง 10 กว่าปีที่แล้วก็มีของปลอมปนอยู่ (เสียงพี่น้องตะโกน
แรมโบ้ ๆ ๆ) พี่น้องครับ ไม่ว่าพี่น้องจะนึกถึงใคร
ผมยืนยันได้ว่าที่พูดไปผมไม่ได้พูดเล่น
ฉันใดฉันนั้นก็เช่นเดียวกัน
เมื่อในขบวนการประชาธิปไตย แม้แต่คนเคยใส่เสื้อสีแดงก็มีของปลอมเจือปน ดังนั้น
ในทุกพรรคการเมืองผมก็ไม่เชื่อว่าพรรคไหนจะมีของจริงทั้งหมด
และก็ไม่เชื่อว่าพรรคไหนจะมีของปลอมทั้งหมดเช่นเดียวกัน
แต่ผมเชื่อว่าโลกของความเป็นจริงมันก็ปน ๆ กันอยู่ในนั้น ดังนั้นก็สุดแท้แต่เงื่อนไขของสถานการณ์จะว่ากันไป
แต่ขออย่างเดียวเท่านั้นแหละครับ หัวใจของพวกเรายังต้องทำภารกิจใหญ่ด้วยกันอีกมาก
การสามัคคีในความรู้สึก สามัคคีในทางวิธีคิด แม้ว่าจะมีความแตกต่างบางแง่บางมุม
ผมก็ยังอยากให้มันยังหันหน้าไปในทิศทางเดียวกันได้ คนผู้รักประชาธิปไตยเขาบอกว่าส่วนใหญ่เป็นคนตาสว่าง
ผมก็อยากจะบอกต่อว่าถ้าตาสว่างเราก็อย่าหน้ามืด มองให้ชัดว่าอันไหนมิตร
อันไหนศัตรู ถ้ามิตรก็คือมิตร ถ้าศัตรูก็ต้องสู้มัน ฝ่ายประชาธิปไตยไม่ใช่หันหน้ามาเผชิญหน้ากัน
แต่ต้องหันหลังพิงระวังภัยให้กันละกันไปตลอดเส้นทาง ผมยังเชื่อนะครับว่า
วันเวลาที่เราจะต้องเดินไปมันยังต้องพิสูจน์ทราบหัวใจกันและกัน
และยังต้องกระชากหน้ากากฝ่ายอำนาจนิยม ฝ่ายเผด็จการอีกหลายกิโลเมตรนัก
ถามว่าท้อหรือยัง พอหรือยัง สู้หรือยัง หันหลังพิงกันเถอะพี่น้อง
ไม่ว่าจะข้างไหนเฉดไหนถ้ารักประชาธิปไตยหันหลังด้วยกันแล้วสู้ให้กับเผด็จการไปด้วยกัน
ถ้าวันนี้ดวงวิญญาณของคนเสื้อแดงจะลุกขึ้นมาแล้วสื่อสารกับพี่น้องได้
ผมว่าเขาอาจจะไม่ต้องพูดอะไรมาก นอกจากอยากจะบอกว่าสิ่งที่เขาเสียสละไป เมื่อเห็นหนุ่มสาวยื่นมาแสดงความเข้าใจเห็นใจคนเสื้อแดง
ผมเชื่อว่าการสูญเสียนั้นแม้เราไม่อยากให้เกิดขึ้น แม้เป็นความเจ็บปวด
แต่มันจะไม่สูญเปล่า คนเสื้อแดงที่หมดลมหายใจไป 12 ปี
วันนี้ถูกยกขึ้นมาโดยคนหนุ่มสาวเป็นวีรชนอย่างแท้จริงแล้วบนถนนราชดำเนิน ถ้าเอาเงินจ้าง
300, 500 ผมว่าเกือบทั้งหมดและทั้งหมดในนี้ก็ได้ ไม่มีใครยอมมานั่งร้อน อาบเหงื่อต่างน้ำ
นั่งใกล้ ๆ เบียดกัน รู้จักกันบ้าง ไม่รู้จักกันบ้าง ไม่รู้ใคร 1 ขีด 2 ขีด 3
ขีดยังไง แต่วันนี้มันไม่ได้มาด้วยอามิสสินจ้าง มันมาด้วยหัวใจ มันข้ามพ้นทุกขีดเพราะหัวใจมันสุดขีดมาจากบ้าน
แล้วมันเป็นหัวใจที่ไม่มีอำนาจอะไรมาเบียดบังหรือมาแลกเอาไปจากเราได้
ถ้าคนที่นั่งอยู่นี้จะขายจิตวิญญาณไปกับไอ้พวกบ้านั่นตั้งนานแล้ว
แต่เพราะวิญญาณนี้ไม่มีไว้ขาย
เพราะวิญญาณนี้ได้มอบให้แล้วกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
พี่น้องครับ
ถ้าเชื่อตรงกันกับผมว่าคนที่จากไปเขาจะมีความสุขเมื่อเป็นภาพนี้ได้ยินเสียงนี้
ปรบมือโห่ร้องให้กับดวงวิญญาณคนเสื้อแดงกันสักครั้งครับ (เสียงพี่น้องปรบมือโห่ร้องยาว)
แล้วอยากจะส่งเสียงไปถึงพลังแห่งยุคสมัยว่าน้อง
ๆ ที่รักทั้งหลาย การต่อสู้ของพวกน้องคือความชอบธรรมของโลกในวันปัจจุบัน
คือพลังที่มันเกิดขึ้น แล้วในที่สุดทุกคนก็จะต้องรับฟังแล้วยอมรับมันให้ได้
แต่ข้างหน้ามีอุปสรรคและภัยอันตรายรออยู่ ขอให้น้อง ๆ ทุกคนสู้ด้วยความรอบคอบ
รัดกุม เอาประสบการณ์ที่ผ่านมา 2-3 ปี มาสรุปและถอดบทเรียน เอาความบอบช้ำของคนเสื้อแดงมาคิดอ่านให้ตกผลึกเพื่อเดินต่อไป
น้อง ๆ เสียสละกันมามาก กล้าหาญกันมามาก แต่อย่าเดินเข้าพื้นที่สังหาร
อย่าเดินไปเป็นเหยื่อของความโหดร้ายรุนแรงเหมือนที่คนเสื้อแดงถูกกระทำมา
ชีวิตของน้องมีค่า วันเวลาอยู่ข้างน้อง ๆ ความชอบธรรมอยู่ข้างน้อง ๆ
หลักการที่ถูกต้องอยู่ข้างน้อง ๆ ถ้าอำนาจใด ๆ ยังไม่สำนึกและไม่คิดที่จะฟังเสียงน้อง
ๆ วันหนึ่งเขาก็จะเผชิญกับพลังที่แข็งกล้ากว่านี้มากจากพวกน้องเองอยู่แล้วหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ขอให้รอบคอบรัดกุมไว้
ถามว่า
ณัฐวุฒิก็แนะนำเลยซิว่าจะให้เด็กทำยังไง?
ก็ถ้าผมแน่จริงมันจะให้เดือดร้อนถึงเด็กรุ่นนี้ทำไม? ก็พยายามมาเต็มที่
ก็ได้มาเท่านี้ ดังนั้น น้อง ๆ ที่สู้กันต่อ อะไรทีเป็นเรื่องดงาม
เป็นเรื่องมีคุณค่าของคนเสื้อแดงน้องก็เอาไปใช้
อะไรที่เป็นข้ออ่อนเป็นข้อต้องปรับปรุงน้องก็ต้องเอาไปคิดพัฒนากันต่อไป
คนเสื้อแดงอาจจะไม่เก่งกาจ อาจจะไม่ฉลาดแหลมคม แต่คนเสื้อแดงเป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้
ผมยืนยันจะไม่มีหักหลัง!!!
แล้วบอกไปยังผู้มีอำนาจทั้งหลายที่คิดอ่านจะยัดเยียดข้อหาโค่นล้มทำลายสถาบันฯ
ให้เด็ก แล้วคิดจะใช้ความรุนแรง คิดถึงขั้นจะปราบปรามเข่นฆ่าสังหารลูกหลานเยาวชน
มึงอย่านะโว้ยกูบอกก่อน!!! ใครจะทำแบบนั้น ทั้งแก่ ๆ อย่างนี้แหละกูจะออกมาสู้กับเด็กเด็ดขาด ก็พวกผมถูกกระทำมาแล้ว
12 ปีก่อน ใส่ร้ายป้ายสีด้วยผังล้มเจ้า ผ่านมา 12 ปี
ก็พิสูจน์อยู่แล้วนี่ไงว่ามันไม่มีผังล้มเจ้า ไม่เป็นความจริง
เป็นการใส่ร้ายป้ายสี มันไม่มีหรอกผังล้มเจ้า มีแต่ไอ้พวกอ้างเจ้าล้มประชาชน แล้วมาวันนี้ยังใช้วิธีการเดิม
ยังใช้แผนอำมหิตชุดเดิม ยังจะกระทำกับลูกหลานของเราให้ซ้ำรอยประวัติศาสตร์อัปยศเดิม
ไม่มีทาง อย่ายอมให้มันเกิดขึ้น เราไม่มีอาวุธ เราไม่มีกำลัง
เราไม่ประสงค์ความรุนแรง แต่เราก็พร้อมที่จะมายืนเคียงข้างกันในฐานะประชาชน
ให้มันรู้ไปว่าจะฆ่าได้หมดถนน ให้มันรู้ไป
สุดท้ายพี่น้องครับ
ผมอยากจะให้พี่น้องได้เข้าใจตรงกันว่าภารกิจสำคัญในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
คือการสามัคคีคน ที่เห็นด้วยกับเราก็ต้องสามัคคี ที่เห็นต่าง
ถ้าเชื่อมประสานกันได้ก็อย่าได้ผลักไส นี่ไม่ใช่โลกสวย นี่ไม่ใช่ดราม่า
แต่ถ้าคิดจะเอาชนะต้องข้ามพ้นความรู้สึกเหล่านี้ไปให้ได้
สามัคคีกันเต็มกำลังยังเอาชนะมันไม่ได้เลย ถ้าหากว่าขาดซึ่งสามัคคีเสียด้วยแล้ว
ก็จะยิ่งกลายเป็นยากเข็ญขึ้นไปใหญ่ อะไรที่มันจะเกิดขึ้น
เสรีภาพทางการเมืองเป็นของพี่น้อง แต่เส้นทางในการเดินเพื่อประชาธิปไตย ถ้าตราบใดยังเดินไปทางเดียวกัน
ใครจะวิ่ง ใครจะเดิน ใครจะคลาน ใครจะนั่งอยู่ข้างทาง ก็อย่าได้เยาะเย้ยถากถางกันเลยครับ
เพราะแต่ละคนแต่ละหัวใจมันทำภารกิจในการต่อสู้ได้ไม่เหมือนและไม่เท่ากัน
นี่ผมอยากจะบอกให้ว่า ท่านเชื่อมั้ย หลายคนที่มายืนอยู่วันนี้ พูดตรง ๆ นะ จ่ายค่ารถมาถึงนี่ก็เรื่องยากที่สุดแล้ว
ข้าวปลาแทบไม่มีจะกินก็มี
ดังนั้น
สำหรับคนจำนวนไม่น้อยแค่รักษาจุดยืนตัวเองไว้ แค่รักษาความเป็นคนเสื้อแดงไว้
แค่รักษาเกียรติยศศักดิ์ศรีแห่งประชาชนไว้
ก็แทบจะทุ่มเทและแลกด้วยทั้งชีวิตของตัวเองที่ยากแค้น คนเหล่านี้ไม่ได้เล็กหรือด้อยไปกว่าคนที่สูงในอำนาจ
การศึกษามาก มีทรัพย์ศฤงคารมากมาย แล้วก็บอกว่าแค่ออกมาชุมนุมนั่งรถแป๊ปเดียวก็ถึง
แล้วก็ง่าย มันไม่เหมือนกันครับ ผมจะบอกว่าติดคุกแล้ว 3 รอบ
ผมก็เลยเสียสละกว่าเพื่อน กล้าหาญกว่าเพื่อน แน่กว่าเพื่อน ผมก็พูดไม่ได้ นายณัฐวุฒิติดคุก
3 รอบก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรไปกว่าคนขับตุ๊ก ๆ ที่โดนยึดรถตุ๊ก ๆ
ซึ่งเป็นเครื่องมือหากินตลอดชีพเพราะออกมาสู้กับคนเสื้อแดง เพราะเขามีเท่านั้น
เขาเดิมพันทั้งชีวิต เขาเดิมพันทั้งหมดเท่าที่มีแต่อ้อนแต่ออก
บางคนไปพบพี่น้องพี่เคยสู้ เขาบอกว่ากูไม่ออกมาอีกแล้ว ถามว่าทำไม มอเตอร์ไซด์ขับรับจ้างมาสู้ราชประสงค์
หนีคุกหนีตะราง มอเตอร์ไซด์ถูกยึด ไม่มีเงินดาวน์ ไม่มีเงินหาเสื้อวินใหม่
จะไปดูแคลนหยามเหยียดว่าโธ่! มึงเสียแค่มอเตอร์ไซด์
คนอื่นเขาถูกฆ่าตายเขายังสู้อยู่ ไม่ได้! ก็ในเมื่อชีวิตของคน
ๆ หนึ่งเงื่อนไขมันไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน แต่หัวใจมันเดียวกัน
การต่อสู้มันจิตวิญญาณเหมือน ๆ กัน ตรงนี้สำคัญกว่า
ดังนั้น
ในถนนการต่อสู้มันไม่มีใครแน่กว่าใคร ไม่มีใครเสียสละกว่าใคร
ไม่มีใครกล้าหาญกว่าใคร ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่าใคร ถ้าค้นหากันอย่างนั้น
แนะนำให้ไปแข่งกีฬาสี ไม่ใช่ใส่เสื้อสีแดงออกมาสู้ด้วยกัน
หากันให้พบบนเส้นทางเถอะครับ แล้วทุกคนบนเส้นทางก็เชื่อไว้ก่อนว่าเขาคือเพื่อนเรา
พี่เรา น้องเรา ไม่ต้องห่วงหรอกครับว่าของปลอมมันจะอยู่ได้นาน เชื่อผมเถอะ
เหตุการณ์จะเคี่ยวกรำ เวลาจะคัดกรอง ของปลอมยังไงมันก็ปลอม และมันจะต้องสำแดงสันดานกันออกมาในที่สุด
ส่วนของจริงมันก็จริงอยู่วันยังค่ำ ถูกไล่ยิงก็ยังจริง ถูกจับขังก็ยังจริง
ถูกยัดคดีก็ยังจริง ถูกไล่ทุบไล่ตีรังแกกดขี่ข่มเหงเหยียดหยาม
ถ้ามันจริงมันก็จริงอยู่อย่างนั้น
พี่น้องครับ
วันนี้เข้าใจว่ายังมีกิจกรรมอีกหลากหลายรูปแบบจากน้อง ๆ คนหนุ่มคนสาวทุก ๆ คน
เขามาให้เกียรติคนเสื้อแดง รำลึกคนเสื้อแดง ตากแดดให้กับคนเสื้อแดงมาเป็นเวลานาน
โห่ร้องให้กับคนเสื้อแดงก็ยาวนาน ดังนั้น
พี่น้องคนเสื้อแดงที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมา 10 กว่าปี
ปรบมือโห่ร้องให้กับคนหนุ่มสาวให้กับลูกหลานหน่อย (เสียงปรบมือโห่ร้องยาว)
นักการเมืองบางคนมันชูสามนิ้วไม่ได้ ผมจะชูสามนิ้ว มีปัญหามั้ย? (ว่าแล้วก็ชูสามนิ้ว)
มีปัญหาอะไรมั้ย? เสื้อแดงเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ชูสามนิ้ววันนี้มีอะไรมั้ย?
บางคนฟิตจัด
อยู่บ้านไอออด ๆ แอด ๆ ปวดโน่นเมื่อยนี่ ไปตลาดนัด 2 ชม. นอนอยู่ 3 วัน
ปวดเมื่อยทั้งตัว พอมางานนี้ได้ไม่ทันชั่วโมงดีมาสะกิดผมตรงโน้น “พี่เต้น
เมื่อไหร่จะออกมานำ” ผมก็อยากจะบอกว่าวันเวลาของคนอย่างพวกผมมันผ่านไปแล้ว
วันนี้วันเวลาเป็นเรื่องของคนหนุ่มสาว เป็นการต่อสู้ของยุคสมัย
แต่ถ้าเราจะเป็นสะพานเชื่อม เราจะเป็นเพื่อนที่เคียงข้าง
เป็นคนคอยระวังหลังไปตลอดทาง เราทำได้ แล้วน้อง ๆ ขอให้น้อง ๆ ได้เข้าใจนะ น้อง ๆ
ที่มากันนี่ พี่รู้ว่าน้อง ๆ แน่ แต่ดูป้า ๆ แม่ ๆ
เสื้อแดงนี่เดนตายทั้งนั้นนะพี่จะบอกให้รู้ไว้ น้อง ๆ อย่างมากตีชิงเข็มขัดกันก็ปืนปากกา
แม่ ๆ ป้า ๆ นี่เจอสไนเปอร์มาแล้วนะเว้ยเฮ้ย สไนเปอร์ว่าเล็งกล้องแน่ ๆ ป้า ๆ แม่
ๆ นี่ก็ยังรอด เหนียว ๆ เข้าใจมั้ยว่าเหนียว แล้วให้เชื่อผมนะ
ที่เห็นผู้เฒ่าผู้แก่อายุ 70, 80, 60 กว่า ๆ เนี่ย แม้กระทั่งอาจารย์ธิดาก็ 48
เข้าไปแล้วเนี่ย ปวดเมื่อกระเสาะกระแสะ ไปไหนก็ต้องพกยาลม เดินขึ้นบันไดสองสามขั้นนี่แต่ละคนต้องให้เด็กจูง
แต่ลองว่ามีม็อบเถอะ ยาดมนี่หาย คนจูงนี่ไล่ไม่ทัน ซะขนาดนั้น เพราะฉะนั้นขอให้ลูก
ๆ หลาน ๆ สบายใจ
และไอ้บรรดาฝ่ายผู้มีอำนาจให้สบายใจด้วย
เราไม่ได้มาท้าตีท้าต่อย แต่เราเพียงจะบอกว่าคุณถอยไปก่อน แล้วดูความเปลี่ยนแปลงนี้ดี
ๆ ใช้สติใช้ปัญญาเข้าแก้ไข ปัญหามันแก้ได้นะครับ
แต่ที่แก้ไม่ได้เพราะหัวใจคุณมันอำมหิต มันมีแต่ความเกลียดชัง 10 กว่าปีก่อนเห็นใครใส่เสื้อสีแดงนี่ฟึดฟัด
ๆ ผมพยายามค้นหาดูว่าสิ่งมีชีวิตไหนเห็นสีแดงแล้วฟึดฟัด ๆ มีแต่วัวกับควาย
ในแผ่นดินตะวันตกมีการเหยียดสีผิว ในผืนแผ่นดินเรา 10
กว่าปีก่อนมีการเหยียดสีเสื้อ
แต่วันนี้คนเสื้อแดงกลับมาเพราะลูกเพราะหลานเขาเรียกหา
คนเสื้อแดงกลับมาเพราะลูกหลานเขาหยิบยื่นเกียรติยศให้
ผมจึงบอกว่าผมเป็นหนี้บุญคุณของคนรุ่นลูกรุ่นหลาน
แล้วถ้าหากมีกิจหนึ่งการใดที่พอจะเป็นประโยชน์ได้ ก็ขอให้ส่งเสียงมา
เห็นพลังของน้อง ๆ หัวใจผมก็คึกคักตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ ออกมาปั๊บคนหนุ่มคนสาวก็ถามว่า
พี่เต้นเห็นพลังของเด็ก ๆ หัวใจพี่เต้นเป็นยังไง? ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงให้น้องมันเข้าใจก็เลยบอกว่า
หัวใจพี่มันโด่ ดิดง ดิโด้ ดิดง มันก็พอเข้าใจกันได้
พี่น้องครับ
(ไม่รู้พูดออกไปได้ยังไงวะ) ก็ขอบคุณจริง ๆ นะครับสำหรับ 12
ปีของความสูญเสียนี้นะครับ ของพี่น้องคนเสื้อแดง มันเหน็บหนาว มันเจ็บปวด
แล้วมันมาอบอุ่นเอามาก ๆ ก็สองปีหลังมานี่แหละ มันอบอุ่นมาก ๆ ด้วยอ้อมกอดของคนรุ่นใหม่นี่แหละ
ขอได้รับความขอบคุณจากคนเสื้อแดงอีกครั้งครับ
#12ปีรำลึกเมษาพฤษภา53
#ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์