ศาลฎีกาชี้
‘ปารีณา’ ผิดจริยธรรมร้ายแรง ให้ พ้นตำแหน่ง ส.ส. เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป
ตัดสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี เตรียมเลือกตั้งซ่อมใน 45 วัน
วันนี้
(7 เม.ย. 65) ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นัดพิพากษาคดีที่คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของ
น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ
ในคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จ.ราชบุรี จำนวน 4 แปลง รวมพื้นที่ 711 ไร่
นายทิวา
การกะสัง ทนายความ น.ส. ปรีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ
เดินทางมาเพียงคนเดียว เนื่องจากนส.ปารีณา เเจ้งว่าจะไม่เข้าฟังคำตัดสิน นายทิวา กล่าวว่า
คดีดังกล่าวไม่ใช่คดีอาญาเป็นเรื่องความผิดจริยธรรมผู้ถูกร้องจึงไม่ต้องไปปรากฏตัว ตนจึงเป็นตัวแทนนางสาวปารีณา มาฟังคำตัดสินแทน
เเละไม่จำเป็นต้องเลื่อนการอ่านคำตัดสิน สำหรับที่ดิน ส.ป.ก. จำนวน 711
ไร่ เป็นการรับที่ดินต่อจากบิดาก่อนเป็น
ส.ส. และมีพื้นที่ไม่ถึง 500 ไร่
มีการแบ่งที่ดินออกเป็น
2 ส่วน และ ที่ดินแปลงหนึ่งได้มีการคืนให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินไปแล้ว
เพื่อให้สำนักงานที่ดิน นำไปปฏิรูปตามที่ประกาศ
จึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
ซึ่งทนายได้ชี้แจงว่าการได้มาของที่ดินและการส่งคืนที่ดินไปแล้ว
ยังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงใด ๆ
ทั้งนี้ตามคำร้องของ
ป.ป.ช.ยื่นฟ้องผิดจริยธรรม 2 มาตรา ในการพิจารณาของศาล
ฟังได้ข้อยุติว่าเหตุครอบครองที่ดิน ป่าไม้อยู่ในสำนักงานปฏิรูปคืนให้ปี 2540 ที่เป็นป่าสงวนเป็นเรื่องกำหนดแนวเขต
การทำแผนที่เส้นหนึ่งทำให้เกิดการคลาดเคลื่อนถึงเกิดข้อถกเถียงว่าเป็นของป่าสงวนหรือไม่
หากมองเจตนาไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องจับระวางแผนที่
ประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัยถือการถือครองที่ดินจากบิดาปี
2555 แล้วทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐอย่างร้ายแรงหรือไม่
เพราะข้อเท็จจริงยุติแล้วว่าที่เป็นของบิดา แล้วนางสาวปารีณามาบริหารปี 2555
เป็นการบริหารก่อนเป็น ส.ส.
และทำต่อเนื่องเป็นการเห็นประโยชน์ส่งนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม ตามข้อ 27 มาตราจริยธรรม
ล่าสุดศาลพิพากษาว่า ผู้คัดค้านฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับจากวันที่ 25 มีนาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ค้ดค้านตลอดไป และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี มีผลให้ผู้คัดค้านไม่มีสิทธิ์รับเลือกตั้งเป็น ส.ส., ส.ว. ผุ้ริหารท้องถิ่นและดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 วรรคสี่ และพ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 87 และมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ข้อ 3 ข้อ 17 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง
ซึ่งในเวลาต่อมา
ศาลพิพากษาว่า ผู้คัดค้านฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม
มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับจากวันที่ 25 มี.ค. 64
ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกา สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตลอดไป
และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี
มีผลให้ผู้คัดค้านไม่ทีสิทธิ์รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ส.ว. ผู้บริหารท้องถิ่น
และดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235 วรรคสี่ และพ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
พ.ศ. 2561 มาตรา 81,
87 และมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ข้อ 3
ข้อ 17 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดว่า น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี
พรรคพลังประชารัฐ ยึดถือ ครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบดังกล่าว
เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
กรณีเป็นส.ส.กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม
ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรง
และกรณีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง
อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 11 ข้อ 17
ประกอบ ข้อ 27 วรรคสอง
คำพิพากษาดังกล่าว
ส่งผลให้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
ต้องว่างลง
และต้องตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นแทนตําแหน่งที่ว่างลงภายใน
45 วัน หรือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ราชบุรีเขต 3
ใหม่ ภายในกรอบ 45 วัน
#ปารีณา
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์