วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2566

รบ.เพื่อไทย สลายขั้ว! อย่าพูดว่ามันต้องเจ็บปวดเพื่อได้สังคมใหม่ มันไม่ใช่! มันทำให้ความพยายามเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมใหม่ยากลำบากขึ้น

 


รบ.เพื่อไทย สลายขั้ว! อย่าพูดว่ามันต้องเจ็บปวดเพื่อได้สังคมใหม่ มันไม่ใช่! มันทำให้ความพยายามเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมใหม่ ยากลำบากขึ้น


[ถอดคำพูดฉบับเต็ม จากรายการ สับประเด็น ดำเนินรายการโดย อาร์ท เอกรัฐ ตะเคียนนุช ทาง PPTV HD36 ออกอากาศเมื่อ 16 สิงหาคม 2566]


** การจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ อาจารย์นิยามอย่างไร? **


เป็นรัฐบาลที่ก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างผู้รักประชาธิปไตยกับผู้ที่สนับสนุนระบอบเผด็จการและการสืบทอดอำนาจไปแล้ว ก้าวข้ามไปแล้ว เส้นมันดำรงอยู่ พรรคการเมืองอาจจะเรียกว่าเป็นขั้ว แล้วบอกว่าสลายขั้ว แต่สำหรับประชาชน การต่อสู้เพื่อให้ได้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงมันมีมายาวนาน เป็นมรดกตกทอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้ แล้วก็จะไม่ล้มเลิก คนเสื้อแดงเป็นส่วนหนึ่งในมรดกของการต่อสู้และประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชน


แต่ ณ บัดนี้ ต้องพูดตรง ๆ นะ ความจริงก็ถือว่าเป็นมิตรสหายกัน มิตรร่วมรบ สหายร่วมศึก แต่ว่าตอนนี้เขาเลิกรบ เท่ากับเราสูญเสียทัพใหญ่ของประชาชนไปหนึ่งทัพ เพราะว่าเขาได้ก้าวข้ามเส้นแบ่ง พูดง่าย ๆ ว่าจากการอยู่กับต่อสู้ของประชาชนไปร่วมมือกับฝั่งที่เป็นฝั่งตรงข้ามของการต่อสู้ประชาชนไปเรียบร้อยแล้ว


**อาจารย์มีโอกาสได้พูดคุยกับพี่น้องคนเสื้อแดง หรือประเมินความรู้สึกภาพรวมใหญ่ ๆ ประเมินว่าอย่างไร? ไม่พอใจหนักเลย พอรับได้ หรือมีจุดใดที่รับได้บ้าง? **


อย่างที่บอกว่าเราต้องเข้าใจว่าคนเสื้อแดงมีหลายส่วน ถ้าเป็นคนเสื้อแดงอุดมการณ์ที่ผ่านมาต่อสู้และรับมรดกของการต่อสู้มา คนเสื้อแดงเหล่านี้เขาต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ได้อำนาจประชาชนจริง คนเสื้อแดงเหล่านี้เขาก็จะยืนยัน เขาไม่สนับสนุนในการที่จะไปจับมือกับฝั่งที่สืบทอดอำนาจรัฐประหารแน่นอน เพราะนั่นคือเป็นปฏิปักษ์กับอุดมการณ์และการต่อสู้เรา เท่ากับเราได้ทอดทิ้งสิ่งที่ต่อสู้มายาวนาน แล้วเราจะไปทวงความยุติธรรมที่ไหน เพราะว่าเขาไปอยู่ด้วยกันแล้ว นี่เป็นเสื้อแดงในส่วนนี้


แต่ก็อาจจะมีเสื้อแดงอยู่จำนวนหนึ่ง อาจจะเป็นแฟนคลับ อาจารย์ไม่ได้ด้อยค่าเขา เขาเป็นแฟนคลับ อาจจะมาทีหลัง หรือมีความผูกพันกับพรรค หรือมีความผูกพันกับคุณทักษิณ ก็จะมีอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ว่าตัวเลขเหล่านี้ ถ้าเป็นวิทยาศาสตร์มันจะเห็นเลยว่ามันน้อยลงไปนับตั้งแต่มีพรรคทางเลือก ดังที่อาจารย์เคยบอกแล้วว่าในปี 2554 หลังจากที่มีการฆ่าในปี 2553 เกิดการสลายการชุมนุมและนำไปสู่การเลือกตั้งปี 2554 คือคนเสื้อแดงทั้งหมดเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย แล้วออกมาเป็นประมาณเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ออกมาโหวต ประมาณ 45% เลือกเพื่อไทย 15.7 ล้านเสียง คนมาเลือกตั้ง 35 ล้านคน


เราไม่พูดถึงเลือกตั้งบัตรใบเดียวนะ อันนั้นประมาณ 7-8 ล้าน ข้ามมาเลย เอาบัตร 2 ใบ การเลือกตั้งรอบนี้ 2566 คนมาเลือกตั้ง 39 ล้านคน ปรากฏว่าเพื่อไทยได้คะแนนเสียง 27% จาก 45% เหลือ 27% ถ้าพูดเป็นตัวเลขก็ 15.7 ล้านคน เหลือ 10.9 ล้านคน เพราะฉะนั้นตัวเลขมันลงมาเยอะมาก แสดงให้เห็นว่าคนเสื้อแดงยังมีการต่อสู้อยู่ในรูปการณ์จิตสำนึกอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น เมื่อมีทางเลือกที่คิดว่าตอบโจทย์ตัวเอง เพราะว่าเขาต้องการเปลี่ยนประเทศไทย คนเสื้อแดงไม่เคยออกมาเรียกร้องทางเศรษฐกิจ เขาไม่ได้ต่อสู้ทางเศรษฐกิจนะ เขาต่อสู้ทางการเมือง ดังนั้น เราก็จะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงคะแนนเสียง


** อาจารย์ประเมินให้หน่อย การเดินหน้าไปข้างหน้าว่ามันมีโอกาสจะลดลงไปมากขนาดไหน? **


ถ้าเป็นคนเสื้อแดงซึ่งส่วนใหญ่นะ ในทัศนะอาจารย์เป็นคนส่วนใหญ่ เพราะเราได้ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์ของการต่อสู้ไว้หมดแล้ว เขาไม่เคยออกมาต่อสู้เรื่องเศรษฐกิจเลย ต่อสู้เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างเดียว อาจารย์ว่าคนส่วนนี้จะรับไม่ได้เกือบหมดเลย ยกเว้นคนที่เฉดของการต่อสู้น้อยกว่า แต่ว่าเป็นเฉดความรักและความเชื่อในพรรคมากสักหน่อย ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด เราก็ไม่ได้ด้อยค่า เพราะว่ามันต่างกันได้ ฉะนั้นเดินไปข้างหน้า คุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยจะต้องใช้แนวทางแบบบ้านใหญ่เหมือนเดิม แต่มาถือธงของฝ่ายอนุรักษ์นิยมแล้วคือมาแย่งตลาดฝั่งอนุรักษ์นิยม เพราะตลาดเสรีประชาธิปไตยก็จะไม่ใช่แล้ว อาจจะมีพรรคใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกก็ได้ เพราะตลาดมันใหญ่ ตลาดนี้มีคนรุ่นเก่าไปจนถึงคนรุ่นใหม่ 100% เพราะฉะนั้นตลาดอนุรักษ์นิยมนี้ตอนนี้มันจะเหลือ 20% เพราะรอบนี้รวมกันมันประมาณ 70 กว่าเปอร์เซ็นเป็นฝ่ายเสรีประชาธิปไตย


** อารมณ์ความรู้สึก “สลายขั้ว” ไปไหวมั้ยครับ


คือคำว่า “สลายขั้ว” มันใช้ได้กับพรรคการเมือง แต่ว่าประชาชนใช้ไม่ได้  เป็นพรรคการเมืองที่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องมิติการต่อสู้ของประชาชน ประมาณว่าภาษาเดียวกันหมด “ก้าวข้ามความขัดแย้ง-สลายขั้ว” ความจริงอาจารย์ก็เป็นห่วงพรรคเพื่อไทย ที่เตือนมาก่อน ๆ หน้านี้เป็นการเตือนด้วยความหวังดี ไม่ว่าจะเป็นตอนแก้รัฐธรรมนูญ 2550 ก็คิดไม่เหมือนกัน เพราะว่าของอาจารย์มองว่ามันมีความขัดแย้งมาก ดังนั้นต้องเลือกสสร.ทั้งหมด แล้วสสร.ไปตั้งกรรมการร่างฯ ไม่ใช่รัฐบาลตั้ง จากนั้นโยนให้เป็นสสร.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด แต่ว่าต่างกัน ของพรรคเพื่อไทยคือพรรคตั้งกรรมการร่างฯ แล้วสสร.โหวตยกมือ แล้วถ้าตอนนั้นมีการเลือกตั้งจริงตามรัฐธรรมนูญแบบนปช.นะ อาจารย์ว่าเรื่องร้าย ๆ ทั้งหมดก็จะไม่เกิดขึ้นนะ  เพราะว่ามีการแก้รัฐธรรมนูญ 2550 แล้วก็สสร.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ทุกคนก็ลงสู่กติกา ที่ดีกว่าเดิม


เรื่องนิรโทษกรรม อาจารย์บอกว่ามันไม่ได้ อันนั้นอาจารย์รู้ว่ามันไม่ได้ นปช.เสนอเป็นพระราชกำหนดด้วยซ้ำ นิรโทษเฉพาะประชาชน ไม่ใช่แกนนำ เพราะเรารู้ว่าประชาชนแต่ละข้างเจ็บปวด ฝ่ายที่เป็นเสื้อเหลืองก็ไม่ต้องการนิรโทษให้คุณทักษิณ ส่วนคนเสื้อแดงต้องการช่วยคุณทักษิณ แต่ก็ไม่ต้องการนิรโทษให้ฝั่งที่ฆ่าประชาชน มันไม่ใช่เพราะฆ่าคนเสื้อแดงอย่างเดียวนะ มันก็จะฆ่าประชาชนไปเรื่อย ๆ นี่คือความขัดแย้งจริง แต่ว่าแกนนำและผู้นำต้องเสียสละ แต่ในที่สุดมันก็ออกมาเป็นสุดซอย อันนี้ก็คือไม่เชื่อเรา แต่ว่าคนเสื้อแดงไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง ไม่ได้ลุกขึ้นมาต่อต้านนิรโทษสุดซอยและกปปส.นะ เขาทำอยู่ข้างเดียวจนกระทั่งรัฐบาลพัง ที่สำคัญคือนำไปสู่การทำรัฐประหาร


อีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่อง ICC เรื่องศาลอาญาระหว่างประเทศ อาจารย์ไป ICC มา แล้วอาจารย์ก็บอกกับทางพรรคเพื่อไทย คือกว่าจะให้ ICC เขารับเรื่องได้ ไม่ใช่ง่ายนะ จนกระทั่งอัยการ ICC มาถึงแล้วก็ขอให้รัฐมนตรีต่างประเทศเซ็น เรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมาตรา 6 ไม่ถึงพระมหากษัตริย์เลย เป็นเฉพาะกรณีปี 2553 ให้เขามาแค่สำรวจตรวจสอบ แล้วถ้ากระบวนการยุติธรรมของศาลไทยเป็นไปได้ด้วยดี เขาก็ไม่ต้องมายุ่งเลย เพียงแต่ว่าเขามาตรวจสอบข้อมูลตั้งแต่ในขั้นต้นก่อน ทางรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยเขาก็ไม่ยอมเซ็น เราทำเพราะเราเกรงไปว่าความยุติธรรมสำหรับประชาชนมันจะไม่เกิดขึ้น และมันจะมีการฆ่าประชาชนอีกต่อไป นี่คือ 3 เรื่องใหญ่ ๆ


มาในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะตั้งแต่ต้นอาจารย์มองดูอาการออกแล้วว่าพรรคเพื่อไทยเองตอนแรกก็ไม่ได้พูดเรื่องที่ว่าไม่เอาลุง เพราะเขาคงไม่แน่ใจว่าผลสุดท้ายการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร แต่อาจารย์มองแล้วว่าการที่เขาวางโจทย์เรื่องเศรษฐกิจ ในฐานะนักต่อสู้และคนเสื้อแดงที่สู้มายาวนาน เรารู้ว่ามันไม่ตอบโจทย์ประเทศ ไม่ตอบโจทย์ประชาชน ไม่ตอบโจทย์คนเสื้อแดง ซึ่งต้องการเปลี่ยนแปลง อาจารย์เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้พรรคเพื่อไทยเขาก็รู้แล้วว่าประชาชนและคนเสื้อแดงต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง มันไม่ใช่การทำงานแบบสังคมสงเคราะห์ เอาเงินไปแจก เพราะฉะนั้นกระเป๋าเงินวอลเล็ต 1 หมื่น มันก็ยังไม่สามารถทำให้แลนด์สไลด์ได้ มันพิสูจน์ให้เห็นว่าหัวใจประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลง


** คุณภูมิธรรมพูดว่าเราต้องมีการสลายขั้ว ยอมเจ็บปวด ยอมกลืนเลือด ไปสู่สังคมใหม่ อาจารย์จะท้วงเรื่องนี้ **


ใช่ ขอท้วงเรื่องนี้ คำพูดนี้ อาจารย์ในฐานะคนรุ่นเก่า ภาษานี้มันเป็นภาษาของฝ่ายก้าวหน้า สังคมที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมใหม่มันต้องผ่านการเจ็บปวดเหมือนการคลอด ให้ได้สังคมใหม่ที่ก้าวหน้า แต่ว่าที่เพื่อไทยกำลังทำนี้มันไม่ได้ไปสู่สังคมใหม่ที่สวยงามของประชาชนนะ เพราะมันไม่ใช่สังคมที่ก้าวหน้า การที่คุณไปร่วมอยู่กับกลุ่มขั้วรัฐบาลเดิม เราเคารพในความเชื่อที่ต่าง แต่ในฐานะประชาชนที่ต่อสู้มายาวนาน การที่คุณเปลี่ยนกลับ แทนที่จะอยู่ในฝ่ายที่ต่อสู้ให้ได้ประชาธิปไตย อันนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ดังนั้น อย่าพูดว่ามันต้องเจ็บปวดเพื่อได้สังคมใหม่ แล้วคุณคิดว่าที่คุณไปร่วมนี่คุณได้สังคมใหม่ที่ดีกว่าเดิมเหรอ? มันไม่ใช่นะ มันจะทำให้ความพยายามเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมใหม่ยากลำบากขึ้น เพราะเราเสียทัพใหญ่ไปเลยหนึ่งทัพคือพรรคเพื่อไทย มันก็เหลือทัพน้อยลง แต่อาจารย์คิดว่าในทัพน้อยลงนี้ ประชาชนจะมากขึ้น ปัจจุบันก็ 70 กว่าเปอร์เซ็น นี่ไม่ใช่พูดซ้ำเติมนะ แต่เรากำลังพูดความจริง


รับชม รายการสับประเด็น


EP.117 (1/2) ลิ้งค์ https://www.youtube.com/watch?v=rq1QUmkUVQ0

EP.117 (2/2) ลิ้งค์ https://www.youtube.com/watch?v=ywVxvJyHIFo&t=16s


ขอบคุณ PPTV HD36


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #จัดตั้งรัฐบาล #เพื่อไทย #สลายขั้ว #คนเสื้อแดง