วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2566

นายเศรษฐา ทวีสิน รับสนองพระบรมราชโองการ แต่งตั้ง เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย แล้ว

 


“เศรษฐา ทวีสิน” รับสนองพระบรมราชโองการ แต่งตั้ง เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย


วันที่ 23 สิงหาคม 2566 เวลา 18.00 น. ที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการ แต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย โดยมีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคณะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ


นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่าน พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ความว่า


พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา


จึงแต่งตั้งให้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน


ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร


ต่อมา นายเศรษฐา ได้กล่าวนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และขอบคุณขอบคุณประชาชน ข้าราชการทุกภาคส่วน สำหรับความเชื่อมั่นให้ได้มีโอกาสบริหารราชการแผ่นดิน ความว่า


เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้กระผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  นับเป็นศุภสิริมงคล แก่ชีวิตและขวัญกำลังใจอันสูงสุด แก่กระผมและครอบครัว อย่างหาที่สุดมิได้ กระผมมีความปลื้มปิติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และความ วัฒนาสถาพร ของประเทศชาติ สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ และตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ


ในวาระที่ผมได้เข้ามาดำรงตำแหน่งในวันนี้ ผมขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมา ขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน ตลอดจนภาคประชาสังคม เอกชน สำหรับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้ผมได้มีโอกาสในการบริหารราชการแผ่นดิน


พี่น้องประชาชนคนไทยที่เคารพ ผมขอยืนยันว่าผมจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ผมมั่นใจว่า 4 ปีต่อจากนี้ จะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง


ประเทศไทยวันนี้อยู่ท่ามกลางจุดเปลี่ยนสำคัญ เรามีวิกฤตและปัญหาที่ต้องการทางออกอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ รายได้ รายจ่าย ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ความมั่นคง สังคม การต่างประเทศ สิ่งแวดล้อม กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม  การทุจริตประพฤติมิชอบ และอื่น ๆ อีกมากมายที่ล้วนก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม ความยากลำบาก


ผมมีความประสงค์ที่จะดำเนินนโยบายต่าง ๆ ที่ได้เตรียมไว้เพื่อแก้ไขวิกฤต บรรเทาปัญหา สร้างการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาค ไปจนถึงในภาคของครัวเรือน ขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า บริหารงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ สร้างความร่วมมือเชิงบวกกับภาคเอกชน ภาคการต่างประเทศ ทำให้ทั้งภาคประชาชนและราชการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน


ผมมีความตั้งใจที่จะประสานประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน สร้างสังคมที่เคารพอัตลักษณ์  เคารพความแตกต่างทางความคิด และเคารพกฎกติกาในกรอบระเบียบและกฎหมาย สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงและตรงไปตรงมา


ในฐานะของตัวแทนรัฐบาล ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ร่วมกันเป็นพลังที่จะคอยผลักดัน ร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาลเพื่อนำพาประเทศไทยของเราไปข้างหน้า


พี่น้องประชาชนที่เคารพ ผมขอให้คำมั่นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จะทำงานอย่างหนักเพื่อบำบัดความทุกข์ สร้างความสุข นำพาความเจริญให้กับประชาชนคนไทยและคนทุกกลุ่ม อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งความหวังของคนรุ่นใหม่ เป็นดินแดนแห่งความสุขของคนทุกวัย เป็นประเทศที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีนานาชาติอีกครั้งหนึ่ง


ผม นายเศรษฐา ทวีสิน จะขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเท ทำงานหนัก รับฟังเสียงของประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ นำพาประเทศไทยไปข้างหน้า และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคน  นับจากวันนี้เป็นต้นไป


ขอบคุณครับ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #นายกคนที่30 #เศรษฐาทวีสิน #เพื่อไทย