วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2565

"ช่อ"บุกสน.พญาไท เหตุถูกสั่งระงับต่อพาสปอร์ต ข้องใจ ตำรวจใช้อำนาจข้อไหน ด้าน ผกก.สน.พญาไท แจงเป็นมาตรฐานปกติคดีความมั่นคง "ช่อ" ชี้ คดีความมั่นคงกลายเป็นคดีทางการเมืองไปแล้ว เตรียมร้องศาลปกครองหากกรมการกงสุลไม่ยอมให้ทำพาสปอร์ตใหม่

 


"ช่อ"บุกสน.พญาไท เหตุถูกสั่งระงับต่อพาสปอร์ต ข้องใจ ตำรวจใช้อำนาจข้อไหน ด้าน ผกก.สน.พญาไท แจงเป็นมาตรฐานปกติคดีความมั่นคง "ช่อ" ชี้ คดีความมั่นคงกลายเป็นคดีทางการเมืองไปแล้ว เตรียมร้องศาลปกครองหากกรมการกงสุลไม่ยอมให้ทำพาสปอร์ตใหม่ 


วันนี้ (21 เม.ย. 65) เวลา 10.00 น. นางสาว พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางไปที่ สน.พญาไท เพื่อสอบถามกรณีที่สน.พญาไท มีหนังสือ ที่ ตช 0015 (บก.น.1)4/478 ลงวันที่ 19 เมษายน 2564 เรื่องขอให้เพิกถอนหนังสือเดินทางของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ โดยระบุว่าทั้ง 3 เป็นผู้ต้องหาคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จึงขอให้เพิกถอนหนังสือเดินทาง


พรรณิการ์ กล่าวว่า วานนี้ (20 เม.ย.) ตนเองเดินทางไปต่ออายุหนังสือเดินทางที่สำนักงานหนังสือเดินทาง เขตปทุมวัน เมื่อไปถึงพนักงานพยายามทำในระบบหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จึงสอบถามไปยังกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศเพื่อตรวจสอบ จึงทราบภายหลังว่ามีหนังสือขอให้มีการเพิกถอนหนังสือเดินทาง ของทั้ง 3 รายชื่อ คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และตนเอง


ทั้งนี้หนังสือดังกล่าวลงนามโดยรองผู้กำกับ สน.พญาไท พันตำรวจโทบารมี วงษ์อินตา รองผู้กำกับการ (สอบสวน) มีการให้เหตุผลว่าทั้งสามเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญามาตรา116 ซึ่งคดีนี้ พรรณิการ์ยืนยันว่าอัยการยังไม่มีการส่งฟ้อง แน่นอนว่ายังไม่มีคำสั่งศาลสั่งงดการเดินทางแน่นอน


พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า เป็นเรื่องที่น่าแปลกในช่วง 2-3 ปีมานี้ ผู้ต้องหาที่โดนคดีอาญามาตรา 112 และ 116 มีกว่า 300 คน ทั้งหมดนี้ต้องโดนระงับหนังสือเดินทางทั้งหมดเลยหรือไม่ แล้วสิทธิเสรีภาพอยู่ที่ไหน ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าเป็นการเลือกปฏิบัติกับคนที่เห็นต่างทางการเมืองอยู่ตรงข้ามกับฝั่งรัฐบาล


ส่วนกรณีอาจารย์ปิยบุตร ที่ขณะนี้อยู่ต่างประเทศตนยังไม่แน่ใจว่ามีผลอะไรหรือไม่เพราะตอนขาออกยังสามารถเดินทางไปได้แม้คำสั่งนี้มีนานแล้ว และเข้าใจว่าอธิบดีกรมการกงสุลให้ความร่วมมือกับทางตำรวจแค่บางส่วน เพราะในหนังสือมีการระบุว่าให้ระงับและเพิกถอนหนังสือเดินทาง แต่สิ่งที่เกิดเป็นเพียงการไม่อนุญาตให้ต่ออายุหนังสือเดินทาง


ในทางปฏิบัติ กรณีนี้ทำให้ชีวิตลำบากเพราะเวลาเดินไปทางไปต่างประเทศจะต้องกังวลทุกครั้งว่าจะไปติดที่ด่านไหนหรือไม่ จริง ๆ ในทางแก้ไขทราบว่ามีวิธีการดำเนินการอยู่หลายวิธีในทางกฎหมาย แต่อยากพูดคุย


และการมาวันนี้เพื่อทำความเข้าใจกับตำรวจให้ดีก่อนว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นการใช้กฎหมายที่ทำให้ประชาชนรู้สึกลำบากพอสมควร และจะเป็นละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ คิดว่าตำรวจน่าจะทำความเข้าใจได้


หลังจากที่โดนปฏิบัติลักษณะนี้ตนตัดสินใจไปเปิดดูข้อกฎหมายต่าง ๆ สรุปว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจที่จะทำได้ เพราะการออกหนังสือเดินทางกระทรวงต่างประเทศในข้อของการระงับเพิกถอนให้อำนาจเจ้าหน้าที่อื่น ที่มีหน้าที่ตามกฎหมายสามารถขอเพิกถอนพาสปอร์ตยกเลิกพาสปอร์ตได้


จากนี้ก็ต้องดูว่าเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจอื่นตามกฎหมายใช้อำนาจตามกฎหมายข้อใด ในการเพิกถอนพาสปอร์ต น.ส.พรรณิกาณ์ กล่าว


โดยภายหลังจากการเข้าพบผู้กำกับการ สน.พญาไท พรรณิการ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระบุว่าได้รับการชี้แจงจากผู้กำกับการ สน.พญาไท ว่ากรณีดังกล่าวเป็นมาตรฐานการทำงานตามปกติในคดีความมั่นคง เพื่อป้องกันผู้ต้องหาหลบหนีในชั้นตำรวจ จึงส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยังกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นดุลยพินิจของอธิบดีที่จะเพิกถอนหนังสือหรือไม่ ในกรณีนี้ทางผู้กำกับรับปากว่าจะรับคำร้องของ พรรณิการ์ ประกอบหนังสือขอความร่วมมือ ไปยื่นต่อกรมการกงสุลภายในเที่ยงวันนี้ เพื่อให้มีการพิจารณาให้ทั้งสามรายสามารถต่ออายุหนังสือเดินทางได้ คาดว่าจะต่ออายุหนังสือเดินทางได้ปกติในวันพรุ่งนี้


พรรณิการ์กล่าวต่อว่า แม้การตอบสนองของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่จำเป็นต้องยืนยันว่าทุกวันนี้คดีความมั่นคงกลายเป็นคดีทางการเมืองไปแล้ว


พรรณิการ์ กล่าวต่อไปอีกว่า เชื่อว่า อธิบดีกรมการกงสุลจะเข้าใจและตระหนักในสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะกับผู้ที่ยังไม่ถูกพิพากษาว่ามีความผิด และจะพิจารณาให้สามารถต่ออายุหนังสือเดินทางได้ตามปกติ


ทั้งนี้หากว่าไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง พรรณิการ์ระบุว่า เตรียมใช้ช่องทางฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ซึ่งเคยมีกรณีของคุณจาตุรนต์ ฉายแสง เคยฟ้องชนะในกรณีใกล้เคียงกันมาแล้ว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กรมการกงสุล #พรรณิการ์วานิช #คณะก้าวหน้า