‘ก้าวไกล’ เปิดตัว ‘เฮง วีระเดช ภู่พิสิฐ’ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน ชูนโยบายการศึกษา-สาธารณสุข ‘ชัยธวัช’ ลั่น 7 สิงหาไม่ว่าจะเกิดอะไร อนาคตข้างหน้ามีแต่สว่างไสว ด้าน ‘พิธา’ ปลุกเลือกก้าวไกลถล่มทลาย ได้ ‘เฮง’ เป็นนายกฯ ตรงปก ไม่มี สว. มาเลือกด้วย
วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2567 ที่ห้างแจ่มฟ้า ชอปปิงมอลล์ จ.ลำพูน พรรคก้าวไกลเปิดเวทีแนะนำว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. และ สจ. จังหวัดลำพูน ในนามพรรคก้าวไกล
[ พริษฐ์ ชูวิสัยทัศน์นโยบายปฏิรูปการศึกษา อบจ.ทำได้ ]
โดยพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่าปัญหารัฐราชการรวมศูนย์ไม่ได้กระทบต่อเพียงการศึกษา แต่รวมถึงบริการสาธารณะอื่นๆ ตนและ สส.ก้าวไกลพยายามเต็มที่ในการใช้กลไกสภาฯ ผลักดันการกระจายอำนาจ เรายกร่างแก้ไข พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ เพื่อกระจายอำนาจและงบประมาณให้ท้องถิ่น ตอนนี้รอเพียงลายเซ็นนายกฯ รับรองให้ร่างการเงินฉบับนี้เข้าสภาฯ
ในระดับท้องถิ่น ตนเห็นว่ามี 3 โจทย์สำคัญที่ อบจ. สามารถผลักดันแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวลำพูนได้ (1) แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ทำอย่างไรให้ลูกหลานเราทุกคนมีโอกาสเรียนหนังสือ ปีนี้เป็นปีแรกในประวัติศาสตร์ที่รายงานกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดเผยว่ามีเด็กและเยาวชนหลุดจากระบบการศึกษาถึง 1 ล้านคน ตนไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าความรับผิดชอบนี้เป็นของรัฐบาลส่วนกลางและ กสศ. แต่สิ่งที่ส่วนกลางทำอยู่อาจไม่เพียงพอ หากก้าวไกลได้บริหาร อบจ. เราสามารถจัดสรรงบประมาณเพื่อลงทุนแก้ไขปัญหาได้ทันที เพราะ กสศ. ได้ทำฐานข้อมูลตัวเลขไว้แล้วว่ามีเด็กที่มีความเสี่ยงจะหลุดจากระบบการศึกษาเท่าไรและที่ไหนบ้าง ดังนั้น โรงเรียนภายใต้การบริหารของ อบจ.ลำพูน 4 แห่ง สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
(2) การพัฒนาหลักสูตรการศึกษา ถึงแม้ลูกหลานเราทุกคนได้เรียนหนังสือ แต่จะมีประโยชน์อย่างไรหากต้องเรียนในระบบที่ไม่มีคุณภาพ ปัจจุบันเรายังอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งถูกกำหนดโดยส่วนกลางและพรรคก้าวไกลเห็นว่าต้องมีการแก้ไข แต่ท้องถิ่นยังสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ตนเข้าใจว่าท้องถิ่นหลายแห่งมีความกังวลเกี่ยวกับตัวชี้วัดที่เป็นเหมือนกรงขัง ทำให้กลัวว่าถ้าทำอะไรแตกต่างจากหลักสูตรแกนกลางก็อาจถูกเล่นงาน แต่สิ่งที่ตนให้คำมั่นสัญญากับชาวลำพูนได้ คือหากก้าวไกลได้บริหาร อบจ.ลำพูน เราจะกล้าและพร้อมไต่เส้นดังกล่าวเพื่อฉุดการศึกษาออกจากกรงขังนี้ ทำให้หลักสูตรการศึกษาที่ถูกใช้ในจังหวัดลำพูนเป็นหลักสูตรที่ตอบโจทย์ชาวลำพูนอย่างแท้จริง โดยการออกแบบหลักสูตรให้ชูจุดแข็งของลำพูนและแก้ไขปัญหาของลำพูน
(3) การยกระดับทักษะทุกช่วงวัย ในภาพใหญ่รัฐบาลจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มขึ้นในการยกระดับทักษะคนทุกช่วงวัย โดยต้องเป็นการลงทุนที่ไม่กระจัดกระจาย ต่างหน่วยงานต่างทำ แต่ต้องเป็นการส่งตรงไปให้ประชาชนในรูปแบบคูปองฝึกทักษะที่ประชาชนเลือกได้ว่าจะใช้เรียนอบรมอะไร ซึ่งเรื่องนี้ อบจ.ลำพูน สามารถดำเนินการได้ ด้วยการพิจารณาว่ามีทักษะที่เฉพาะเจาะจงอะไรบ้างเพื่อเสริมให้พี่น้องชาวลำพูน เช่นลำพูนเป็นสังคมสูงวัย อบจ.ลำพูน สามารถประสานและส่งเสริมภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาให้จัดทำหลักสูตรนักบริบาลเพื่อมาดูแลผู้สูงอายุ นี่คือคำสัญญาของพรรคก้าวไกล หากเราได้เข้าไปบริหาร อบจ.ลำพูน
พริษฐ์กล่าวต่อว่า 19 กรกฎาคมปีที่แล้ว เป็นวันที่พี่น้องชาวลำพูนหลายคนต้องผิดหวังกับระบบการเมืองไทยที่ถูกทำลายโดยอำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงรู้สึกดีใจที่ผ่านมาหนึ่งปี วันนี้ตนได้เป็นส่วนหนึ่งของการเติมความหวังให้ชาวลำพูนอีกครั้ง ว่าพรรคก้าวไกลพร้อมสู้ศึก อบจ. ในจังหวัดลำพูน
“แม้ก้าวไกลยังไม่เป็นรัฐบาล พิธาจะยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าท่านอยากเห็นนโยบายของพรรคก้าวไกลเกิดขึ้นจริง มีทางเดียวคือเลือกเฮงเป็นนายก อบจ.และเลือก สจ.ก้าวไกลลำพูน เอารัฐบาลก้าวไกลมาอยู่ที่ลำพูน ทำให้ลำพูนก้าวได้ไกลกว่าเดิม” โฆษกพรรคก้าวไกลทิ้งท้าย
[ ชัยธวัชลั่น 7 สิงหา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อนาคตข้างหน้ามีแต่สว่างไสวกว่าเดิมแน่นอน ]
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ช่วงนี้ตนเดินทางไปไหนก็มีคำถามยอดฮิตว่าพรรคก้าวไกลจะถูกยุบวันที่ 7 สิงหาคมนี้หรือไม่ หลายคนอาจหวั่นไหวเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจ แต่ตนในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลอยากจะบอกพี่น้องชาวลำพูนว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เราต้องหวั่นไหวไม่มั่นใจ เพราะหลัง 7 สิงหาคม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่อนาคตข้างหน้ามีแต่สว่างไสวกว่าเดิมแน่นอน ตนบอกกับ สส.ไปว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรามีแผนจะขยายที่ทำการพรรคแน่นอนแล้ว เพราะเรามั่นใจว่าการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ห้องประชุม สส. ของเราใหญ่ไม่พอแล้ว
“ดังนั้นผมขอให้ความมั่นใจอีกครั้ง ไม่ต้องหวั่นไหว เดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้ว เราจะเดินหน้าก้าวไปด้วยกัน ฝ่าฟันทุกอุปสรรค ทำลายทุกกำแพงที่มาขวางกั้นการเปลี่ยนแปลง จนกว่าการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจะปรากฏ” ชัยธวัชกล่าว
หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวต่อว่า เราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงระดับประเทศ ต้องเริ่มที่การเปลี่ยนแปลงจากบ้านเกิดของเรา เพราะไม่ต่ำกว่า 80% ที่พี่น้องมาร้องเรียนปัญหากับเรา เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งสิ้น นั่นคือเหตุผลที่พวกเราตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ต้องเปลี่ยนแปลงระบบราชการรวมศูนย์
“ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรายังเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลง และก้าวแรกในการสร้างความเปลี่ยนแปลง คือช่วยกันเปลี่ยนการเมืองท้องถิ่น เปลี่ยน อบจ.ลำพูนเป็นสีส้มและเปลี่ยน อบจ.ทั่วประเทศไปด้วยกัน” ชัยธวัชกล่าว
[ ชัยธวัชเปิดเบื้องหลัง ‘เฮง วีระเดช ภู่พิสิฐ’ ]
ชัยธวัชกล่าวว่า ย้อนหลังไปในปี 2561 เราเริ่มต้นสร้างพรรคอนาคตใหม่โดยการประกาศเปิดรับแนวร่วมอนาคตใหม่ ในตอนนั้นมีคนแสดงตัวประมาณ 7,000 คน มีคนลำพูนอยู่ 7 คน หนึ่งในนั้นคือคุณเต๋อ วิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก ปัจจุบันเป็นผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล และอีกหนึ่งคนในนั้นคือคุณเฮง วีระเดช ภู่พิสิฐ คุณเฮงช่วยงานเรามาตลอดในนามอาสาสมัครโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนและตำแหน่งทางการเมืองอะไรเลย พอเราย้ายมาเป็นพรรคก้าวไกล คุณเฮงก็ยังช่วยสร้างทีมงานของพรรค และมีอีกเรื่องพี่น้องลำพูนอาจไม่รู้ คือสาขาพรรคสาขาแรกของพรรคก้าวไกล คือจังหวัดลำพูน ซึ่งคุณเฮงได้รับเลือกเป็นหัวหน้าสาขาพรรคก้าวไกล จ.ลำพูน จนเราประสบความสำเร็จสามารถปักธงสีส้มที่ จ.ลำพูน เขต 1 ในการเลือกตั้งใหญ่อีกด้วย ดังนั้นตนจึงไม่มีความสงสัยอะไรในความสามารถของคุณเฮงเลย
[ เปิดวิสัยทัศน์นโยบายก้าวไกล ‘โกเฮง’ พัฒนาลำพูน ]
วีระเดช ภู่พิสิฐ หรือ 'โกเฮง' ขึ้นเวทีกล่าวแสดงวิสัยทัศน์และแนวนโยบายของพรรคก้าวไกลต่อสนาม อบจ.ลำพูน ว่าทำไม อบจ.ลำพูนต้องก้าวไกล ตนเตรียมนโยบายที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน อาทิ (1) การศึกษาก้าวไกล เช่น ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ให้ลูกหลานได้เรียนกับบุคลากรที่มีคุณภาพ, ตั้งหลักสูตรสามัญบวกหลักสูตรอาชีวะ นายก อบจ. จะทำเอ็มโอยูกับบริษัทต่างๆ ให้ลูกหลานชาวลำพูนสามารถเสริมสร้างทักษะอาชีพในระหว่างที่เรียนระดับมัธยมไปด้วยได้ จบออกมามีวุฒิมีงานมีเงิน, เพิ่มทุนการศึกษาให้เด็กปีละ 5 ล้านบาท เด็กลำพูนทุกคนต้องมีสิทธิ์เรียนอย่างเท่าเทียมกัน
(2) ด้านสาธารณสุข เช่น ยกระดับ รพ.สต. ในตัวเมืองเป็นศูนย์การแพทย์ มีอุปกรณ์ครบครัน มีคลินิกผู้ป่วยนอก 24 ชั่วโมง เข้าไปเมื่อไรเจอหมอที่นั่น, เพิ่มศูนย์ดูแลเด็กอ่อน, มีนักจิตวิทยาประจำ รพ.สต. เพราะจากสถิติคนลำพูนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าสูงสุดของภาคเหนือ (3) อบจ. smart ประชาชน smile เช่น ทรัพย์สินของ อบจ. อย่างสนามกีฬาหรือหอประชุม เดิมประชาชนจะขอใช้ก็ต้องทำหนังสือขออนุญาต รอนายก อบจ. เซ็นอนุมัติ แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องเจอนายก อบจ. แล้ว กรอกออนไลน์ใช้ได้เลย
วีระเดชกล่าวด้วยว่า ตนมายืนอยู่ตรงนี้เพราะเห็นถึงความเจ็บปวดเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เป็นปัญหาซ้ำ ๆ ที่ไม่ได้รับการแก้ไข วันนี้ขออาสาเข้ามาแก้ไข และให้คำยืนยันว่าจะไม่มีนักการเมืองคนไหนเป็นเจ้านายของประชาชน แต่นักการเมืองก้าวไกลทุกคนต้องมีประชาชนเป็นเจ้านาย
[ ‘พิธา’ ปลุกเลือกก้าวไกลให้ถล่มทลาย ได้ ‘เฮง’ เป็นนายกฯ ตรงปก ไม่มี สว. มาเลือกด้วย ]
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าจังหวัดลำพูนมีสถิติการออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั่วไปมากที่สุดในประเทศไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ในการเลือกตั้งปี 2562 เราได้คะแนนจากพี่น้องลำพูนไป 60,000 กว่าคะแนน โดนยุบพรรคหนึ่งครั้งเราได้เกือบ 120,00 คะแนน
เวลาเราคิดวางแผนเลือกตั้ง เราคิดกันล่วงหน้า 3 ครั้ง เราคิดกันล่วงหน้า 20-30 ปี จึงขอให้มั่นใจในการทำงานของพวกเรา การเลือกตั้ง อบจ. ถ้าเลือกเฮงก็ได้เฮงเป็นนายก อบจ. ตรงปก เพราะไม่มี สว. มาเลือกด้วย การเลือกตั้ง อบจ. สำคัญมาก เพราะเป็นคนทำงานที่อยู่ใกล้ตัว แก้ปัญหาให้ประชาชนได้ นอกจากนี้ อบจ. ยังมีงบประมาณมหาศาล ของลำพูนกว่า 420 ล้านบาท เป็นภาษีของประชาชน จึงต้องเลือกผู้บริหารที่ท่านเชื่อใจได้
“สำหรับเฮง ตอนผมเข้ามาอนาคตใหม่ก็เจอเขาแล้ว เขาเข้ามาก่อนผม ดังนั้นผมอยากให้พี่น้องชาวลำพูนเชื่อใจในเฮงเหมือนเชื่อใจในผมคนนี้”
พิธากล่าวต่อว่า ต้องขอโทษพี่น้องในหลายจังหวัดที่เราไม่ได้ส่งผู้สมัคร อบจ. เพราะมีเกณฑ์ในการคัดเลือกที่โหดมาก โดยจะต้องชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริงด้วย คุณภาพต้องมาก่อนปริมาณ พี่น้องเลือกเขามาตนก็ต้องไม่ให้พี่น้องผิดหวัง
สำหรับการเลือกตั้งทั่วไป เราสามารถเลือกตั้งล่วงหน้าและนอกเขต นอกราชอาณาจักรได้ แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีสิ่งเหล่านี้ แต่ตนไม่ห่วง เพราะพี่น้องลำพูนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั่วไป 2.5 แสนคน และออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายก อบจ. ก็ 2.5 แสนคน นี่คือความเป็นประชาธิปไตยของคนลำพูน ถ้าการเลือกตั้ง อบจ. ที่จะถึงต้นปีหน้า พี่น้องออกมาเลือกกันเยอะๆ คุณเฮงเป็นนายก อบจ.ลำพูน แน่นอน
พิธากล่าวว่า การแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนต้องทำงานอย่างไร้รอยต่อระหว่างจังหวัดกับสภาฯ ที่ กทม. โดยการบริหารจังหวัดของ อบจ. ต้องมี 4 เสาหลัก คือ เศรษฐกิจ การศึกษา สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข ประเด็นเหล่านี้เป็นปัญหาที่มีในทุกจังหวัด ถ้าแก้ได้ ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้นแน่นอน นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้
จังหวัดลำพูนมีรายได้ต่อประชากรสูงที่สุดในภาคเหนือ แต่ขณะเดียวกันก็มีอัตราฆ่าตัวตายอันดับหนึ่งของประเทศ และมีคนรุ่นใหม่ในจังหวัดน้อยที่สุดในภาคเหนือ ในขณะที่คนนอกจังหวัดมองลำพูนเป็นเมืองที่มีศักยภาพ เป็นเมืองหัตถอุตสาหกรรม แต่สถิติข้างต้นกำลังบอกว่าคนลำพูนไม่มีความสุขหรือไม่ นายก อบจ. คนต่อไปต้องคิดว่าทำอย่างไรให้การศึกษากับอุตสาหกรรมเชื่อมกัน ทำให้คนรุ่นใหม่ลำพูนอยากอยู่บ้าน รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม การศึกษา สุขภาพจิตก็ต้องได้รับการดูแลแก้ไข
“พรรคก้าวไกลพร้อมทำงาน ขอให้ประชาชนที่ชื่นชอบการทำงานของพรรค เคยให้ความไว้วางใจในระดับประเทศมาแล้วทั้งปี 62 และ 66 อยากได้นายกฯ ตรงปก ช่วยกันใช้สิทธิ์ใช้เสียงให้เยอะๆ เลือกพรรคก้าวไกลให้เฮงเป็นนายกฯ อบจ.ลำพูน คนต่อไป” พิธาทิ้งท้าย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ อบจลำพูน #ก้าวไกล
