‘อุ๊งอิ๊ง’ เผย ‘ทักษิณ’ เครียด อ่อนเพลีย ยังไม่รู้ออกรพ.วันไหน
ส่วนปมขอพระราชทานอภัยโทษ ไม่ยุ่ง ปล่อยให้คุณพ่อดำเนินการ
วันที่
29 สิงหาคม 2566 เวลา 12.45 น.
ที่ สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีเดินทางเข้าเยี่ยม นายทักษิณ
ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วันนี้เป็นวันที่สองแล้ว ภายหลังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ส่งตัวมารักษาอาการป่วย ที่ รพ.ตำรวจ ระบุว่า “คุณพ่อมีอาการอ่อนเพลีย
เห็นตั้งแต่วันที่เดินทางถึงเมืองไทย คุณพ่อไม่สดชื่นเท่าเดิม แต่ตนเข้าใจ เพราะ 17 ปี ที่ผ่านมา คุณพ่อไม่ได้อยู่เมืองไทย คงมีอาการเครียดพอสมควร
โดยคืนวันที่คุณพ่อเข้าโรงพยาบาล
ตนก็ทราบพร้อมกับสื่อว่าคุณพ่อไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีอาการเครียด
อ่อนเพลีย”
ส่วนที่ทางทนายความส่วนตัวบอกว่าอาการน่าเป็นห่วงนั้น
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “น่าเป็นห่วงในที่นี้
ตอนที่ตนท้องน้องธิธาร ในปี 2020 คุณพ่อติดโควิดช่วงเป็นไวรัสอู่ฮั่น
ก่อนมีการฉีดวัคซีน ซึ่งป่วยหนักมาก เข้าไอซีอยู่ 9 วัน
อยู่โรงบาล 1 เดือน ออกมาน้ำหนักลดไป 10 กิโลกรัม ที่ปอดยังมีรอยอยู่ ซึ่งหลังจากหายป่วย คุณพ่อพยายามออกกำลังกาย
แต่แน่นอนคนอายุ 74 แล้ว บวกกับความเครียดด้วย”
ส่วนสภาพร่างกายกับจิตใจตอนนี้
ความเครียดของคุณพ่ออยู่ในระดับไหนนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “คุณพ่อดีใจมากที่ได้เจอตน
คุณพ่อมีความเครียด และเหนื่อย แต่ยังสู้ มองว่าคุณพ่อมีความเปลี่ยนแปลงเยอะ
ใครก็ตามต้องมาเปลี่ยนสถานที่อยู่ ไม่ต้องเป็นราชทัณฑ์ หรือโรงพยาบาลก็ได้
คงเกิดความรู้สึกเครียดแบบคุณพ่อเช่นกัน โดยตอนนี้ทีมคุณหมอเก่งมาก
มีการมอนิเตอร์ทุกอย่าง ซึ่งประวัติการรักษาคุณพ่อที่เมืองนอก
ตนได้ให้ประวัติการรักษากับคุณหมอไปหมดแล้ว”
ส่วนครอบครัวมีการพูดคุยถึงเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษแล้วหรือไม่
แพทองธาร กล่าวว่า “ตรงนี้ให้เป็นดุลยพินิจของคุณพ่อ คุณพ่อจะดำเนินการเมื่อไร
ยังไง ให้คุณพ่อเป็นคนทำเอง ตอนนี้ไม่มีติดขัดเงื่อนไขอะไร
แต่เรื่องของเวลาการร่างจดหมายอยู่ที่คุณพ่อว่าจะเลือกเวลา
และการดำเนินการทั้งหมดให้เสร็จเรียบร้อยตามกระบวนการ โดยคุณพ่อทำคนเดียว
ตนไม่ได้เห็นจดหมายด้วย”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสที่มีการบอกว่าจะย้ายตัวคุณพ่อมารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนนั้น
แพทองธาร กล่าวว่า “ตอนนี้คุณหมอที่โรงบาลตำรวจเก่ง ๆ เยอะมาก
ยืนยันไม่ได้มีการย้ายไปที่โรงบาลเอกชน
โดยมีการถามคุณหมอเรื่องระยะเวลาการรักษาตัวของคุณพ่อ
แต่ยังไม่ทราบว่าต้องรักษาอีกนานแค่ไหน”
ผู้สื่อข่าวถามว่าเสียใจหรือไม่ที่สังคมดูเหมือนจะไม่เชื่อว่าคุณพ่อป่วยและบอกว่าเป็นอภิสิทธิ์ชนนั้น
“อุ๊งอิ๊ง” กล่าวว่า “ตนไม่ได้เสียใจ หรือไม่เสียใจ แต่เป็นห่วงคุณพ่อมากกว่า และห่วงคนที่ห่วงท่าน
ดีใจที่เมื่อวานได้เข้าไปพบคุณพ่อ คุณพ่อมีอาการเหนื่อย เพลีย แต่พูดคุยได้”
แพทองธารยังกล่าวอีกว่า
เรื่องห้องพักที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นห้องฝั่งที่เห็นวิวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ไม่ใช่ฝั่งที่เป็นสนามกอลฟ์อย่างที่เป็นกระแส
ส่วนเครื่องปรับอากาศในห้องตอนนี้ซ่อมแล้ว ทั้งนี้ ในฐานะความเป็นลูก
ตอนนี้ห่วงเรื่องหัวใจของคุณพ่อมากที่สุด
