[ถอดคำให้สัมภาษณ์จาก Morning Nation (3)
ออกอากาศเมื่อ 8 ส.ค. 66]
คนเคยรักกันแต่บอกเลิกกันเหมือนจะไม่มีเยื่อใยต่อกันแล้ว สุดท้ายถ้ากลับมา
มันจะรักกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้จริงหรือ?
เรื่องนี้เป็นเรื่องของบ้านเมือง
ต้องยกเอาความรู้สึกส่วนตัวหรือความเสียหน้า
ความรู้สึกเสียเกียรติยศของพรรคทิ้งไปเลย ต้องเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นหลัก
การเลือกตั้งเที่ยวนี้ประชาชนเขาแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนที่สุดนะครับว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ที่สุดของประเทศเขาต้องการที่จะกวาดล้างโครงสร้างเผด็จการที่ซ่อนเร้นอยู่ในเกือบจะทุกอณูของสังคมไทยทางการเมืองออกไป
แล้วมันก็สำเร็จแล้วก็คือโดยการเลือกพรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับหนึ่ง ก็คือ 151 เสียง
แล้วก็พรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับสอง 141 เสียง เพราะทั้งสองพรรคนี้แก่นที่ปรากฏต่อสายตาประชาชนก็คือฝ่ายประชาธิปไตย
เมื่อประชาชนเลือกมาด้วยเสียงท่วมท้นอย่างนี้เพราะรวมแล้วกว่า 70%
ก็แสดงเจตจำนงชัดเจนแล้วว่าต้องการที่จะกวาดล้างโครงสร้างเผด็จการที่มันซ่อนเร้นอยู่ในเกือบจะทุกอณูของการเมืองไทยให้มันหมดไป
ผมถึงพูดกับเพื่อไทย ขอให้เข้าใจเจตจำนงของประชาชนตรงนี้ด้วย
ถ้าที่สุดแล้วพรรคเพื่อไทยตัดสินใจไปต่อด้วยการข้ามขั้วจริง
ๆ เพื่อไทยจะต้องเสียอะไรบ้าง?
ถ้าเพื่อไทยตัดสินใจอย่างนั้นเป็นการตัดสินใจผิดพลาดมหันต์และเป็นการผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ชนิดที่ไม่อาจจะกลับมาได้อีกแล้ว
เพื่อไทยมีแต่จะตกต่ำลง ๆ ๆ ผมเป็นห่วงว่าเพื่อไทยจะตกต่ำยิ่งกว่าพรรคประชาธิปัตย์ที่ปรากฎในวันนี้อีกด้วยซ้ำไป
ประชาธิปัตย์เคยได้ 100 กว่าคล้าย ๆ กับเพื่อไทยนี่แหละ เพราะฉะนั้น
ขอความกรุณาด้วยความเคารพ คือทุกอย่างมันก็เริ่มต้นจากไม่มีไปสู่มี
จากเล็กไปสู่ใหญ่ จากอ่อนไปสู่แข็ง ตรงข้าม ถ้าคุณทำผิด จากที่คุณเคยยิ่งใหญ่จะลดลง
ๆ จนหายไป จากที่คุณเคยแข็งจะอ่อนลง จากที่เคยหยิ่งผยองได้หายวับไปกับตาเลย ผมจึงเรียนไปยังเพื่อไทยว่ากรุณาตัดสินใจใหม่เถอะครับ
ถ้าเป็นแบบนี้
ก่อนหน้าเราพูดว่าประชาชนคือผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ถ้าตอนนี้เพื่อไทยตัดสินใจแบบนี้
ผนังทองแดงกำแพงเหล็กจะยังคงแข็งแกร่งอยู่มั้ย เห็นหลายคนบอกรับไม่ได้
ทยอยประกาศลาออกบ้าง โบกมือลาบ้าง ถ้าเขาจับมือกันจริง ๆ คุณหมอจะยังสนับสนุนอยู่มั้ยครับ?
คือประชาชนพร้อมที่จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้กับระบอบประชาธิปไตย
ถ้าเกิดพรรคการเมืองและการกระทำทุกอย่างที่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนก็คือสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง
ประชาชนมีความเท่าเทียมกันทางการเมืองทุกคนอย่างถ้วนหน้า
ฉะนั้นใครก็ตามที่ทำอย่างนี้ประชาชนก็จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้
แต่ใครก็ตามที่ทำตรงกันข้ามกลายเป็นว่าจะพลิกกลับเลย
ประชาชนจะกลับกลายเป็นผู้ขับเคี่ยวทางการเมือง
ผมไม่อยากจะเรียกว่าศัตรูทางการเมืองเลย เพราะถ้าคุณทำตัวเป็นเครื่องมือเผด็จการ
มันจะกลายเป็นว่าคุณจะหันหน้ากลับมาเผชิญกับประชาชนทันที
ฉะนั้น
ประชาชนจะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กได้กับเฉพาะพรรคการเมืองหรือการกระทำที่สร้างประชาธิปไตย
สร้างความเท่าเทียมกันให้เกิดขึ้นกับประชาชน เพราะฉะนั้นผมจึงบอกพรรคเพื่อไทยไงครับ
ยังมีเวลาอีกประมาณ 2 อาทิตย์ที่คุณจะตัดสินใจเปลี่ยนการตัดสินใจได้
ตอนนี้เหมือนกับคุณขี่ม้าไปที่ริมชะง่อนเหวลึก
คุณสามารถที่จะรั้งบังเหียนม้าที่ริมชะง่อนเหวลึกได้ ดังนั้นกรุณารั้งบังเหียนม้าที่ริมชะง่อนเหวลึก
อย่าควบม้ารุดหน้าต่อไป เพราะคุณจะตกเหวนะ และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไปจับมือกับเผด็จการ
ผมบอกลาเลยครับและผมจะไม่สังฆกรรมกับพรรคเพื่อไทยอีกต่อไปถ้าคุณไปจับมือกับเผด็จการครับ
ถ้ามองว่าต้องหยุดม้าริมผา ถ้าคนที่เขานั่งอยู่บนบังเหียนเขาบอกว่าอยากจะกระโดดไปอีกฝั่งได้มั้ย
หลายคนวิเคราะห์ว่าเพื่อไทยในอนาคตอาจไม่ได้อยู่สาย Liberal (เสรีนิยม)
แล้ว อาจะเป็น Neoconservative (อนุรักษ์นิยม) คุณหมอมองยังไง
มีโอกาสเป็นไปได้มั้ย
คือในวันนี้ประชาชนชี้ขาดทางการเมือง
ประชาชนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุดทางการเมือง ดังนั้นทันทีที่คุณย้ายขั้วไปอยู่กับเผด็จการ
ผมเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้เขาเอียนเหลือเกินกับเผด็จการ
เขาชิงชังและเขาพร้อมที่จะเป็นศัตรูกับเผด็จการ ไปดูกรณีเมษา-พฤษภา ปี 53 ซิครับ
ขนาดเผด็จการให้กองทัพ 6 หมื่นนาย ใช้กระสุน 2 แสนกว่านัด
ถามว่าประชาชนถอยหรือเปล่า ไม่ถอยนะ ทั้ง ๆ ที่ประชาชนสองมือเปล่า
เพราะฉะนั้น
เพื่อไทยโปรดเรียนรู้ไว้ด้วยนะครับว่าประชาชนเขาพร้อมเผชิญหน้ากับเผด็จการด้วยมือเปล่านี่แหละ
ถ้าหากว่าคุณเปลี่ยนฟากไปนะ คุณอ้างบอกว่าคุณจะไปเป็น Neoconservative (อนุรักษ์นิยม) ประชาชนเขาจะทิ้งคุณอย่างแน่นอน ผมท้าทายนะครับ
ผมอยากจะรู้ว่าประเทศไทยจะมีประชาชนสักเท่าไหร่ที่จะเป็น conservative สุดขั้วอย่างที่เห็น ๆ กันอยู่นะ ผมไม่เอ่ยชื่อก็แล้วกัน
แล้วถ้าเพื่อไทยข้ามขั้ว คนที่เป็น FC
ของพรรคเพื่อไทยจะมีแรงกระเพื่อมจนถึงลงถนนหรือรุนแรงมากไปกว่านั้น
มันขึ้นอยู่กับฝั่งตรงข้ามว่าจะยั่วยุมากน้อยขนาดไหน
แต่จริง ๆ แล้วขณะนี้สิ่งที่ประชาชนแสดงออกมาคือความผิดหวังกับความตั้งใจ
กับความมุ่งมั่นปรารถนาดีที่มีต่อพรรคเพื่อไทยแค่นั้นเอง เพราะฉะนั้นถ้าจะแสดงอะไรออกมาก็ผมว่าคงจะอยู่ในกรอบที่เขาผิดหวังมากเลยที่ไอดอลเขา
ที่ฮีโร่เขาซึ่งเขาคิดว่าจะเป็นประชาธิปไตย แต่กลับกลายเป็นเปลี่ยนใจทรยศหรือหักหลังฝ่ายประชาธิปไตยไปอยู่ฝ่ายเผด็จการเท่านั้นเอง
คงจะไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ผมดูแล้วประชาชนเขาเคารพกติกาประชาธิปไตย ถ้าหากว่าฝ่ายโน้นตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้
ประชาชนก็คงจะรอดูท่าทีว่าจะทำยังไงกันต่อไป
แต่ว่ากระแสคลื่นรุนแรงกระแทกใส่เพื่อไทยนั้นแน่นอนครับ
ถ้ามองว่าข้ามขั้วมีข้อเสียเยอะ ถ้ากลับมาจับมือกับ 312
ในฝั่ง 8 พรรค MOU เดิม มีข้อเสียหรือจุดอ่อน บ้างมั้ยครับ?
ทางการเมืองเป็นการต่อสู้กันชนิดหนึ่งที่มีคนเขาบอกว่าการเมืองคือสงครามที่ไม่หลั่งเลือด
เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อชัยชนะ
เที่ยวนี้เพื่อไทยต้องคิดว่าทำอย่างไรถึงให้ประชาธิปไตยชนะ
อุปสรรคมีเพียงอย่างเดียวก็คืออำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีของสว.ซึ่งเป็นเนื้อร้ายที่พวกคสช.เขาฝังเอาไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้
แล้วเนื้อร้ายชิ้นนี้ก็รู้ทั้งรู้ว่าจะหมดอำนาจไป จะมลายหายไป จะตายไป
หมายถึงอำนาจทางการเมืองนะ ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ฉะนั้นก็ให้เพื่อไทยจับหลอมรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันอย่างที่ผมเขียนไว้กับก้าวไกล
หลอมเป็นทองแผ่นเดียวกันอะไรมาก็แยกไม่ได้ รอไปจนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2567
ซึ่งประมาณ 9 เดือน มีคนเขาบอกว่าคุณหมอพูดอย่างนี้ได้ยังไง ประชาชนเขาแย่อยู่แล้ว
ขอโทษเถอะครับ 9 ปีที่ผ่านมาทำไมประชาชนเขาทนได้ แล้ว 4
ปีที่คุณเป็นพรรคฝ่ายค้านอยู่ คุณไม่เห็นร้องแรกแหกกระเชออย่างนี้ออกมาเลย
อันนี้มันรอได้ ประชาชนเขารอได้ รออีก 9 เดือน คือได้มาตั้ง 12 เท่าคือให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยที่แข็งแรง
ที่ท่านนายกฯ ทักษิณสามารถพัฒนาประเทศให้เจริญรุดหน้าได้จนสิงคโปร์ยังกลัวเพราะขณะนั้นเป็นบรรยากาศประชาธิปไตยที่เต็มพิกัด
ที่แข็งแกร่งที่สุด เลยทำให้ท่านนายกฯ
ทักษิณสามารถที่จะสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นได้ ฉันใดก็ฉันนั้น
ประเทศไทยในวันนี้จะสามารถที่พลิกฟื้นจากเศรษฐกิจที่แย่
ติดอยู่ในเหวลึกมาก ได้ก็ต่อเมื่อประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
และถ้าหากกลับไปย้อนดูเมื่อไม่ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา
ก้าวไกลเขาเปิดโอกาสให้เพื่อไทยทำงานเศรษฐกิจเต็ม ๆ เลย
กระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมดเขาทูลให้กับพรรคเพื่อไทยเลย และก้าวไกลจะทำหน้าที่ในการเปลี่ยนโครงสร้างทางอำนาจทางการเมืองเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้นองค์ประกอบมันไปได้สวยเลย แล้วทำไมคุณถึงเปลี่ยนใจครับ
การตั้งรัฐบาลของเพื่อไทยตอนนี้เจอด่านหินและไม่ง่าย
มองว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะไหลไปที่พรรคอันดับ 3 อย่างภูมิใจไทย
มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย
ถ้าพรรคเพื่อไทยยังดื้อรั้นดันทุรังควบม้าดิ่งลงเหวก็ช่วยไม่ได้ ถ้าเพื่อไทยยังไปทางโน้นนะ
หัวหน้าพรรคเป็นคนบวกคณิตศาสตร์เองบอกว่าฝั่งตรงข้ามเป็นพรรคเดียวที่มี 188 เสียง
คนเป็นคนพูดเองต่อสาธารณะว่าฝั่งตรงข้ามเป็นพรรคเดียวที่มี 188 เสียง
ซึ่งมากกว่าคุณตั้งไม่รู้เท่าไหร่ คุณมีแค่ 141 เขามากกว่าคุณตั้ง 40
นี่ถ้าหากว่าเอา 188 ของเขาไปบวกกับ 250 ซึ่งถือว่าเป็นพรรคเดียวกันอีก ก็คือเขามีตั้ง
438 เสียง คุณจะเอาอะไรไปสู้เขา สุดท้ายแล้วคุณก็กลายเป็นเบี้ยตัวเล็ก ๆ
เป็นฝุ่นละอองที่คุณต้องไปสยบยอมต่อเขา เขาชี้ซ้ายคุณก็ต้องไปทางซ้าย
เขาชี้ขวาคุณก็ต้องไปทางขวา เขาให้คุณก้ม ไม่อยากพูดอะไรให้แรงกว่านี้ คุณก็ต้องไปตามเขาครับ
ส.ส.เพื่อไทยบางกลุ่มบอกว่าถ้าจับมือกับก้าวไกล แล้วทำนโยบายแล้วเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น
ผลงานก็จะไปตกกับก้าวไกล เลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อไทยจะลำบากกว่าเดิมอีก สู้พลิกครั้งนี้
ชนกันไปเลย แล้วไปวัดการเลือกตั้งครั้งหน้า กลัวถูกส้มขี่คอ คุณหมอมองยังไง?
ผมอยากจะถาม
คนที่คิดอย่างนี้คุณเอาประชาชนกับประเทศชาติเป็นที่ตั้ง
หรือคุณเอาผลประโยชน์ของคุณกับผลประโยชน์ของพรรคเพื่อไทยหรือของพรรคก้าวไกลเป็นที่ตั้ง
ผมอยากจะให้รื้อถอนความคิด ต้องเอาประเทศเป็นที่ตั้ง เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง
ประเทศต้องเป็นประชาธิปไตยที่แข็งแรง
และรื้อโครงสร้างของเผด็จการออกไปจากทุกอณูของสังคไทยให้ได้ ในขณะที่รื้อไปคุณก็สามารถที่จะสร้างเศรษฐกิจได้
เมื่อสักครู่ผมได้เรียนไปแล้วครับว่า ถ้าหากย้อนกลับไปประมาณสัก 2 อาทิตย์
ก็จะเห็นรูปโฉมของรัฐบาล 312 เสียง 8 พรรค ว่าก้าวไกลเขาจะไปดูแลกระทรวงที่ทำหน้าที่ในการรื้อโครงสร้างเผด็จการทั้งหลาย
ส่วนก้าวไกลก็จะเปิดเต็มที่ให้เพื่อไทยทำกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมดเลย
ต่างคนต่างก็สร้างผลงานแข่งขันกันเพื่อสร้างความนิยมชมชอบในหมู่ประชาชน
แต่ทั้งหลายทั้งปวงบนพื้นฐานที่ประเทศก้าวไปข้างหน้า
คือประเทศปลอดพ้นจากเผด็จการรัฐประหารที่มันซุกซ้อนอยู่ในทุกอณู
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐธรรมนูญปี 60 นี่เพื่อไทยประกาศเลยนะครับว่า
การที่ถอนออกมาจากก้าวไกลเพื่อที่จะไปร่างรัฐธรรมนูญ ผมถามว่าจะสำเร็จได้ยังไง
รัฐธรรมนูญนี่ก็มาจากฝั่งโน้น 188 เป็นคนร่างขึ้นมา แล้ว 250 สว. เขาได้อานิสงส์เต็มที่
แล้วเขาจะยอมแก้รัฐธรรมนูญตามที่เพื่อไทยประกาศหรือโฆษณาไว้เหรอ เป็นไปไม่ได้ครับ
ที่บอกว่าถ้าปล่อยให้ก้าวไกลทำงานแล้วเพื่อไทยทำงานร่วมกัน
ก้าวไกลจะได้คะแนนเสียงจากประชาชนมากกว่า
ผมว่าอันนี้ข้อที่
1 ก็คือว่าคุณตั้งโจทย์ผิด ก็คือเอาผลประโยชน์พรรคเป็นหลัก
คุณต้องเอาผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก ข้อที่ 2
ก็คือแปลว่าคนพูดอย่างนี้เขาดูหมิ่นเพื่อไทยอย่างนั้นใช่มั้ย แปลว่าคนของเพื่อไทยไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศจนไม่สามารถที่จะสร้างคะแนนนิยมชมชอบให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนใช่หรือเปล่า?
คุณอย่าไปดูหมิ่นตัวเองเลยครับเพื่อไทยก็มีศักยภาพนะครับ
เพราะฉะนั้นก็กลับมารวมกันดีกว่าครับ
ที่เพื่อไทยรีบร้อนขนาดนี้มันเกี่ยวกับคุณทักษิณจะกลับบ้านมั้ย?
คือเพื่อไทยต้องรัฐบาลให้ได้ ต้องมีนายกฯ เป็นคนของเพื่อไทย
อันนี้เราต้องเคารพท่านนายกฯ
ทักษิณ ก่อนนะว่าท่านมีสิทธิ์กลับนะ แล้วอันที่สองท่านก็เขียนออกมาและพูดออกมาหลายครั้งนะว่าท่านพร้อมจะกลับเข้ามาและปฏิบัติไปตามกระบวนการยุติธรรมไทย
หมายความว่าเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนมากไปกว่านั้นท่านจะวางแผนกลับมาให้มันเหมาะสมเพื่อทำให้ภาระหรือความยุ่งยากลำบากของท่านน้อยลง
ท่านจะวางแผนอย่างไรอันนี้ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่ผมก็เป็นห่วงท่านนิดนึงในฐานะที่เป็นคนรู้จักกันว่า
คือพูดอะไรขอให้พูดคงเส้นคงวา อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เมื่อวานพูดอย่าง
วันนี้พูดอย่าง อันนี้ความน่าเชื่อถือของท่านเสียหายไป
และในวันนี้กลายเป็นว่าความน่าเชื่อถือที่เสียหายไปนี่มันกระทบไปถึงคุณอุ๊งอิ๊งด้วยนะครับ
เพราะว่าวันนั้นท่านบอกว่าจะกลับมาวันที่ 10 สิงหาคม
แล้วคุณชูวิทย์ก็บอกว่าไม่กลับ คุณอุ๊งอิ๊งก็โพสต์ทันทีว่าเพ้อเจ้อ
พอมาเมื่อวันซืนวันที่ 5 ใช่มั้ยครับ ท่านก็บอกว่าขอเลื่อนไปอีก 2 สัปดาห์กลับมา แล้วปรากฎว่าท่านมีข่าวออกมาโดยสำนักข่าวของประเทศเพื่อนบ้านเองว่าท่านไปร่วมงานวันเกิดของผู้นำของประเทศเพื่อนบ้านอย่างนี้
อันนี้มันเสียหายหมดกับตัวท่านและเสียหายหมดกับคุณอุ๊งอิ๊งด้วย
แล้วความเห็นส่วนตัวของคุณหมอเชื่อมั้ยว่าอีก 2 สัปดาห์
คุณทักษิณจะกลับมารอบนี้
อืมมม..อันนี้เป็นความเชื่อนะ
ผมเชื่อว่าท่านคงจะเก็บรวบรวมข้อมูลทุกอย่างทางการเมืองและการเคลื่อนไหวทางสังคมทางอะไรต่าง
ๆ แล้วท่านก็จะวางจังหวะที่เหมาะสม ที่ท่านเลื่อนไปผมเข้าใจว่าที่ท่านจะมาวันที่
10 สิงหาคมนี่ยังไม่เหมาะสม ถ้าพูดตรงไปตรงมาแบบประชาชนทั่วไปก็คือว่ายังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้
ผมค่อนข้างจะเชื่อว่าท่านจะกลับมาหลังจากที่จัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว
ถ้าในบรรยากาศอย่างนี้ หรือในบริบท หรือในฉากทัศน์อย่างนี้
ก็คือพรรคเพื่อไทยไปจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับฝั่ง 10 พรรค 188 เสียงเรียบร้อยแล้ว
ท่านจะมองอย่างนั้นหรือเปล่าผมไม่รู้นะ ผมไม่สามารถที่จะไปหยั่งรู้จิตใจท่านได้
แต่ผมดูจากพฤติกรรมภายนอกแล้วก็คือท่านจะกลับมาหลังจากที่จัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้วนะครับ
มีนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเรียบร้อยแล้ว
ไม่รู้ว่าจะเป็นฝ่ายไหน แต่ดูแล้วน่าจะเป็นฝ่ายโน้นมากกว่า (ฝ่าย 188 เสียง)
ชมลิ้งค์สัมภาษณ์
: https://www.facebook.com/NationOnline/videos/323025030288452