'ชัยธวัช' หวั่นประชาชนมองไม่สง่างาม หลัง ‘วันนอร์’ ชิงปิดประชุม
ยืนยันประธานควรเปิดรัฐสภาลงมติ ด้าน ‘รังสิมันต์’ แจงก้าวไกลไม่ได้เสนอญัตติซ้ำ
ย้ำปัญหาของสภาแก้ได้ที่สภา
วันที่
4 สิงหาคม 2566 ที่รัฐสภา ชัยธวัช ตุลาธน
เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล
แถลงข่าวภายหลังวันมูฮัมหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา
สั่งปิดการประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.
ทำให้วาระสำคัญอย่างการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกมาตรา 272 ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล เพื่อปิดสวิตช์ สว.
ไม่ให้มีอำนาจร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี ต้องถูกเลื่อนออกไป
ชัยธวัช
กล่าวว่า ยืนยันว่าญัตติที่
สส.พรรคก้าวไกลเสนอให้มีการทบทวนมติรัฐสภาเรื่องการเสนอชื่อนายกฯ
อยู่ภายใต้การกำกับของข้อบังคับฯ ข้อ 41 นั้น เป็นกระบวนการตามปกติ
เป็นญัตติที่ถูกต้อง และประธานสภาควรเปิดให้มีการลงมติ
“ในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายสนับสนุนให้วันมูฮัมหมัดนอร์
ดำรงตำแหน่งประธานสภา
มีข้อกังวลว่าการปิดสภาวันนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่าไม่สง่างาม
อาจถูกมองได้ว่าเมื่อเห็นว่าเสียง สว. ไม่มากพอจึงไม่นำไปสู่การลงมติ
หวังว่าการดำเนินการประชุมหลังจากนี้จะดีขึ้น” ชัยธวัชกล่าว
เลขาธิการพรรคก้าวไกลกล่าวต่อว่า
นอกจากนั้น พรรคก้าวไกลยืนยันว่าการเลือกนายกฯ ของรัฐสภาในวันนี้
สามารถดำเนินการได้ ไม่จำเป็นต้องรอมติของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจเต็มของรัฐสภา
และที่สำคัญ ต่อให้สมาชิกส่วนใหญ่ของรัฐสภาลงมติว่าให้เลื่อนวาระการเลือกนายกฯ
ออกไปก่อน ก็ยังมีวาระที่สองคือพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งมีความสำคัญมาก
โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่การเลือกนายกฯ มีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง
การพิจารณาเพื่อปิดสวิตช์ สว. ตามร่างที่พรรคก้าวไกลเสนอ หากผ่านวาระที่หนึ่ง
จะทำให้สถานการณ์การเลือกนายกฯ ไม่เดินไปสู่ทางตัน
จึงหวังว่าการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไปจะดำเนินการประชุมได้โดยเร็วที่สุดและเป็นปกติ
ด้านรังสิมันต์
กล่าวว่า วันนี้ สส. ก้าวไกลพร้อมทำหน้าที่
เราตั้งใจยื่นญัตติเพื่อขอทบทวนมติรัฐสภา
หลังจากก่อนหน้านี้มีการเข้าชื่อกันของนักวิชาการ และผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ
นำไปสู่การพิจารณาเลื่อนวาระเลือกนายกฯ แต่ในความเป็นจริง
กระบวนการที่เป็นปัญหาเหล่านี้ ใช้อำนาจกลไกของสภาฯ หาทางออกได้
ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาศาลรัฐธรรมนูญ
"พวกเราไม่มีเจตนาประวิงเวลา ความเป็นจริงท่านประธานต้องให้มีการพิจารณาเรื่องนี้
เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปให้เร็วที่สุด และหวังว่าเมื่อสภามีมติไปแล้ว เช่น
มติให้ทบทวนและเลิกในผลที่เราเคยมีมติ
ก็จะได้ไม่ต้องมาเจอเงื่อนไขเลื่อนการประชุมครั้งต่อไป
เพราะไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยอย่างไรในอนาคต" รังสิมันต์กล่าว
โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวต่อว่า
ขอยืนยันว่าการเสนอของพรรคก้าวไกลในวันนี้ไม่ใช่ญัตติซ้ำ
เพราะเนื้อหาสาระคือการเสนอให้ทบทวน ซึ่งแตกต่างจากวันที่ 19 กรกฎาคม
ที่เป็นมติเรื่องการตีความข้อบังคับว่าการเสนอชื่อนายกฯ คือพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
จะเสนอได้อีกหรือไม่ ตามข้อบังคับฯ ข้อ 41
ส่วนที่ประธานสภาพยายามอธิบายว่าตามข้อบังคับฯ
ข้อ 151 มีข้อความระบุการตีความนั้นต้องเป็นการตีความที่เด็ดขาด
แต่คำว่าเด็ดขาดในที่นี้หมายความว่าเมื่อตีความไปแล้วจะมีผู้หนึ่งผู้ใดยกเรื่องเดิมมาอีกไม่ได้
ไม่ได้หมายความว่าจะปิดกั้นไม่ให้ที่ประชุมของรัฐสภามีการทบทวนวินิจฉัยอีกครั้ง
เทียบเคียงกับองค์กรอื่น เช่น ศาล ที่มีอำนาจเด็ดขาดลักษณะเดียวกัน
ถึงที่สุดก็สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นยืนยันว่าการเสนอเช่นนี้ทำได้แน่นอน
และเพื่อนสมาชิกจากพรรคเพื่อไทยก็ได้ช่วยยืนยันแล้ว
"ทั้งหมดนี้จึงน่าแปลกใจและน่าเสียดายที่การประชุมของสภาต้องสิ้นสุดโดยไม่มีข้อยุติอะไรเลย
ที่น่าเสียดายที่สุดคือวาระพิจารณายกเลิกมาตรา 272 ซึ่งเป็นประตูทางออกของประเทศ
วันนี้เราทราบตั้งแต่ต้นว่ามีความพยายามล้มการประชุม ถ้าไม่ได้ สส.วิโรจน์
ลักขณาอดิศร ช่วยกระตุ้นก็คงไม่มีการแห่เข้ามาประชุม แต่การใช้วิชามารแบบนี้
คำถามสำคัญที่พี่น้องประชาชนถามก็คือ ประเทศได้อะไร" รังสิมันต์กล่าว
ในช่วงตอบคำถามสื่อมวลชน
ชัยธวัชได้ยืนยันว่าหากมีการประชุมรัฐสภาครั้งหน้า
จะเสนอญัตติให้มีการทบทวนมติรัฐสภาอีก เพราะวันนี้ญัตติไม่ได้ตกไป
เพียงแต่เลื่อนพิจารณา ส่วนการยกเลิกมาตรา 272 มีความสำคัญต่อสถานการณ์การเลือกนายกฯ
เป็นอีกมาตรการที่ทำให้การเมืองไม่ไปสู่ทางตัน ทั้งนี้ยืนยันว่าทั้ง 2 เรื่องไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมืองใด แต่มีผลต่อแคนดิเดตของทุกพรรคการเมือง
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ประชุมสภา #ปิดสวิตช์