พรรคเพื่อไทย
แถลงข่าว #กล่องรับขวัญ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28
กรกฎาคม 2567เตรียมมอบ ‘กล่องรับขวัญ’ จำนวน 720
กล่อง ให้กับเด็กๆ ที่เกิดในวันที่ 28 กรกฎาคม
2567
เมื่อวันที่
16 กรกฎาคม 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และสมาชิกพรรค
ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
28 กรกฎาคม 2567
จากนั้นนางสาวแพทองธาร
พร้อมด้วยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นายดนุพร
ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และ ทีมโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว
‘กล่องรับขวัญ’ ที่ได้จัดทำกิจกรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลร่วมกับภาคเอกชนจำนวน 720
กล่อง เพื่อมอบให้แก่เด็กที่เกิดในวันที่ 28 กรกฎาคม
2567 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6
รอบ 72 พรรษา
นางสาวแพทองธาร
กล่าวว่า เนื่องในวันมหามงคลนี้
เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พรรคเพื่อไทยและภาคีเครือข่าย
ได้จัดทำ ‘กล่องรับขวัญ’ ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยเป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริและพระราชปณิธาน เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีมีสุข
มุ่งหวังให้อนาคตของชาติ เติบโตไปอย่างมีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญเพื่อพัฒนาประเทศไทย
โดยจุดเริ่มต้นของกล่องรับขวัญที่เปิดตัวนั้น
ต่อยอดมาจากนโยบาย ‘ถุงรับขวัญ’ สำหรับเด็กแรกเกิด ที่รัฐบาลไทยรักไทยเคยทำเมื่อ 19 ปีที่แล้ว
หัวใจสำคัญของนโยบายถุงรับขวัญ คือการมอบของขวัญ
เพื่อสร้างพัฒนาการในช่วงแรกเกิดบนพื้นฐานของสมอง (Brain Based Learning) เสริมพัฒนาการทั้งในด้านการสัมผัส และการเรียนรู้ด้านอารมณ์
ในวันมหามงคลนี้
พรรคเพื่อไทยและภาคเอกชน จึงถือโอกาสพัฒนานโยบาย ‘ถุงรับขวัญ’
โดยยังคงตามแนวคิดการพัฒนาพื้นฐานสมอง (Brain Based Learning) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาองค์ความรู้ให้ตามยุคสมัย
ออกมาเป็นนโยบาย ‘กล่องรับขวัญ’
ที่ภายในกล่องบรรจุสิ่งของสำหรับเป็นตัวช่วยให้ผู้ปกครองได้ใช้เสริมพัฒนาการของทารกให้เติบโตสมวัย
โดยของที่บรรจุในกล่องรับขวัญ
ได้แก่ ของเล่นไม้ เสริมสร้างพัฒนาการ, หนังสือนิทาน, หนังสือนุ่มนิ่ม , บันทึกลูกรัก หรือ ชุดเครื่องมือ
‘7 วิธี พัฒนาลูกสมวัย สมองดีมีอีเอฟ’ , คู่มือเลี้ยงลูก 0-3 ขวบสไตล์คุณแม่ญี่ปุ่น และ
ผ้าห่อตัวเด็กเล็ก และด้วยความร่วมมือในครั้งนี้ทำให้กล่องรับขวัญ
เป็นของขวัญที่จะช่วยผู้ปกครองใช้ดูและและพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของเด็กๆ
ได้อย่างสมบูรณ์
โดยนายสรวงศ์
เลขาธิการพรรคเพื่อไทยได้กล่าวถึง การส่งมอบ ‘กล่องรับขวัญ’ ถึงมือเด็กๆ และ
ผู้ปกครองว่า ‘กล่องรับขวัญ’
จะถูกนำไปมอบให้เด็กแรกเกิดภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
จะเป็นผู้รวบรวมรายชื่อเด็กๆ ที่เกิดในวันที่ 28 กรกฎาคม และจะจัดส่ง
‘กล่องรับขวัญ’ ไปมอบให้แก่แม่และเด็กทั่วประเทศไทยที่โรงพยาบาลในวันที่ 29
กรกฎาคม
แต่เฉพาะเขตกรุงเทพมหานครนั้น
ให้ผู้ปกครองหรือญาติผู้ปกครอง สามารถมารับได้ที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย
(ถนนเพชรบุรี) ได้ในวันที่ 28-30 กรกฎาคม
โดยนำหลักฐานการเกิดที่ได้จากโรงพยาบาลมายื่นรับ และหลังจากวันที่ 31 กรกฎาคมเป็นต้นไป สามารถติดต่อรับเพิ่มเติมได้ที่ สก.
ในเขตพื้นที่ของพี่น้องประชาชน
นายดนุพร
กล่าวขอบคุณภาคเอกชนที่ช่วยพัฒนาองค์ความรู้และพัฒนา ‘กล่องรับขวัญ’ นำโดย Plan Toys , Plan For
Kids , สำนักพิมพ์ SandClock Books , granny ben , สถาบันรักลูกเลิร์นนิ่งกรุ๊ป , และ ผศ.ดร.ปนัดดา
ธนเศรษฐกร สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ทำให้
‘กล่องรับขวัญ’ สามารถเกิดขึ้นได้จริง ทุกภาคส่วนมีส่วนช่วยในการสร้าง
‘กล่องรับขวัญ’ ตั้งแต่ออกไอเดีย
แนะนำสิ่งของและมอบองค์ความรู้เรื่องพัฒนาการเด็กที่สมวัย ตามแต่ละความถนัดที่แต่ละภาคส่วน
สุดท้ายนี้
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข
กล่าวขอบคุณที่ให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเข้ามามีส่วนร่วมในการประสานการส่งมอบกล่องรับขวัญสู่มือประชาชน
ถือเป็นความปิติยินดียิ่งที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพประชากร
สร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบุคลากรไทยในภายภาคหน้าสืบไป