วันพุธที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2566

“ก้าวไกล” แถลงขอโทษประชาชน ตั้งรบ.ตามเจตจำนงไม่สำเร็จ “ชัยธวัช” ประกาศพร้อมเดินหน้าไม่ว่าสถานะไหน เผย “เพื่อไทย” ไม่ได้คุยแก้ 112 ให้เหตุผลเป็นเพราะตัวพรรคทำสส.ในสภาไม่ยกมือโหวต พ้อ เลือกไม่ได้เป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรค 2 ลุง

 


“ก้าวไกล” แถลงขอโทษประชาชน ตั้งรบ.ตามเจตจำนงไม่สำเร็จ “ชัยธวัช” ประกาศพร้อมเดินหน้าไม่ว่าสถานะไหน เผย “เพื่อไทย” ไม่ได้คุยแก้ 112 ให้เหตุผลเป็นเพราะตัวพรรคทำสส.ในสภาไม่ยกมือโหวต พ้อ เลือกไม่ได้เป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรค 2 ลุง


วันที่ 2 สิงหาคม 2566 เมื่อเวลา 16.05 น. ที่ตึกไทยซัมมิท นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวภายหลังที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการจัดตั้งรัฐบาลโดยที่ไม่มีพรรคก้าวไกลว่า ตนขอแถลงเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ดังนี้


1. พรรคก้าวไกลต้องขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่เราไม่สามารถผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาล ที่เคารพเจตจำนงของพี่น้องประชาชนผ่านการเลือกตั้งได้สำเร็จ ดังที่พรรคเพื่อไทยได้แถลงไปแล้วเมื่อตอนบ่าย ว่าหลังจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะแยกจากพรรคก้าวไกลไปจัดตั้งรัฐบาลด้วยตนเอง ในการพูดคุยระหว่างตัวแทนของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเมื่อเช้านี้ พรรคเพื่อไทยได้แจ้งว่า ต้องการที่จะขอออกจาก MOU ที่เราได้ทำร่วมกันทั้ง 2 ฉบับ คือ MOU จัดตั้งรัฐบาลระหว่าง 8 พรรคการเมือง และ MOU ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้ทำร่วมกัน ระหว่างที่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเลือกประธานสภา


2. ในการพูดคุยกันพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการขอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาถอยการเสนอการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 และตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีการเจรจากันในเรื่องนี้ โดยพรรคเพื่อไทยได้ให้เหตุผลว่า พรรคการเมืองเกือบทั้งหมดที่พรรคเพื่อไทยได้ไปพูดคุยมาไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะมีเรื่องมาตรา 112 หรือไม่ก็ตาม


3. พรรคเพื่อไทยไม่ได้ขอให้พรรคก้าวไกลโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค และในการพูดคุยกันเมื่อเช้านี้ แกนนำของพรรคเพื่อไทยบางคนได้แสดงความกังวลใจว่า หากพรรคก้าวไกลจะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย อาจทำให้สว. ไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทย เพราะกังวลว่าหากเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น พรรคเพื่อไทยจะดึงพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลอีก


นายชัยธวัช กล่าวทิ้งท้ายว่า สุดท้ายพรรคก้าวไกลอยากจะเรียนพี่น้องประชาชนว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะไหนหลังจากนี้ พรรคก้าวไกลจะทำงานในฐานะผู้แทนราษฏรอย่างเต็มที่ และดีที่สุด ตามที่เราได้รับความไว้วางใจจากการเลือกตั้ง เพื่อผลักดันคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนทุกคน ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจที่เท่าทันโลก และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เติบโตอย่างเสมอภาคเท่าเทียม


“เราจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันการกระจายอำนาจ การปฏิรูประบบราชการ การสร้างรัฐที่โปร่งใส เป็นธรรม เคารพสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน และสร้างระบบการเมืองให้เป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นระบบที่เสียงและอำนาจของพี่น้องประชาชนมีความหมายจริง ๆ ให้ได้สักวันหนึ่ง” นายชัยธวัช กล่าว


เมื่อถามว่าส่วนเรื่องการโหวตให้เพื่อไทยหรือไม่ ในวันนี้ 4 ส.ค.นั้น ขณะนี้ยังไม่มีมติ และวันนี้จะมีการประชุมสส. ซึ่งก็เปิดให้สส.แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ และจะมีข้อสรุปกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้


เมื่อถามว่า มองว่าพรรคเพื่อไทยแจ้งตอนนี้ ก่อนโหวตนายกรุฐมนตรีไม่กี่วัน กระชั้นชิดไปหรือไม่ รวมถึงเห็นสัญญานการแยกทางกันตั้งแต่เมื่อไร นายชัยธวัช ระบุว่า เรามีการพูดคุยกันเป็นระยะ ซึ่งคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร


เมื่อถามว่า การทำงานร่วมกันในอนาคตกับพรรคเพื่อไทยจะทำงานกันต่อได้หรือไม่ เพราะมีกฎหมายหลายฉบับของพรรคก้าวไกลที่พรรคเพื่อไทยพร้อมจะผลักดันนั้น นายชัยธวัช ระบุว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า MOU หลังจากนี้ไม่มีอีกแล้ว ทั้ง MOU 8 พรรค และ MOU ระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกลตอนที่เลือกประธานสภา ซึ่ง MOU ฉบับหลังมีส่วนสำคัญคือมีการตกลงว่าจะร่วมมือกันผลักดันกฎหมายหลายฉบับ และส่วนใหญ่เป็นเรื่องปฏิรูปกองทัพและการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ซึ่งก็ไม่มีอีกแล้ว แต่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เรายังเสนอแนะมาตรการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งหวังว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แม้ว่าจะไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวกัน แต่เข้าไปเป็นฝ่ายค้าน ก็หวังว่าฝ่ายรัฐบาลจะเห็นชอบด้วย


ส่วนจะเป็นผู้นำฝ่ายค้านทำหน้าที่ในสภาได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า  ยังไม่ได้จบอย่างเป็นทางการ แต่อย่างที่แถลงไปแล้วไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะอยู่ในฐานะไหน แต่เราก็จะทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรอย่างดีที่สุด เพื่อผลักดันนโยบายของเราผ่านสภา


ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ในอนาคตจะสามารถทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า หากพรรคก้าวไกลได้เป็นฝ่ายค้านจริง ๆ ก็สามารถที่จะผลักดันหลาย ๆ อย่างได้ และที่ผ่านมาในสมัยสภาที่แล้ว แม่ว่าร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลจะไม่เคยผ่าน แต่ในครั้งนี้เราหวังว่า น่าจะมีหลายฉบับผ่าน หากพรรครัฐบาลเห็นชอบ ว่ามันเป็นประโยชน์ส่วนรวมจริง ๆ


เมื่อถามว่า การที่พรรคเพื่อไทย เชิญ 5 พรรคฝั่งตรงข้ามมารับ ฟังสุดท้ายไม่ได้ข้อตกผลึก พรรคก้าวไกลมองว่า พรรคเพื่อไทยให้เกียรติหรือปิดโอกาสในการชี้แจง 8 พรรคร่วมหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนคิดว่าเหตุผลที่แท้จริง อย่างที่พรรคก้าวไกลเคยชี้แจงไปหลายครั้งแล้วว่า เรื่อง ม.112 เป็นแค่ข้ออ้าง ฝ่ายการเมืองจำนวนมากโดยเฉพาะอำนาจเก่าไม่ได้ต้องการที่จะเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ไม่ใช่เรื่อง 112 หลายพรรคที่เคยแถลงกับพรรคเพื่อไทยก็พูดชัดเจนว่าไม่ต้องการร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล เนื่องจากอุดมการณ์ทางการเมืองและแนวทางไม่ตรงกัน ส่วนจะมีพรรคไหนไปกับเพื่อไทยและพรรคพรรคไหนไปกับก้าวไกลบ้างนั้น ตนยังไม่ทราบ แต่เท่าที่ทราบได้มีการแจ้งกับพรรคต่าง ๆ แล้ว แต่ไม่ทราบท่าทีของแต่ละพรรค


เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยได้แจ้งหรือไม่ว่าจะเอาพรรค 2 ลุงมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัช ตอบว่า ยังไม่ได้แจ้งชัดเจน เท่าที่อ่านคำแถลงของเพื่อไทยตอนบ่ายก็ขอให้รอฟังพรุ่งนี้ทีเดียว


เมื่อถามถึงความรู้สึกของพรรคก้าวไกลว่าอยากจะระบายอะไรออกมาหรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความบิดเบี้ยวของการเมืองไทย ซึ่งเราได้เคยพูดไปกับสังคมแล้วว่า ปัญหาของการเมืองไทยจริง ๆ นั้น อำนาจสูงสุดไม่ได้เป็นของประชาชน จึงเป็นปัญหาใหญ่ของการเมืองไทยในยุคสมัยนี้ จึงเป็นภารกิจของพวกเราที่จะผลักดันเปลี่ยนแปลงสุดความสามารถ ให้กลับมาเป็นระบอบประชาธิปไตยตามปกติที่เสียงและอำนาจของประชาชนสำคัญที่สุด


และถ้ามีการรวมเสียงของ 2 พรรคลุงมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลจะมีท่าทีอย่างไรบ้าง นายชัยธวัช ระบุว่า ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกลแล้ว พร้อมย้ำว่า การพูดคุยเมื่อเช้า เราเข้าใจซึ่งกันและกัน


เมื่อถามว่าสส.และอดีตสส.ของพรรคหลายคน อยากให้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยร่วมรัฐบาลกัน แต่วันนี้ฉีก MOU แล้วจะมีการเคลียร์ความรู้สึกกับสส.อย่างไร นายชัยธวัช ระบุว่า ตนคิดว่าทุกคนเข้าใจสถานกานณ์ ซึ่งแน่นอนว่าเราอยากเห็น 8พรรคการเมืองจับมือกันแน่นและไม่เชื่อว่าจะมีการพลิกขั้วรัฐบาล แต่ถึงตอนนี้พรรคเพื่อไทยตัดสินใจออกจาก MOU แล้ว การจัดตั้งรัฐบาลก็คงเป็นอีกแบบหนึ่ง


เมื่อถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน แล้วพรรค 2 ลุงก็เป็นฝ่ายค้าย จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า “อันนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก ปกติการเลือก คือการเลือกพรรคมาร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคที่ไม่ได้ถูกเลือกมาร่วมรัฐบาลก็จะเป็นฝ่ายค้าน มันไม่มีใครมีสิทธิเลือกซึ่งกันและกัน คงไม่มีการจับขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้าน” นายชัยธวัช ยังย้ำว่า หากได้รัฐบาลใหม่และมีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้จริง ๆ การเลือกตั้งก็คงเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวัง


ภายหลังการแถลงข่าว นายชัยธวัช ได้ทำท่าชูกำปั้น เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ ซึ่งเป็นท่าเดียวกับที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ทำในวันที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่สส.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เพื่อไทย