ศาลอนุญาตให้ฝากขัง
“ทานตะวัน” ต่ออีก 12 วัน ชี้พนักงานสอบสวนยังสอบไม่แล้วเสร็จ อดอาหารเป็นวันที่ 3
อ่อนเพลียเล็กน้อย ฝากบอกทุกคน “คิดถึง”
วันนี้
(22 เม.ย. 65) ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องขอฝากขัง “ทานตะวัน” ของพนักงานสอบสวนสน.นางเลิ้ง
เป็นครั้งที่ 5 ในคดีมาตรา 112 กรณีถูกกล่าวหาว่าไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จหรือไม่
โดยเจ้าหน้าที่ศาลแจ้งว่าจะให้ไต่สวนผ่านคอนเฟอเรนซ์จากเรือนจำ
และในเวลา
12.30 น. ศาลได้ไต่สวนคัดค้านคำร้องขอฝากขังตะวันเสร็จสิ้น
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า
ตำรวจขอฝากขังอีก 12
วัน ตั้งแต่ 23 เม.ย. - 5 พ.ค. 65 เพื่อสอบปากคำพยานในคดีอีก 4 ปาก ด้านทนายขอคัดค้านการฝากขัง ชี้ผู้ต้องหาเป็นเยาวชน กำลังศึกษาอยู่
ไม่สามารถไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ ไม่จำเป็นต้องขังผู้ต้องหาไว้
ซึ่งในเวลา
14.18 น. ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังตะวันต่อไปอีก 12 วัน ในวันที่ 23 เม.ย. - 5
พ.ค. 65 ศาลชี้ว่าพนักงานสอบสวนยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ และจำเป็นต้องสอบปากคำพยานเพิ่มอีก
4 ปาก
สำหรับ
“ทานตะวัน” อดอาหารเป็นวันที่ 3 ซึ่งเธอเผยว่ารู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย ได้ดื่มเพียงน้ำและนม
และฝากบอกทุกคนว่า “คิดถึง”
คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากกรณีที่
“ทานตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมอิสระวัย 20 ปี ถูกกล่าวหาในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 112,
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
รวมทั้งข้อหาขัดคำสั่งและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
หลังถูกจับกุมขณะไลฟ์สดบริเวณตรงข้ามองค์การสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2565
ซึ่งต่อมาวันที่ 7 มี.ค. 65 ศาลอาญาได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างสอบสวน
โดยให้วางหลักทรัพย์วงเงิน 100,000 บาท พร้อมทั้งให้ติด EM
และกำหนดเงื่อนไข
ต่อมาวันที่
5 เม.ย. 65 เวลา 10.00 น. ที่ ศาลอาญา รัชดาฯ นัดไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนประกันตัว “ทานตะวัน”
จากเหตุที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง อ้างในการขอถอนประกันครั้งนี้มาจากการโพสต์และแชร์ข้อความในเฟซบุ๊ก
10 ครั้ง พร้อมทั้งอ้างว่า
ทานตะวันและพวกพยายามขับรถเข้าใกล้พื้นที่ที่มีขบวนเสด็จในช่วงค่ำของวันที่ 17
มี.ค. 65
และในวันที่
20 เม.ย. ที่ผ่านมา ศาลมีคำสั่งยกคำร้องถอนประกัน ระบุว่า
ผู้ต้องหาเคยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไป แต่ทำผิดเงื่อนไขจนศาลถอนประกัน
จึงน่าเชื่อว่าหากให้ปล่อยชั่วคราวไป จะไปก่อให้เกิดภัยอันตรายอย่างอื่นอีก
จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว และถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำทัณฑสถานหญิงกลางในเวลาต่อมา
#ทานตะวัน #ตะวัน #มาตรา112
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์