วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2566

“เพื่อไทย” ดีล “ชาติไทยพัฒนา” ได้อีก 10 เสียง “วราวุธ” ยัน คุย “ก้าวไกล” ไร้ปัญหา สำคัญอยู่ที่ตั้งรบ.ได้เร็ว “ชลน่าน” ชี้ สามารถตอบคำถามและให้ความมั่นใจสว.ได้ กรณีพูดคุยกับ “ก้าวไกล” วานนี้

 


“เพื่อไทย” ดีล “ชาติไทยพัฒนา” ได้อีก 10 เสียง “วราวุธ” ยัน คุย “ก้าวไกล” ไร้ปัญหา สำคัญอยู่ที่ตั้งรบ.ได้เร็ว “ชลน่าน” ชี้ สามารถตอบคำถามและให้ความมั่นใจสว.ได้ กรณีพูดคุยกับ “ก้าวไกล” วานนี้


วันที่ 10 สิงหาคม 2566 ที่อาคารรัฐสภา พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาลกับ พรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา และนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา


โดยนายวราวุธ กล่าวขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ให้เกียรติเชิญร่วมรัฐบาลหลังจากที่ได้มีการพูดคุยหารือแนวทางและแสดงจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนาไปแล้วเมื่อ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา แสดงถึงการที่ทั้งสองพรรคมีแนวคิด, นโยบายและทัศนคติหลาย ๆ เรื่องไปในทิศทางเดียวกัน สามารถทำงานด้วยกันและเป็นผลดีต่อประเทศชาติ จึงตอบรับคำเชิญของพรรคเพื่อไทยในการที่จะทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะนำความมั่นคงและทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้


จากนั้น นพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ขอบคุณพรรคชาติไทยพัฒนาที่ได้ตอบรับคำเชิญร่วมรัฐบาล และได้อ่านคำแถลงจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยและพรรคชาติไทยพัฒนา (รายละเอียดตามลิ้งค์ https://udd-news.blogspot.com/2023/08/blog-post_10.html ) จากนั้นเป็นการตอบคำถามพี่น้องสื่อมวลชน


ผู้สื่อข่าวถามนายวราวุธ กรณีวานนี้พรรคเพื่อไทยไปเจรจากับพรรคก้าวไกลจะเป็นปัญหาหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า การที่แต่ละพรรคแสดงเจตจำนงทำงานร่วมกันแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของทุกพรรคที่จะช่วยกันหาคะแนนเสียงในการโหวตเลือกนายกฯ ให้ได้เกิน 376 เสียง ดังนั้นก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรค รวมทั้งชาติไทยพัฒนาเองก็จะไปช่วยกันหาคะแนนเสียงเพิ่ม เพื่อทำให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด ไม่น่าจะเป็นปัญหา


กรณีข้อกังวลของสว.บางส่วนที่เห็นว่าพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกล เกรงจะมีการดึงพรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาลในโอกาสต่อไป นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เพื่อไทยและก้าวไกลพยายามจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันโดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากเสียงในรัฐสภา ต่อมาพรรคเพื่อไทยได้รับไม้ต่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลภายใต้ MOU 8 พรรคร่วม 312 เสียง เราพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะขอคะแนนจากทุกฝ่าย สิ่งที่เราทำอย่างเปิดเผยคือต้องหาความร่วมมือจากทุกพรรคทุกฝ่าย และได้รับคำตอบที่ชัดเจนไม่ว่าจะมีการแก้ไขหรือไม่แก้ไขมาตรา 112 มี 4 พรรคการเมืองตอบชัดว่าไม่สามารถร่วมรัฐบาลได้ มีเพียง 1 พรรคที่บอกว่าถ้ามีการปลดล็อคไม่แก้ไขมาตรา 112 เขาสามารถเข้าร่วมรัฐบาลได้ เรามีความจำเป็นต้องหาเสียงเพิ่มภายใต้เงื่อนไขว่าถ้ามีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่จะไม่ได้เสียงโหวตเพิ่ม เราจำยอมที่จะต้องทำ ไม่เคยเกลียดพรรคก้าวไกล แต่สถานการณ์อย่างนี้ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เดินหน้าปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้เท่ากับปฏิเสธความรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติบ้านเมือง


ส่วนข้อกังวลของสว. นพ.ชลน่าน กล่าวว่าเป็นเอกสิทธิ์ในการแสวงหาเสียงเพิ่มเพื่อขอคะแนนในการโหวตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่การจัดตั้งรัฐบาล เพราะเราติดล็อครัฐธรรมนูญที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เราก็พยายามของทุกฝ่ายมามีส่วนร่วม การพูดคุยกับทุกพรรครวมทั้งพรรคก้าวไกล เป็นเจตจำนงเพียงเพื่อไปสอบถามขอความร่วมมือว่าเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนที่เราจะมาปลดล็อครัฐธรรมนูญ เราไม่ได้ไปเชิญชวนพรรคก้าวไกลให้มาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อว่าความกังวลของสว.เราสามารถตอบคำถามและให้ความมั่นใจได้


นายภูมิธรรม กล่าวว่า การไปพรรคก้าวไกลวานนี้ไม่ใช่สิ่งผิดปกติเพราะเราไปทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกคน คือการปฏิบัติที่สะท้อนว่าเราต้องการสลายทุกขั้วความขัดแย้งในทุกพรรคการเมือง ยืนยันว่าการไปเมื่อวานไม่ใช่ไปเชิญพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล เราไปเพื่อรับฟังคำเห็นเพื่อให้การตั้งรัฐบาลครั้งนี้สามารถสร้างมิติการเมืองใหม่อย่างที่กล่าวไปแล้ว ทุกพรรคในรัฐสภาจะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ สิ่งที่ต้องการอันดับแรกคือแก้ไขวิกฤตของประเทศ ขอให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #ชาติไทยพัฒนา #จัดตั้งรัฐบาล